Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การแยกส่วนประกอบและย่อยปัญหา - Coggle Diagram
การแยกส่วนประกอบและย่อยปัญหา
หลอดอินแคนเดสเซนต์ ที่นิยมเรียกว่าหลอดธรรมดาหรือหลอดไส้ เป็นหลอดที่ไม่ประหยัดพลังงาน การใช้หลอดประเภทนี้ใช้เฉพาะในพื้นที่ ที่ต้องการวัตถุประสงค์ทางด้านความสวยงาม แสงสี หรือกรณีที่ต้องการเน้นตำแหน่งการให้แสงเฉพาะจุดที่หลอดอื่นทำไม่ได้ สามารถหรี่ไฟได้โดยง่าย ราคาถูกและจุดติดทันที มีอุณหภูมิสีประมาณ 2500 - 2700 องศาเคลวิน แต่ให้ดัชนีความถูกต้อง ของสีถึง 97 % หากจำเป็นต้องใช้หลอดประเภทนี้ หลอดฮาโลเจนเป็นหลอดที่ประหยัดที่สุดในตระกูลนี้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นหลอดไม่ประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับหลอดชนิดอื่นๆ
กรณีที่จำเป็นต้องใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์เราสามารถยืดอายุการใช้งานของหลอดได้โดยใช้วิธีลดแรงดันสวิตช์หรี่ไฟ สำหรับหลอดฮาโลเจน การหรี่ไฟอาจทำให้อายุการใช้งานสั้น หากหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์หรือหลอดฮาโลเจนในการให้แสงสว่างมากนัก เนื่องจากค่าประสิทธิภาพผล (ลูเมนต่อวัตต์) ต่ำ ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมาก
หลอดธรรมดา จะมีอยู่ 2 แบบ คือ
แบบขั้วเกลียว
แบบขั้วเขี้ยว
ในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่จะเป็นแบบขั้วเกลียวเป็นส่วนใหญ่
หลักการทำงาน
เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับหลอด กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านหลอด ทำให้ไส้หลอดซึ่งทำจากโลหะทังสเตนเกิดการเผาไหม้ ทำให้เกิดความร้อนจนสามารถเปล่งแสงขึ้นมาทำให้เกิดแสงสว่าง ดังนั้นพลังงานที่ใช้กับหลอดชนิดนี้จึงสูญเสียไปกับความร้อน ประมาณ 90 % เหลือเป็นพลังงานแสง ประมาณ 10 % หลอดชนิดนี้จึงไม่ประหยัดไฟ
ข้อดีของหลอดธรรมดา
ให้แสงสว่างเป็นธรรมชาติ
ติดทันทีที่เปิด ไม่ต้องรอสตาร์ท
ราคาถูก
ติดตั้งและตรวจซ่อมง่าย
หรี่แสงได้ง่าย
ไม่ต้องใช้บาลาสต์
มีขนาดเล็กและเบา
ข้อเสียของหลอดธรรมดา
ไม่ประหยัดพลังงาน โดยหลอดธรรมดา จะมีประสิทธิภาพ ประมาณ 10 ลูเมน/วัตต์
อายุการใช้งานสั้น ประมาณ 1,000 ชั่วโมง
เลือกอุณหภูมิสีไม่ได้
หลอดเสื่อมเร็ว
ขั้วหลอดไฟทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไฟฟ้า ระหว่างหลอดไฟและแหล่งจ่ายไฟ (เช่น ขั้วปลั๊ก หรือขั้วแบตเตอรี่) ช่วยให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่หลอดไฟ เพื่อให้เกิดการส่องสว่าง นอกจากนี้ ขั้วหลอดไฟยังทำหน้าที่ยึดหลอดไฟให้ติดแน่นกับโคมไฟหรืออุปกรณ์ส่องสว่าง
ก้านชูไส้หลอด (filament support) ในหลอดไฟทำหน้าที่ยึดไส้หลอด (filament) ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและป้องกันไม่ให้ไส้หลอดสัมผัสกับหลอดแก้วโดยตรง. นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้าจากขั้วหลอดไปยังไส้หลอด ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอดและทำให้เกิดแสงสว่าง
ไส้หลอดทังสเตนในหลอดไฟ ทำหน้าที่เป็นตัวเปล่งแสง โดยจะร้อนขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ทำให้เกิดความร้อนและเปล่งแสงสว่างออกมา ทังสเตนถูกเลือกใช้เนื่องจากมีจุดหลอมเหลวสูง ทำให้สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้โดยไม่หลอมละลาย
5.เกลียวหมุนที่ฐานหลอดไฟทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไฟฟ้าและยึดหลอดไฟเข้ากับขั้วหลอดไฟ. มันทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า, ช่วยให้กระแสไฟฟ้าไหลจากขั้วหลอดไปยังไส้หลอดหรือ LED เพื่อให้หลอดไฟสว่าง. นอกจากนี้ เกลียวยังช่วยยึดหลอดไฟให้ติดแน่นกับโคมไฟหรือขั้วหลอด, ป้องกันไม่ให้หลอดไฟหลุดหรือหลวม
1.แก้วทนความร้อน ทำหน้าที่หลักในการป้องกันไส้หลอดและบรรจุแก๊สภายในหลอดไฟ ช่วยให้หลอดไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
2.แก๊สไนโตรเจนและแก๊สอาร์กอนในหลอดไฟ ทำหน้าที่ป้องกันไส้หลอดทังสเตนไม่ให้เกิดการเผาไหม้หรือระเหิด เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอด ทังสเตนจะร้อนและอาจเกิดการระเหิดกลายเป็นไอได้ หากไม่มีแก๊สเฉื่อย ไส้หลอดจะเสื่อมสภาพและขาดเร็วขึ้น
แก้ไขปัญหา เมื่อหลอดไฟไม่ติด มีหลายสาเหตุที่เป็นไปได้ ตั้งแต่หลอดไฟเสีย สตาร์ทเตอร์เสีย ไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้าหรือการเดินสายไฟ หากหลอดไฟไม่ติด ให้ตรวจสอบตามขั้นตอนเหล่านี้:
ตรวจสอบหลอดไฟ:
มองเห็นได้: ตรวจสอบว่าหลอดไฟมีรอยดำที่ขั้วหลอดหรือไม่ ซึ่งอาจบ่งบอกว่าหลอดไฟใกล้หมดอายุ.
เปลี่ยนหลอดไฟ: หากหลอดไฟเสีย ให้เปลี่ยนหลอดใหม่ โดยหมุนหลอดเก่าทวนเข็มนาฬิกา แล้วใส่หลอดใหม่เข้าไปแทน.
ตรวจสอบขั้วหลอด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้วหลอดไฟแน่นดีและสัมผัสกับฐานหลอดไฟได้ดี.
ตรวจสอบสตาร์ทเตอร์:
หากหลอดไฟกระพริบหรือใช้เวลานานกว่าจะสว่าง อาจเป็นเพราะ สตาร์ทเตอร์เสีย.
ถอดสตาร์ทเตอร์ออกมาแล้วลองเปิดสวิตช์ไฟ ถ้าไฟติด แสดงว่าสตาร์ทเตอร์เสีย ต้องเปลี่ยนใหม่.
หากไม่แน่ใจ ให้ลองเปลี่ยนสตาร์ทเตอร์ใหม่ดูก่อน.
ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า:
หากหลอดไฟยังไม่ติด อาจเกิดจากแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าปกติ หรือเกิดจากหม้อแปลงไม่เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า.
ตรวจสอบว่าแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้หลอดไฟเพียงพอหรือไม่ โดยอาจต้องตรวจสอบกับช่างไฟฟ้า.
ตรวจสอบการเดินสายไฟ:
หากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ตรวจสอบการเดินสายไฟ อาจมีปัญหาเรื่องสายไฟหลวม หรือมีการลัดวงจร.
ในกรณีนี้ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบและแก้ไข.
ข้อควรระวัง:
ควรปิดสวิตช์ไฟทุกครั้งก่อนทำการตรวจสอบหรือเปลี่ยนหลอดไฟ เพื่อความปลอดภัย.
หากไม่แน่ใจในการตรวจสอบหรือแก้ไข ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าที่มีความรู้และประสบการณ์.
เพิ่มเติม:
หากเป็นหลอดไฟ LED อาจมีปัญหาจากแผงวงจร หรือ บัลลาสต์ หากมีส่วนประกอบเหล่านี้อาจจะต้องเปลี่ยนทั้งชุด.
หากเป็นหลอดไฟแบบโซลาร์เซลล์ อาจต้องตรวจสอบแบตเตอรี่ด้ว
น.ส อัยลดา งามเลิศ เลขที่34 ม.4/1
น.ส.ชาคริยา ลาวัณย์ เลขที่9 ม.4/1