Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหนองใน(Gonorrhea) - Coggle Diagram
โรคหนองใน(Gonorrhea)
-
การประเมินภาวะสุขภาพ
-
-
การตรวจร่างกาย
-พบการตกขาวภายในช่องคลอดมากผิดปกติและบริเวณปากมดลูกและผนังช่องคลอดมีลักษณะ บวม และมีรอยแดง ที่มา:ศรินทร มงคลรัตน์.(2567)
-
พยาธิสภาพ
พยาธิสภาพของโรคหนองใน (Gonorrhea) เริ่มจากเชื้อ N. gonorrhoeae ที่เข้าสู่ร่างกายและเกาะติดกับเยื่อบุผิวของทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ โดยใช้ pili และโปรตีนผิว เชื้อจะเข้าสู่เซลล์เยื่อบุและเนื้อเยื่อใต้เยื่อบุผ่านการทำงานของ pinocytosis และปล่อย endotoxin และ gonococcal lipopolysaccharide ที่ทำลายเซลล์และสร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อ การติดเชื้อสามารถนำไปสู่ภาวะต่าง ๆ เช่น urethritis, cervicitis, PID, และ disseminated gonorrhea โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น chorioamnionitis และอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ เช่น prematurity และ neonatal sepsis ที่มา:พงษ์ศักดิ์ ชัยศิลป์วัฒนา.(2545)
-
การรักษา
การรักษาโรคหนองในควรใช้ยาที่มีประสิทธิภาพเกินร้อยละ 95 และสามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาครั้งเดียว โดยมีตัวเลือกดังนี้
ที่มา:อภิชาติ ศิวยาธร.(2531)
-
-
-
- Spectinomycin 2 กรัม (ฉีดเข้ากล้าม)
- Ceftriaxone 250 มก. (ฉีดเข้ากล้าม)
หากมีภาวะแทรกซ้อน ควรใช้ยาฉีดติดต่อกัน 2-3 วันแล้วให้ยากินต่อ หลังการรักษาควรตรวจซ้ำเพื่อยืนยันว่าหายขาด โดยอาจมีอาการ postgonococcal urethritis ตามมา จึงแนะนำให้รักษาหนองในเทียมด้วย tetracycline 2 กรัมต่อวัน นาน 7 วัน
ระยะฟักตัว
ระยะฟักตัว (Incubation period)
นาน 3-5 วัน ดังนั้นเมื่อติดเชื้อแล้วผู้ป่วยจะเกิดอาการผิดปกติภายใน 1 สัปดาห์
ที่มา:พงษ์ศักดิ์ ชัยศิลป์วัฒนา.(2545)