Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษา "นายถุงชา" - Coggle Diagram
กรณีศึกษา "นายถุงชา"
-
-
สมมติฐาน ที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุของปัญหา และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพจิตในโจทย์สถานการณ์ (Scenario)
สาเหตุของปัญหา
-
ผู้ป่วยมีบิดาที่เป็นจิตเภทดังนั้นทำให้ปัจจัยส่งเสริมในเรื่องนี้คือพันธุกรรมที่มีแนวโน้มที่โรคจิตเภทอาจมีพื้นฐานทางพันธุกรรม
-
-
ปัจจัยทางสังคมและจิตวิทยา สภาพสังคมที่เครียด, ปัญหาครอบครัว, หรือประสบการณ์ที่กระทบจิตใจอาจมีบทบาทในการพัฒนาอาการ
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ความเครียดในชีวิต, การใช้สารเสพติด
-
-
-
วางแผนการพยาบาลโดยระบุการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลบุคคลในวัยผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางจิต จากกรณีศึกษา
-
กิจกรรมการพยาบาล
- สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดให้ผู้ป่วยไว้วางใจ สร้างความเชื่อมั่นต่อการบำบัด ค้นหาปัญหาและทำความเข้าใจปัญหาข้อขัดแย้งในตัวผู้ป่วย
2.ประเมินการรับรู้ ความคิด ความรู้สึก เหตุผลที่ต้องบำบัดรักษา ประเมินแรงจูงใจในการเลิกสารเสพติด(สุรา) เน้นให้เห็นความสำคัญของการเลิกยาและผลกระทบหากบำบัดไม่ครบโปรแกรม
- แนะนำรูปแบบการบำบัดรักษา แต่ละระยะของการบำบัดรักษา
- เน้นย้ำกฎระเบียบย่อย กฎหลัก และการปฏิบัติตัวขณะบำบัดรักษา
- ให้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มบำบัด เพื่อการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่น
-
6.1 จัดการประชุมร่วมกับครอบครัวเพื่อสร้างแผนการฟื้นฟูที่ครอบคลุมทั้งด้านการรักษาและการสนับสนุนทางอารมณ์
6.2 ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคจิตเภทและวิธีการจัดการกับอาการต่าง ๆ แก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยสนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการรักษาได้ดีขึ้น
-
7.1 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมหรือกิจกรรมกลุ่มในชุมชน เช่น คลาสการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือกิจกรรมกลุ่มสนับสนุน
7.2 การเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ป่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพ
วิเคราะห์ปัญหาการดูแลบุคคลในวัยผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางจิต จากกรณีศึกษา และเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการพยาบาลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาที่พบ
- ความไม่เข้าใจของครอบครัวและชุมชน ครอบครัวและชุมชนอาจไม่มีความรู้หรือความเข้าใจที่เพียงพอเกี่ยวกับโรคจิตและวิธีการจัดการกับผู้ป่วย ซึ่งส่งผลให้การสนับสนุนและการดูแลไม่เหมาะสม
2.การขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยอาจไม่สามารถสื่อสารความต้องการและอาการของตนได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การรักษาไม่ตรงตามความต้องการ
3.การเข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่จำกัด การเข้าถึงบริการสุขภาพจิตอาจไม่สะดวกหรือไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับการดูแลที่เหมาะสมตามความจำเป็น
4.ปัญหาด้านแรงจูงใจในการรักษา ผู้ป่วยอาจขาดแรงจูงใจในการรักษาหรือการปฏิบัติตามแผนการรักษา เนื่องจากอาการของโรคหรือผลข้างเคียงของยา
5.ปัญหาทางการเงินและทรัพยากร ขาดทรัพยากรหรือการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอในการรักษาหรือการดูแลระยะยาว อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาและการฟื้นฟู
แนวทางการพัฒนาการพยาบาล
1.การให้การศึกษาแก่ครอบครัวและชุมชน จัดอบรมหรือสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคจิตและการดูแลผู้ป่วยแก่ครอบครัวและชุมชน เพื่อเพิ่มความเข้าใจและการสนับสนุนที่เหมาะสม
2.พัฒนาทักษะการสื่อสารของผู้ป่วยใช้เทคนิคการบำบัดและการฝึกอบรมเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการและอาการได้อย่างชัดเจน
3.ปรับปรุงการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต เสนอการบริการสุขภาพจิตที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก เช่น การให้บริการทางออนไลน์ หรือการจัดให้มีคลินิกสุขภาพจิตในพื้นที่
4.สร้างแรงจูงใจและการสนับสนุนในการรักษา ใช้กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจ เช่น การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและการให้รางวัลสำหรับความก้าวหน้าในการรักษา
5.จัดให้มีการดูแลแบบองค์รวม พัฒนาแผนการดูแลที่ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพจิตและร่างกาย โดยการทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพในการจัดการอาการเรื้อรังและผลข้างเคียง
6.สนับสนุนด้านการเงินและทรัพยากร ช่วยเหลือในการหาทรัพยากรทางการเงินหรือการสนับสนุนอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาและการดูแลที่จำเป็นได้