Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงสรีรวิทยาระยะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงสรีรวิทยาระยะตั้งครรภ์
ตั้งครรภ์ปกติ-ใช้ระยะเวลาประมาณ 280 วันหรือ 40 สัปดาห์
ไตรมาสที่ 1(First trimester) = 1-14 สัปดาห์
ไตรมาสที่ 2(second trimester) =15-28 สัปดาห์
ไตรมาสที่ 3(Third trimester) =29-42 สัปดาห์
1.ระบบสืบพันธ์ุ
เลือดมาเลี้ยงอุ้งเชิงกรานมากขึ้นเยื่อบุช่องคลอดเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีม่วงเรียกว่า Chadwick's sign เกิดขึ้นเมื่ออายุครรภ์ 8 สัปดาห์
ปากมดลูกมีความนุ่มเป็นสีแดงคล้ำเรียกว่าGoodell's sign พบเมื่อตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์
คอมดลูกขยายและนุ่มขึ้นเรียกว่า Hegar's sign
2.ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดหัวใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อปรับระดับการไหลเวียนของเลือดให้มากขึ้น
ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้นร้อยละ 40-50 มิลลิลิตร
ค่าฮีโมโกลบินน้อยกว่า 11กรัม/เดซิลิตรในไตรมาสแรก
8.ระบบของกล้ามเนื้อและกระดูก
ขณะตั้งครรภ์ทารกต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ การดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้ใหญ่จะเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
6.ระบบทางเดินปัสสาวะ
ไตจะขยายขึ้นเล็กน้อย อัตราการกรองของโกลเมอรูลัสเพิ่มขึ้นประมาณ 50% แต่การดูดกลับของไตลดลง
5.การเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึม
หญิงตั้งครรภ์จะมีแนวโน้มเป็นเบาหวานได้ง่าย ความดื้อต่ออินซูลินมีมากขึ้นประสิทธิภาพของอินซูลินในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ลดลง
4.ระบบต่อมไร้ท่อ
9.ระบบผิวหนัง
striae gravidarum-เป็นเส้นกดลงไปในผิวหนังเล็กน้อย สีค่อนข้างแดง พบบ่อยบริเวณหน้าท้องช่วงเดือนท้ายๆของการตั้งครรภ์อาจเป็นที่บริเวณเต้านม ก้นและต้นขา
pigmentation-สีน้ำตาลดำตามผิวหนังบางส่วนของร่างกาย แนวกลางตัวเรียกว่า Linea nigra ใบหน้าเรียก chloasma หรือ mask of pregnancy
3.ระบบการหายใจ
ต้องการออกซิเจนมากขึ้นร้อยละ 15 หรือ ประมาณ 30 มล.ต่อนาที
7.ระบบทางเดินอาหาร
เกิดอาการเหงือกบวมและทำให้มีโลหิตออกได้เวลาแปรงฟันเนื่องจากมีโลหิตมาคั่งมากทำให้เกิดอาการเหงือกบวมได้ง่าย
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
2.กลุ่มอาการแสดงที่น่าจะตั้งครรภ์
3.กลุ่มอาการแสดงที่ตั้งครรภ์แน่นอน
1.กลุ่มอาการแสดงที่สงสัยว่าตั้งครรภ์
การคาดคะเนอายุครรภ์และกำหนดวันคลอด
2.ประวัติลูกดิ้นครั้งแรก
3.การตรวจภายใน
1.ประวัติวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย
4.การวัดระดับยอดมดลูกจากการตรวจครรภ์
5.การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
6.การถ่ายภาพรังสี