Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
(คำ (Word):, ความแตกต่างและขนาด:, หน่วยคำเติม (affix) คือ…
- จรัลวิไล จรูญโรจน์ (2548 : 103) ให้นิยามว่า คำคือ หน่วยอิสระที่เล็กที่สุดที่มีความหมาย.
- หน่วยใด ๆ จะเป็นคำได้ต้องมีคุณสมบัติครบ 3 ประการ คือ 1) อยู่เป็นอิสระได้ 2) เล็กที่สุด แบ่งแยกให้เล็กลงกว่านี้ไม่ได้ และ 3) มีความหมาย.
- วัลยา ช้างขวัญยืน และคณะ (2549 : 13) ระบุว่า คำคือหน่วยที่มีความหมายในภาษาที่สามารถปรากฏตามลำพังได้.
- หน่วยคำสามารถอยู่เป็นอิสระหรือไม่ก็ได้ แต่คำต้องปรากฏเป็นอิสระเท่านั้น.
- หน่วยในทางภาษาจะเริ่มจากหน่วยคำ และหน่วยที่ใหญ่กว่าเรียงลำดับขึ้นไป ได้แก่ คำ, วลี, ประโยค, และสัมพันธสาร.
- จึงกล่าวได้ว่า คำมีขนาดใหญ่กว่าหน่วยคำ.
- หน่วยคำเติม (affix) คือ หน่วยคำที่มาประกอบกับหน่วยคำแกนเพื่อทำให้เกิดคำใหม่ หรือเพื่อแสดงลักษณะทางไวยากรณ์ของคำ. แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ:
- หน่วยคำเติมหน้า หรือ อุปสรรค (prefix).
- หน่วยคำเติมหลัง หรือ ปัจจัย (suffix).
- หน่วยคำเติมกลาง หรือ อาคม (infix).
- จินดา เฮงสมบูรณ์ (2543 : 141) ให้นิยามว่า หน่วยคำคือ หน่วยที่เล็กที่สุดในภาษาซึ่งมีความหมาย และความหมายของหน่วยคำจะคงเดิมเสมอไม่ว่าจะปรากฏอยู่ที่ใดในประโยค.
- จรัลวิไล จรูญโรจน์ (2548 : 105) ระบุว่า หน่วยคำคือหน่วยที่เล็กที่สุดที่มีความหมาย จะอยู่เป็นอิสระได้ หรือไม่ก็ได้.
- คำผสาน: คำที่สร้างขึ้นด้วยการรวมหน่วยคำอย่างน้อย 2 หน่วยคำ โดยที่มีหน่วยคำใดหน่วยคำหนึ่งเป็น หน่วยคำไม่อิสระ. แบ่งเป็น 2 ประเภทย่อยคือ:
- คำผสานแท้: คือ คำผสานที่มีหน่วยคำไม่อิสระทั้งหมด.
- คำผสานเทียม: คือ คำผสานที่มีหน่วยคำไม่อิสระประกอบเข้ากับหน่วยคำอิสระ (โดยหน่วยคำไม่อิสระที่นำมาประกอบนั้นอาจจะเป็นชนิดเติมหน้า เติมกลาง หรือเติมหลังก็ได้).
- คำผสม: คำที่เกิดจากการรวม หน่วยคำอิสระกับหน่วยคำอิสระ เข้าด้วยกัน. แบ่งเป็น 2 ชนิด:
- คำประสม: คำที่เกิดจากการนำหน่วยคำอิสระที่มีความหมายต่างกันอย่างน้อย 2 หน่วยมารวมกัน เกิดเป็นคำใหม่ที่มีความหมายใหม่.
- คำซ้อน: คำที่เกิดจากการนำหน่วยคำอิสระตั้งแต่ 2 หน่วยขึ้นไปมาเรียงต่อกันโดยแต่ละคำมีความสัมพันธ์กันในด้านความหมาย. ความสัมพันธ์ด้านความหมาย ได้แก่ ความหมายเหมือนกัน, ความหมายคล้ายกัน, หรือ ความหมายตรงกันข้าม.
