Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กลุ่มอาการ - Coggle Diagram

- - - - 2.1 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ขณะมีแรงเบ่ง (Stress urinary incontinence หรือ SUI)
        
        2.1.1 การออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (pelvic floor muscle exercise
        หรือ Kegel’s exercise)
        
        2.1.2 การรักษาด้วยยา
        
        2.1.3 การผ่าตัดแก้ไขภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (anti-incontinence surgery)
      - 2.2 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เมื่อมีอาการปวดปัสสาวะเฉียบพลัน (Urgency urinary
        incontinence หรือ UUI)
        
        2.2.1 การฝึกกระเพาะปัสสาวะ (bladder training)
        
        2.2.2 การรักษาด้วยยา
      - 2.3 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ขณะมีแรงเบ่งร่วมกับเมื่อมีอาการปวดปัสสาวะเฉียบพลัน
        (Mixed urinary incontinence หรือ MUI)
        
        การดูแลรักษาจะทำร่วมกันทั้งสองภาวะ
      - 2.4 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ตลอดเวลา (Continuous urinary incontinence)
        
        ดูแลรักษาในกลุ่มนี้ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและพยาธิสภาพที่ทำให้เกิดอาการ
    - - ภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้ ภาวะที่ผู้ป่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้ไม่ได้ (bowel movements)
      - สาเหตุของภาวะกลั้นอุจจาระไม่อยู่
        
        เกิดจากการเสื่อมประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดปากทวารหนัก เส้นประสาทที่ควบคุมหู
        รูดปากทวารหนักและที่ควบคุมล าไส้ตรงและทวารหนักมีปัญหา
      - การรักษาการกลั้นอุจจาระไม่อยู่
        
        ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
        
        ฝึกเข้าส้วมทุกเช้า และ/หรือหลังกินอาหารมื้อหลักทุกครั้ง
        
        กินยาระบาย หรือยาแก้ท้องผูกหรือสวนอุจจาระตามค าแนะน าของแพทย
        
        ทำกายภาพฟื้นฟูหูรูดปากทวารหนักที่เรียกว่า การฝึกขมิบหูรูดทวารหนัก/ ขมิบช่องคลอด (Kegel
        exercise)
- - - - ผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างทางประสาทกายวิภาคที่มีผลต่อการนอนหลับหลายอย่าง เช่น thalamus และ
        cortex ท าหน้าที่ลดลง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงระยะการตื่น ระยะการหลับแบบ NREM sleep และ ระยะการหลับแบบ REM sleep ตลอดจนความต่อเนื่องของการนอนหลับ
    - - 1.1 ปัจจัยด้านสุขภาพ (medical factors) multiple pathology ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิด
        ปัญหาสุขภาพในระบบต่าง ๆ มากกว่าวัยอื่น
      - 1.2 ปัจจัยด้านการใช้ยา (medication factors) polypharmacy หรือการใช้ยาหลายขนาน
      - 1.3 ด้านจิตใจ/จิตสังคม (emotional/ psychosocial factors)
      - 1.4 ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (environmental factors)
      - 1.5 ปัจจัยด้านพฤติกรรม (behavioral factors) พฤติกรรมที่มีผลต่อการนอนหลับ ได้แก่
        การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด
  - - - 1) นอนหลับยาก (delayed sleep หรือ early insomnia) คือการนอน
        ลำบากเมื่อเริ่มเข้านอน เข้านอนกว่าจะหลับใช้เวลานาน
      - 2) หลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นบ่อย (interrupted sleep
        หรือ middle insomnia)
      - 3) ตื่นนอนเร็วกว่าปกติที่ควรจะเป็น (early awakening)
- - - - 1.ระบบ vestibular
        อยู่ในชั้นหู จะรับข้อมูลเกี่ยวกับต่ำแหน่งของศรีษะโดยสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วงของโลก การเปลี่ยนแปลงเมื่อสูงอายุ hair cell เป็นตัวจับการเคลื่อนไหวของศรีษะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของร่างกายมีความหนาแน่นลดลง ทำให้ผู้สูงอายุเกิดอาการเซง่าย
      - 2.ระบบการมมองเห็นให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของร่างกายที่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
      - 3.ระบบการรับความรู้สึกททางกาย
        ให้ข้อมูล แยกแยะ เกี่ยวกับตำแหน่ง ท่าทาง การเคลื่อนไหวต่างๆของร่างกาย เมื่อสูงอายุมีการลดลงของการรับความรู้สึกทางกาย การรับรู้ตำแหน่ง(proorioception) และการรับรู้การเคลื่อนไหวของข้อ (joint position)
    - - ทำหน้าที่ประมวลผลการรับรู้ วางแผน ตัดสินใจ และสั่งการ จะมีปฏิกิริยาของร่างกายแบบต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ
    - - เกี่ยวข้อง
        กับระบบประสาทส่วนปลายและระบบกระดูกกล้ามเนื้อที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์ สภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัยไม่หกล้มการเปลี่ยนแปลงเมื่อสูงอายุ จะมีปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง อาจเลือกปฏิกิริยาตอบสนองไม่เหมาะสม
  - - - 1.อายุ
      - 2.เพศ
      - 3.โรคประจำตัว
        
