Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม (Blockchain) -…
เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม (Blockchain)
ความหมายของ Blockchain
Blockchain คือ ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายศูนย์ เป็นระบบในการเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และไม่ต้องอาศัยคนกลาง เนื่องจากระบบบล็อกเชนจะทำงานบนความเชื่อใจของคนในระบบ ทำให้เกิดการตรวจสอบทุกขั้นตอน ทุกธุรกรรม ทุกชุดข้อมูลที่เกิดขึ้นในระบบของบล็อกเชน ข้อมูลเชื่อมถึงกันเสมือนเป็นเครือข่ายห่วงโซ่
วิวัฒนาการของเทคโนโลยี Blockchain
Blockchain 1.0 : เริ่มต้นจาก Bitcoin (ปี 2008) ใช้สำหรับการโอนเงินแบบไร้ศูนย์กลาง
Blockchain 2.0 : มาพร้อม Ethereum (ปี 2015) เพิ่มความสามารถของ Smart Contract ทำให้สร้างแอปแบบกระจายศูนย์ (DApps) ได้
Blockchain 3.0 : ขยายการใช้งานสู่อุตสาหกรรมอื่น เช่น การแพทย์ โลจิสติกส์ เน้นความเร็ว ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชน
ยุค Web3 และ DeFi : Blockchain กลายเป็นรากฐานของ Web3, การเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi), NFT และ DAO
อนาคต : แนวโน้มรวมกับ AI, IoT และเทคโนโลยีใหม่ พร้อมการปรับตัวเข้าสู่กฎหมาย
หลักการทำงานของเทคโนโลยี Blockchain
โครงสร้างข้อมูลแบบบล็อก
ข้อมูลจะถูกบันทึกลงใน "บล็อก" (Block)
แต่ละบล็อกจะเชื่อมต่อกับบล็อกก่อนหน้าโดยใช้ รหัสแฮช (Hash) ทำให้เกิดสายโซ่ของบล็อก หรือ “Blockchain
ระบบกระจาย (Distributed Ledger)
ทุกโหนด (Node) ในเครือข่ายจะมีสำเนาของข้อมูลเหมือนกันทั้งหมด
ไม่มีศูนย์กลางในการควบคุม ทำให้ระบบมีความโปร่งใสและยากต่อการปลอมแปลง
กลไกฉันทามติ (Consensus Mechanism)
เป็นวิธีที่โหนดในเครือข่ายใช้ตกลงกันว่าข้อมูลใด "ถูกต้อง"
ตัวอย่างเช่น
Proof of Work (PoW) – ใช้พลังประมวลผลเพื่อแก้สมการ (เช่น Bitcoin)
Proof of Stake (PoS) – ใช้การถือครองเหรียญเพื่อยืนยันธุรกรรม (เช่น Ethereum 2.0)
ความปลอดภัยผ่านการเข้ารหัส (Cryptography)
ใช้เทคนิคการเข้ารหัสเพื่อรักษาความถูกต้องและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
เช่น การใช้ Public Key / Private Key ในการลงนามธุรกรรม
การตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใส
ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ย้อนหลัง
ยากต่อการแก้ไขข้อมูล เพราะต้องเปลี่ยนบล็อกทั้งหมดที่ตามมา
องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain
Block : หน่วยข้อมูลที่เก็บธุรกรรมและเชื่อมต่อกันด้วยรหัสแฮช
Node : คอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ช่วยเก็บและตรวจสอบข้อมูล
Distributed Network : ระบบกระจายข้อมูล ไม่มีศูนย์กลาง
Consensus Mechanism : กลไกตกลงร่วมกันว่าข้อมูลใดถูกต้อง เช่น PoW, PoS
Cryptography : การเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยและการยืนยันตัวตน
Smart Contract : สัญญาอัตโนมัติที่ทำงานตามเงื่อนไข
Token / Cryptocurrency : เหรียญหรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้ในระบบ
ประเภทของ Blockchain
Public Blockchain : เปิดให้ทุกคนใช้งานได้ เช่น Bitcoin, Ethereum
Private Blockchain : ใช้เฉพาะภายในองค์กร มีการควบคุม
Consortium Blockchain : ใช้ร่วมกันระหว่างหลายองค์กร เช่น กลุ่มธนาคาร
Hybrid Blockchain : ผสมระหว่างเปิดและปิด เพื่อความยืดหยุ่น
รูปแบบของเครือข่าย Blockchain
Decentralized : กระจายเต็มรูปแบบ ไม่มีศูนย์กลาง เช่น Bitcoin
Distributed : กระจายบางส่วน มีโครงสร้างการควบคุม เช่น Hyperledger
Centralized : ควบคุมโดยองค์กรเดียว ไม่ใช่ Blockchain โดยตรง แต่ใช้เปรียบเทียบ