แหล่งข้อมูลที่ท่านให้มานี้เป็นส่วนหนึ่งของ บทที่ 3 การพัฒนาคุณภาพด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ของครู 2 ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษา ระบบคำ (Morphology) เพื่อพัฒนาคุณภาพด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ของครูสอนภาษาไทย การศึกษาระบบคำเป็นการศึกษาหน่วยทางภาษาในระดับที่สูงกว่าเสียง โดยครอบคลุมเรื่องหน่วยคำ (morpheme) การประกอบหน่วยคำเข้าเป็นคำ (word) และการแบ่งชนิดของคำ.
-
-
-
-
- หน่วยคำเป็นหน่วยที่มีความหมาย.
- หน่วยคำเป็นองค์ประกอบย่อยของคำ คำหนึ่งคำต้องมีองค์ประกอบเป็นหน่วยคำอย่างน้อย 1 หน่วยเสมอ.
- จำนวนหน่วยคำในภาษาไทย คำมีหน่วยคำเป็นองค์ประกอบได้ 1-4 หน่วย ส่วนคำที่มีหน่วยคำมากกว่า 5 หน่วย มักเป็นศัพท์ทางวิชาการ ศัพท์บัญญัติ ชื่อเฉพาะ หรือราชาศัพท์.
- รูปแบบของหน่วยคำ ในภาษาไทย หน่วยคำมีพยางค์อย่างน้อย 1 พยางค์ หน่วยคำอาจมีพยางค์ได้มากกว่า 1 พยางค์.
- รูปแปรของหน่วยคำ (หน่วยคำย่อย หรือ allomorph) หน่วยคำอาจมีรูปแปรได้ แต่ต้องใช้ในความหมายเดียวกัน.
-
การจำแนกประเภทของหน่วยคำใช้ 3 เกณฑ์ คือ เกณฑ์ลักษณะที่หน่วยคำปรากฏ, เกณฑ์หน้าที่ของหน่วยคำ, และเกณฑ์ความหมาย:
-
- หน่วยคำอิสระ (free morpheme) คือ หน่วยคำที่สามารถปรากฏตามลำพังได้.
- หน่วยคำไม่อิสระ (bound morpheme) คือ หน่วยคำที่ไม่สามารถปรากฏตามลำพังได้ แต่ต้องปรากฏร่วมกับคำอื่นเสมอ.
-
- หน่วยคำแกน (root) คือ หน่วยคำที่ทำหน้าที่หลักของคำและให้ความหมายสำคัญของคำที่เป็นส่วนประกอบ.
-
- หน่วยคำบอกเนื้อหา (content morpheme) คือ หน่วยคำที่มีความหมายถึง “สิ่ง อาการ การกระทำ คุณสมบัติ ลักษณะอาการ”. หน่วยคำชนิดนี้มักเป็นหน่วยคำแกนอิสระซึ่งมีฐานะเท่ากับคำ.
- หน่วยคำไวยากรณ์ (grammatical morpheme) คือ หน่วยคำที่บ่งชี้ลักษณะหน้าที่ แสดงความสัมพันธ์ทางไวยากรณ์. หน่วยคำชนิดนี้มีทั้งที่เป็นหน่วยอิสระ และหน่วยคำคงต่าง ๆ.
- ข้อสังเกต: หน่วยคำไม่อิสระ หน่วยคำเติม และหน่วยคำไวยากรณ์ จะมีความหมายเมื่อไปประกอบกับอีกหน่วยคำหนึ่ง แม้ว่าผู้ศึกษามักจะคิดว่าไม่มีความหมายเพราะไม่เคยเห็นอยู่เดี่ยว ๆ.
-
-
-
หมายถึง การนำหน่วยคำตั้งแต่ 2 หน่วยคำขึ้นไปมาประกอบเข้าด้วยกัน และปรากฏเป็นคำใหม่. แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก:
-
หมายถึง การกล่าวซ้ำหน่วยคำอิสระนั้น ๆ 2 ครั้ง ทำให้เกิดคำใหม่ที่เรียกว่า คำซ้ำ. คำซ้ำประกอบด้วยหน่วยคำอิสระ 2 หน่วย ซึ่งเหมือนกันทุกประการ. คำซ้ำคือการพูดหรือการเขียนคำใดคำหนึ่งอีกครั้ง. คำทุกชนิดสามารถซ้ำได้ แต่ไม่ใช่คำทุกคำในแต่ละชนิดจะซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับความหมายของคำและบริบท.