Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม (Blockchain) -…
เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม (Blockchain)
ความหมายของ Blockchain
Blockchain คือ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Ledger) ที่บันทึกข้อมูลเป็นบล็อก (Block) ที่เชื่อมต่อกันเป็นห่วงโซ่ (Chain) โดยข้อมูลจะถูกแชร์และจัดเก็บเป็นสำเนาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของสมาชิกทุกคนในเครือข่าย ทำให้มีความโปร่งใสและปลอดภัย
วิวัฒนาการของเทคโนโลยี Blockchain
Blockchain 2.0: สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts):
ยุคที่สองของ Blockchain เป็นการเพิ่มความสามารถในการเขียนและรันสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำงานอัตโนมัติบน Blockchain ทำให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps) ได้หลากหลาย เช่น Ethereum
Blockchain 3.0: การปรับขนาดและความเป็นส่วนตัว (Scalability and Privacy):ยุคที่สามของ Blockchain มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเรื่องการปรับขนาด (Scalability) และความเป็นส่วนตัว (Privacy) เพื่อให้ Blockchain สามารถรองรับการใช้งานในวงกว้างได้มากขึ้นนอกจากนี้ ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับ Blockchain 4.0 ที่กำลังพัฒนา
Blockchain 1.0: การเงินดิจิทัล (Digital Currency):
ยุคแรกของ Blockchain เน้นการสร้างสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin โดยมีจุดเด่นคือการทำธุรกรรมแบบกระจายอำนาจ ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง และมีความโปร่งใส
หลักการทำงานของเทคโนโลยี Blockchain
เทคโนโลยี Blockchain คือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (distributed ledger) ที่บันทึกข้อมูลในรูปแบบของบล็อกที่เชื่อมต่อกันเป็นลูกโซ่ ข้อมูลแต่ละบล็อกจะประกอบด้วยข้อมูลธุรกรรมหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ต้องการบันทึก, แฮช (Hash) ของบล็อกนั้นๆ และแฮชของบล็อกก่อนหน้า การทำงานของ Blockchain เป็นแบบ Peer-to-Peer คือข้อมูลจะถูกส่งไปยังทุกโหนด (Node) หรือคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ทำให้เกิดความโปร่งใสและยากต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล
องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain
Chain: เป็นการเรียงต่อกันของ blocks โดยที่แต่ละ block จะเชื่อมโยงกับ block ก่อนหน้าผ่านรหัสแฮชของ block ก่อนหน้า. ทำให้ข้อมูลในแต่ละ block ถูกเชื่อมโยงกันเป็นสายโซ่.
Consensus: เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้ใช้ในเครือข่ายตกลงกันเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกเพิ่มเข้าไปใน blockchain. กระบวนการนี้ช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกใน blockchain เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับของทุกคน.
Block: เป็นหน่วยข้อมูลพื้นฐานที่เก็บข้อมูล (เช่น ข้อมูลธุรกรรม) ไว้ในรูปแบบของกล่องที่ถูกเข้ารหัส. แต่ละ block จะมีส่วนหัว (header) ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับ block นั้น และรหัสแฮช (hash) ที่เป็นเหมือนลายนิ้วมือของ block.
Validation: เป็นการตรวจสอบข้อมูลในแต่ละ block และการเชื่อมโยงระหว่าง blocks เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลใน blockchain ยังคงถูกต้องและไม่ถูกเปลี่ยนแปลง.
ประเภทของ Blockchain
Public Blockchain (บล็อกเชนสาธารณะ): เป็นเครือข่ายแบบเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีข้อจำกัดในการอ่าน เขียน หรือมีส่วนร่วมในบล็อกเชน . ตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum
Private Blockchain (บล็อกเชนส่วนตัว): เป็นเครือข่ายที่จำกัดการเข้าถึงและการใช้งาน โดยมีองค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้ควบคุม . เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการจัดการข้อมูล.
Consortium Blockchain (บล็อกเชนแบบรวมกลุ่ม): เป็นเครือข่ายที่เกิดจากความร่วมมือของหลายองค์กร . การเข้าถึงและการควบคุมเครือข่ายจะถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มองค์กรที่ร่วมกัน .
Hybrid Blockchain (บล็อกเชนแบบผสม): เป็นการรวมคุณสมบัติของทั้ง Public และ Private Blockchain . อาจมีส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่เปิดให้สาธารณะเข้าถึงได้ และส่วนหนึ่งที่ควบคุมโดยองค์กร.
รูปแบบของเครือข่าย Blockchain
Private Blockchain (บล็อกเชนส่วนตัว):
Consortium Blockchain (บล็อกเชนเฉพาะกลุ่ม):
Public Blockchain (บล็อกเชนสาธารณะ):
Hybrid Blockchain (บล็อกเชนแบบผสม):