Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 9 แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคต นายรพีภัทร แสนคำ…
บทที่ 9
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคต
นายรพีภัทร แสนคำ เลขที่ 25
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
ความหมายของข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
ข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลข่าวสารที่มีจำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ สามารถเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทั้งแบบที่เข้ามาตามขั้นตอนการประมวลผล หรือที่เข้ามาแบบเวลาจริง (Real Time) ทันทีทันใด
รูปแบบและคุณลักษณะของข้อมูลขนาดใหญ่
ข้อมูลขนาดใหญ่สามารถมีรูปแบบได้หลากหลาย เช่น ข้อมูลเชิงพฤติกรรมการใช้งานต่าง ๆ
ข้อมูลภาพ เสียง วิดีโอ ข้อความจากแอพพลิเคชั่นต่าง ๆๆ เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วข้อมูลขนาดใหญ่จะมี
คุณลักษณะ ดังต่อไปนี
ขนาด (Volume)
ข้อมูลมีขนาดใหญ่ มีปริมาณข้อมูลมาก ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อมูล
แบบออฟไลน์หรือออนไลน์
ความหลากหลาย (Variety)
ข้อมูลสามารถเป็นได้ทั้งที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง
ความเร็ว (Velocity)
) ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างรวดเร็ว มีการส่งผ่าน
ข้อมูลอย่างต่อเนื่องในลักษณะสื่อผสม (Multimedia)
ความจริง (Veracity)
ข้อมูลมีความไม่ชัดเจน (Uncleansed) อาจมีความไม่น่าเชื่อถือ
(Untrusted)
การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics)
เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อค้นหารูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูล
เหล่านั้นในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยข้อมูลหลากหลายรูปแบบ
รูปแบบการวิเคราะห์ Big Data
การวิเคราะห์เชิงพรรณนา (Descriptive Analytics)
เป็นการวิเคราะห์โดยการนำข้อมูลในอดีตมาวิเคราะห์ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ เช่น
อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น จำนวนเท่าไร ความถี่เท่าใด เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ อะไร ส่วนไหนบ้าง เป็นต้น
การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics)
เป็นการวิเคราะห์ในลักษณะที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือ เป็นการประเมินว่าจะเกิดอะไร
ขึ้นต่อไป มีการให้ข้อมูลตัวชี้วัดของผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
การวิเคราะห์แบบกำหนดเอง (Prescriptive Analytics)
นการสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อพยากรณ์แนวโน้มและเสนอทางเลือกในการตัดสินใจที่
เหมาะสม เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อน
เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology)
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในปัจจุบัน คือ ความน่าเชื่อถือระหว่าง
บุคคลในการทำธุรกรรมนั้น ๆ
การทำงานของบล็อกเชน
บล็อกเชน เป็นโครงสร้างข้อมูล (Data Structure) แบบหนึ่งที่ทำให้รายการข้อมูล (Transaction)แต่ละรายการถูกสร้างขึ้นในลักษณะเป็นบล็อก (Block) ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้เป็นเสมือนห่วงโซ่ (Chain)ทำให้แต่ละบล็อกนั้นเชื่อมต่อไปยังโหนดต่าง ๆ
การประยุกต์ใช้บล็อกเชน
กลุ่มธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน (Financial
Technology : FinTech) เช่นน การทำธุรกรรมออนไลน์ของธนาคาร หรือการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นเพื่อ
ช่วยการตัดสินใจของนักลงทุน เป็นต้น
บิทคอยน์ (Bitcoin)
คือ สกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัลแรกของโลกที่ได้รับความนิยม เป็นคริปโตเคอเรนซี(Cryptocurrency) หรือสกุลเงินที่มีการเข้ารหัสประเภทหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญ
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT)
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลกับชีวิตและสังคม
ของเราเป็นอย่างมาก อุปกรณ์ต่าง ๆ
ความหมายของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
หมายถึง การเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถสื่อสารกันได้โดย
อาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยง และสามารถควบคุมสั่งการอุปกรณ์ต่าง ๆ
องค์ประกอบสำคัญของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ประกอบด้วยสิ่งที่สำคัญ ดังนี้
เครือข่ายอุปกรณ์รับรู้สัญญาณ (Wireless Sensor Network: WSN)
คือ กลุ่มของอุปกรณ์รับรู้สัญญาณ (Sensor Node) ต่าง ๆ
เทคโนโลยีการเข้าถึง (Access Technology)
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการเชื่อมต่อสำหรับอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ
Access technology โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
บลูทูธ 4.0 (Bluetooth 4.0)
2 .IEEE 802.15.4e
WLAN IEEE 802.11™ (Wi-Fi)
ตัวเชื่อมต่อเครือข่ายอุปกรณ์รับรู้สัญญาณ (Gateway)
ตัวเชื่อมต่อเครือข่ายอุปกรณ์รับรู้สัญญาณจะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์รับรู้สัญญาณ
(Sensor) ต่าง ๆ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
ในปัจจุบันเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ถูกนำมาประยุกต์ใช้และสามารถตอบสนอง
การดำเนินงานด้านต่าง ๆ ได้หลากหลาย ได้แก่
1. บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)
คือ การนำ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งภายในและ
ภายนอกบ้าน เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย
ประกอบด้วยคุณสมบัติหลัก 4 ประการ ได้แก่
1.1 ระบบเครือข่าย (Smart Home Network)
1.2 ระบบการควบคุมระบบอัจฉริยะ (Intelligent Control System)
1.3 อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ (Home Automation
Device)
1.4 อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ (Sensor)
2. อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable)
คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งและใช้งานบนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เพราะสามารถนำติดตัวไปได้ทุกทีโดยสามารถทำงานได้ทั้งในแบบไม่เชื่อมต่อกับ
อุปกรณ์อื่น (Stand Alone) หรือทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน
3. เมืองอัจฉริยะ (Smart City)
คือ เมืองที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้คุณภาพของประชากรดีขึ้น เช่น การจัดการพลังงานไฟฟ้า ระบบจัดการน้ำ จัดการขยะ ระบบควบคุมการจราจรอัจฉริยะ ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ เป็นต้น
4. โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid)
ือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบริหารจัดการควบคุมการผลิตส่ง และ
จ่ายพลังงานไฟฟ้า โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะประกอบด้วยระบบตรวจจับสัญญาณ ระบบเก็บข้อมูล
5. รถยนต์อัจฉริยะ (Connected car)
เป็นรถยนต์ที่มีการติดตั้งระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย เป็นการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งกับยานยนต์และการคมนาคม ทำให้รถยนต์กลายเป็นยานพาหนะอัจฉริยะ(Connected Vehicles หรือ Connected Car) ซึ่งสามารถสื่อสารกับสิ่งต่าง ๆ ได้แก่
5.1 เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพื่อความบันเทิงของผู้โดยสาร (Infotainment)
5.2 เชื่อมต่อกับบริการเกี่ยวกับการขับขี่ (Telematics) เช่น บริการนำทาง บริการ
ตรวจเช็ครถยนต์จากระยะไกล เป็นต้น
5.3 สื่อสารกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว (Vehicle-to-Everything: V2X) เช่น รถยนต์คันอื่น
สัญญาณไฟจราจร เป็นต้น
5.4 นำการสื่อสารมาผนวกกับข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ
6. อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งภาคอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things: IIoT)
คือ การนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยการผสานและ
เชื่อมโยงเครื่องจักร สิ่งอำนวยความสะดวก ยานพาหนะ
6.1 อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ (Sensors)
6.2 ส่วนประมวลผล (Processor หรือ Industrial Analytics)
6.3 เครื่องจักรที่ชาญฉลาด (Intelligent Machine Application)
หมายถึง เครื่องจักร
ยุคใหม่ที่นอกจากจะมีระบบกลไกที่มีความซับซ้อนแล้วการโปรแกรมทำให้ผู้ใช้งานสามารถ ควบคุม แก้ไข จัดการตรวจสอบการทำงานผ่านแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อไปได้
เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ใน
การประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ (Sensor)
คือ อุปกรณ์ในการตรวจจับสัญญาณที่เกิดขึ้น
จากกระบวนการต่าง ๆ
7. ระบบสุขภาพแบบครบวงจร (Connected health)
ป็นแนวคิดการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงชุมชนเข้ากับระบบสุขภาพแบบครบวงจร โดย
เชื่อมโยงทุกบริการที่เกี่ยวข้องกับการบริการสุขภาพ
8. ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart farming)
คือ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับงานด้านการเกษตร โดยการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI)
ความหมายของปัญญาประดิษฐ์
คือ ความฉลาด ความรู้ที่สร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต เป็นศาสตร์ที่อาศัย
ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย
การแบ่งกลุ่มของปัญญาประดิษฐ์
จากความหมายต่าง ๆ สามารถจัดแบ่งปัญญาประดิษฐ์ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
ระบบที่คิดและให้เหตุผลได้เหมือนมนุษย์ (Systems that Think Like Humans)
ระบบที่กระทำได้เหมือนมนุษย์ (Systems that Act Like Humans)
คือ การที่คอมพิวเตอร์
มีกระบวนการรับรู้ ประมวลผลและสามารถตอบสนองได้คล้ายมนุษย์เช่น สื่อสารได้ด้วยภาษาที่
มนุษย์ใช้ แปลงข้อความเป็นคำพูดหรือการแปลงคำพูดเป็นข้อความ
ระบบที่สามารถคิดได้อย่างมีหลักการและเหตุผล (Systems that Think Rationally)
โดยการศึกษาหลักการคำนวณ ใช้หลักตรรกศาสตร์ในการคิดหาคำตอบอย่างมีเหตุมีผล เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นการสร้างความรู้เฉพาะในแต่ละเรื่องทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเสมือนมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาและตอบปัญหาในแต่ละเรื่องนั้น ๆ
ระบบที่กระทำได้ตามหลักการและเหตุผล (Systems that Act Rationally)
เป็นการออกแบบสิ่งประดิษฐ์โดยมนุษย์ ให้มีปัญญาสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ เช่น ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Mapss ที่สามารถระบุเส้นทางได้อัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
โดยมีเป้าหมายว่าต้องไปถึงเป้าหมายในระยะทางที่สั้นที่สุดที่เป็นไปได้ เป็นต้น
ซึ่ง
การที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์คิดอย่างมนุษย์ได้
งานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์
งานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้รับความสนใจในปัจจุบัน ได้แก่
ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert Systems)
โครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network)
ตรรกศาสตร์คลุมเครือ (Fuzzy Logic)
วิทยาการหุ่นยนต์ (Robotics)
ในชีวิตประจำวัน
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language)
เทคโนโลยีเสมือนจริง (Reality)
ความจริงเสมือน (Virtual Reality: VR)
คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการจำลองสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงความ
เป็นจริงขึ้นมา และยังรวมถึงการจำลองข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสด้วยเช่น เสียงจาก
ลำโพงหรือหูฟัง
ความจริงเสริม (Augmented Reality: AR)
เทคโนโลยีความจริงเสริมเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการเชื่อมโยงโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกเสมือน โดยใช้อุปกรณ์ทางด้านฮาร์ดแวร์ร่วมกับซอฟต์แวร์ทำให้สามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็นวัตถุ 3 มิติ