Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเกิดฟอสซิลไดโนเสาร์ - Coggle Diagram
การเกิดฟอสซิลไดโนเสาร์
การตายและการถูกฝัง
-
การถูกฝังอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการที่ซากไดโนเสาร์จะกลายเป็นฟอสซิลได้คือการถูกฝังอย่างรวดเร็วในตะกอน เช่น ดิน ทราย โคลน หรือแม้กระทั่งเถ้าภูเขาไฟ การถูกฝังอย่างรวดเร็วนี้มีความสำคัญเพราะ
-
-
-
-
การสะสมของตะกอนเพิ่มเติม
ลังจากที่ซากไดโนเสาร์ถูกฝัง ตะกอนที่ไหลมาทับถมต่อไปเรื่อย ๆ จะช่วยปกป้องซากจากการถูกกัดเซาะหรือทำลาย และยังสร้างแรงกดทับให้กับซาก จนกระทั่งซากนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหิน
-
การเกิดแร่ธาตุในกระดูก
การฝังตัว (Burial)
เมื่อไดโนเสาร์ตาย ซากของมันอาจถูกดิน หิน หรือโคลนทับไว้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยสำคัญคือซากจะต้องถูกฝังเร็วพอที่จะหลีกเลี่ยงการถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์หรือสัตว์กินซากต่างๆ
-
-
-
-
-
-
การค้นพบ
-
การกำหนดชื่อ "ไดโนเสาร์
ในปี 1842 เซอร์ริชาร์ด โอเว่น (Sir Richard Owen) นักบรรพชีวินวิทยาชาวอังกฤษ ได้ใช้คำว่า "Dinosauria" เพื่ออธิบายกลุ่มสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ซึ่งแปลว่า "กิ้งก่าที่น่ากลัว"
สงครามกระดูก (Bone Wars)
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์จำนวนมากในสหรัฐอเมริกา สองนักบรรพชีวินวิทยาชื่อดัง เอ็ดเวิร์ด ดริงเกอร์ โคป (Edward Drinker Cope) และออทนีล ชาร์ลส์ มาร์ช (Othniel Charles Marsh) ได้แข่งขันกันค้นหาและบรรยายฟอสซิลไดโนเสาร์ใหม่ ๆ โดยเหตุการณ์นี้รู้จักกันในชื่อ "สงครามกระดูก" หรือ "Bone Wars"
การค้นพบ T. rex
ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ (Tyrannosaurus rex) ซึ่งเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ถูกค้นพบโดยบาร์นัม บราวน์ (Barnum Brown) ในปี 1902 ฟอสซิลของ T. rex เป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ทำให้เข้าใจไดโนเสาร์ชนิดนักล่าได้ดียิ่งขึ้น
-
-