Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทบาทสตรีในประวัติศาสตร์ไทย - Coggle Diagram
บทบาทสตรีในประวัติศาสตร์ไทย
ด้านการเมืองการปกครอง
พระนางจามเทวี
ปฐมกษัตริย์แห่งเมืองนครหริภุญชัย/เมืองลำพูน กล่าวว่านางเป็นธิดาของกษัตริย์ทวารวดีแห่งเมืองละโว้ซึ่งถูกเชิญให้ไปปกครองเมืองที่สร้างใหม่ สมัยนั้นเมืองมีความเจริญมาก มีการนำวัฒนธรรมทวารวดีมาเผยแพร่ และอุปถัมป์ศาสนาอย่างดี เช่น สร้างวัดมหาวันวนาราม จนมีการสร้างเมืองแฝด คือ เขลางค์นคร/เมืองลำปาง
สมเด็จพระสุริโยทัย
พระมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ โดยออกตามพระสวามีไปในศึกระหว่างไทยกับพม่า ก่อนจะเข้าไสช้างขวางเพื่อปกป้องสามี จนถูกพระแสงของ้าวของพระเจ้าแปรฟันสวรรคต
ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร
นามเดิมว่าคุณหญิงจันและคุณมุกน้องสาว ทั้งสองได้นำปชช.มาตาอต้านทัพพม่าที่บุกมาตีเมืองถลาง เกาะภูเก็ต จนได้รับชัยชนะ ร.1 จึงแต่งตั้งชื่อเป็นท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร
ท้าวสุรนารี
นามเดิม โม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา โดยนำกำลังปชช.เข้าสู้กับเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เมื่อ พ.ศ.2369 จนชนะศึก ร.3(นั่ง) ได้แต่งตั้งเป็นท้าวสุรนารี
ด้านสังคม
ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เป็นธิดาของร.4 และดำรงตำแหน่งพระอัครมเหสีในร.5 ท่านทรงสนับสนุนให้ผู้หญิงคลอดแบบตะวันตก การก่อตั้งโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ขึ้นในศิริราช สร้างโรงพยาบาลปัญจมาธิราชอุทิศที่พระนครศรีอยุธยา และก่อตั้งสภาอุณาโลมแดง(สภากาชาดไทย) พร้อมสร้างรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลาให้ปวงชนมีน้ำบริสุทธิ์ใช้
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
เป็นธิดาของร.4 และรับราชการเป็นภรรยาเจ้าในร.5 โดยมีการตั้งโรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ซึ่งได้รับการสานต่อจากธิดาและญาติในสกุลมหิดล เช่น สมเด็จพระราชปิตุจฉา สนับสนุนโครงการแพทย์อาสาสมัครในพื้นที่ และยังได้รัยการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นบุคคลสำคัญด้านสาธารณสุข วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์
เจ้าคุณพระประยุรวงศ์
พระสนมเอกของร.5 ซึ่งได้สร้างสุขศาลาหรือสถานีอนามัยปัจจุบันแก่ประชาชน แล้วยังสนองนโยบายพัฒนาให้ทันสมัยของร.5 โดยให้สตรีเลิกไว้ผมทรงปีก และมีการนำสายสะพานผ้าแพรมาใช้ในการขี่ม้า สร้างความสะดวกในการตามเสด็จ
หม่อมเจ้าหญิงมัณฑารพ กมลาศน์
ธิดาของกรมหมื่นราชศักดิ์สโมสรกับหม่อมวาศน์ กมลาศน์ ณ อยุธยา เป็นหลานปู่ของ ร.4 ได้ศึกษาวิชาพยาบาลที่โรงเรียนการพยาบาล สภากาชาดสยาม ก่อนจะได้รับหน้าที่บริหาร โดยมีการจัดระเบียบแบบแผนการศึกษาการแพทย์ให้ทันสมัย และเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน
แพทย์หญิง ดร.เพียร เวชบุล
ผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์เด็ก "พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ" ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และยังมีชื่อเสียงในการรักษากามโรคโดยเฉพาะแก่หญิงขายบริการและเด็กเร่ร่อน
ด้านการศึกษา
เจ้าฟ้าพินทวดี
ธิดาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศที่อยู่ยืนยาวถึงรัตนโกสินทร์ มีส่วนช่วยในการชำระราชประเพณีโบราณขึ้นมาใหม่ Ex. พิธีโสกันต์(โกนจุก) ในสมัยร. 1
พระองค์เจ้าบุตรี(พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสรฐสุดา)
ธิดาของร.3 ที่มีความรู้แตกฐานเช่น โคง กาพย์ วิชาเลข โบราณประเพณี และเป็นอาจารย์ให้เหล่าลูกๆ ของร.4
พระวิดามาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา
ธิดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทร์ภักดี เป็นพระอรรคชายาเธอ(ภรรยาคนที่ 4) ของร.5 เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ + ความรู้วิชาการ + ประเพณี + มีการพิมพ์หนังสือพระราชทานตามโอกาส
ด้านวรรณกรรม
เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎ
ธิดาของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เขียนเรื่องดาหลัง(อิเหนาใหญ่) และอิเหนา(อิเหนาเล็ก) นำเรื่องของชวามาเปลี่ยนเป็นกลอนบทละครไทย ได้รับความนิยมจนสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในร.2
คุณพุ่ม(บุษบาท่าเรือจ้าง) และคุณสุวรรณ
ข้าราชการฝ่ายในสมัยร.3 ได้รับชื่อว่าเป็นกวีหญิง
คุณพุ่ม ; ตัวอย่างผลงาน Ex. เพลงยาวบวงสรวงสระน้ำที่บางโขมด เพลงยาวเฉลิมพระเกียรติร.3
คุณสุวรรณ ; ตัวอย่างผลงาน Ex. อรุณรูทร้อยเรื่อง พระมะเหลเถไถ เพลงยาวอาการประชวรของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ
ด้านสังคมสงเคราะห์และการประกอบอาชีพ
ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ภรรยาของจอมพลป.(นายกเก่า) จัดตั้งสโมสรวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สร้างความเสมอภาคแก่ผญ.ในทางราชการ จัดตั้งสภาสตรีแห่งชาติและสหพัรกรรมกรหญิง และจัดกิจกรรมต่างๆ Ex. วันแม่ พิธีสมรสหมู่ จัดตั้งองค์การส่งเสริมการสมรส
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล
ธิดาของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีความรู้จากบิดเรื่องตปท.และวัฒนธรรม มีการเขียนหนังสือด้านการท่องเที่ยว ประเพณีไทย เหตุการณ์บ้านเมือง และมีส่วนร่วมในการก่อตั้งองค์การพุทธศาสนิกชนสัมพันธ์แห่งโลก
ท่านผู้หญิงตลับ สุขุม
ภรรยาเจ้าพระยายมราช(ปั้น สุขุม) เป็นตัวแทนสตรีไทยโดยเข้าร่วมการสมาคมระดัยสูงในวงการทูต ส่งเสริมบทบาทของสตรี