        3.1 โรคของระบบกระดูกกล้ามเนื้อและข้อ โดยเฉพาะที่ขา ทั้งข้อสะโพก เข่า ข้อเท้า และเท้าเช่น ข้ออักเสบ ข้อเสื่อม ข้อยึดติด
        
        3.2 โรคระบบประสาทสมองที่พบบ่อย โรคหลอดเลือดสมองและโรคพาร์กินสัน
        
        3.3 ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานผิดปกติ สัมพันธ์กับภาวะล้ม
      - กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง
      - การทรงตัวและการเดินบกพร่อง
      - ระบบการรับความรู้สึกผิดปกติ
        
        6.1 ระบบประสาทรับความรู้สึกทางกาย (somatosensory system)
        
        6.2 ระบบการทรงตัว (vestibular system)
        
        6.3 ระบบการมองเห็น
      - ความบกพร่องของการรู้คิด
      - พฤติกรรมที่เสี่ยงอันตราย
      - ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
      - ประวัติเคยหกล้ม
      - ความกลัวภาวะหกล้ม
      - การใช้ยา
        
        ยาทางจิตเวช
        
        ยาต้านการเต้นผิดจังหวะของหัวใจระดับที่ 1
        
        ยาลดความดันเลือด
        
        ยาบรรเทาปวด
        
        ยาหยอดตาที่ทำให้ยาหยอดตาที่ทำให้รู้ม่านตาหดเล็ก
        
        ยาที่มีมีฤทธิ์ anticholinergic เนื่องจากมีผลข้างเคียงเรื่องง่วงนอนสายตามองเห็นไม่ชัดเจน
    - - การใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
      - สภาพแวดล้อม
      - รองเท้าที่ไม่เหมาะสม
  - - - 1.1 การประเมินสภาพแวดล้อม
        1.2 การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
        1.3 ควรได้รับวิตามินดีเสริมอย่างน้อย 800 iu ต่อวัน
    - - 2.1 การทบทวนการให้ยา
        2.2 การแก้ไขปัญหาเรื่องการมองเห็น
        2.3 การแก้ไขภาวะความดันเลือดต่ำจากการเปลี่ยนท่า
        2.4 การแก้ไขปัญหาระบบหัวใจและหลอดเลือด
        2.5
    - - 3.1 การตรวจรักษาปัญหาที่เท้า
        3.2 การให้ความรู้
- - - - ผลไม่พึ่งประสงค์จากยา ยาที่มีทําให้มีอาการเบื่ออาหาร
      - โรคของระบบประสาทและสมอง
      - พยาธิสภาพในช่องปากและความผิดปกติในการกลืนอาหาร
      - โรคของทางเดินอาหารและการดูดซึม
      - ภาวะที่ร่างกายมีความต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น
- - - - ข้อยึดติด
        
        การป้องกัน
        
        ระยะเริ่มต้น
        
        ออกกำลังเพื่อเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อ
        
        ให้ความร้อนโดยการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด
        
        เป็นมานานหรือยึดติดมาก
        
        แนะนำการออกกำลังกายโดยการยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ
        
        การใส่เฝือกเพื่อดัดมุมองศาของข้อที่ยึดติดเป็นระยะ
        
        การใช้อุปกรณ์เพื่อช่วยยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ
        
        การแนะนำผ่าตัด
      - กระดูกบางหรือพรุน
        
        การป้องกัน
        
        ออกกำออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง
        2.กระตุ้นให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมร่างกายเพิ่มเพิ่มขึ้น
        
        ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอโดยใช้แรงกระแทกต่ำๆ
      - ข้อเสื่อม
      - กล้ามเนื้อ่อนแรง
        
        การป้องกัน
        
        การจัดท่าทางที่เหมาะสม
        
        ฝึกการเคลื่อนไหวตนเอง
        
        ออกกำลังกายเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น
        
        ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
    - - ความดันเลือดลดลงเมื่อมีการเปลี่ยนท่า
        
        การป้องกัน
        
        ออกกำ ออกกำลังกายเพื่อคนพิสัยการเคลื่อนไหวข้อ
        
        การใช้ผ้ายืดปากคลองขาดทั้งสองข้าง
        
        ใช้เตียงที่สามารถปรับความสูงหัวเตียง
        
        การใช้ยา
      - หัวใจมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง
        
        การป้องกัน
        
        ออกกำลังกายในท่านั่งหรือยืน
        
        การใช้เครื่องมือกระตุ้นให้เกิดเลือดในหลอดเลือดดำไปกองในส่วนขา
      - หลอดเลือดดำอุดตัน
        
        การป้องกัน
        
        ออกกำลังกายกล้ามเนื้อขา
        
        การใช้ผ้ายืดขาผู้ป่วยเป็นระยะ
    - - การป้องกัน
        
        ทำการเปลี่ยนผ้าผู้สูงอายุบ่อยๆเพื่อลดการข้างของเสมหะในบริเวณหนึ่งนานนานฝึกการหายใจเข้าลึกๆฝึกการไอการช่วยระบายเสมหะกระตุ้นให้ผู้ป่วยลุก
    - - การป้องกัน
        
        จัดให้ผู้สูงอายุอยู่ในท่านั่งบ่อยๆ
    - - การป้องกัน
        
        ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพิ่มกากใย ฝึกการขับถ่าย
    - - การป้องกัน
        
        กระตุ้นโดยการรับรู้บ่อยๆ นันทนาการบำบัด