Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Physical activity (Exercise), นางสาวสุพิชฌาย์ ประทายนอก กลุ่มB รหัส6511175…
Physical activity (Exercise)
ความหมาย
:star:
Physical Activity (การเคลื่อนไหวทางกาย)
การเคลื่อนไหวร่างกายใด ๆ ที่ผลิตจากกล้ามเนื้อลายและต้องใช้พลังงาน
Exercise (การออกกำลังกาย)
เป็นการเคลื่อนไหวทางกายที่มีการวางแผน มีโครงสร้าง ทำซ้ำ ๆ และมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสุขภาพหรือสมรรถภาพทางกาย
แม้ว่าทุกการออกกำลังกายจะเป็นการเคลื่อนไหวทางกาย แต่ไม่ใช่ทุกการเคลื่อนไหวทางกายจะเป็นการออกกำลังกาย
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
:<3:
ช่วยรักษาและเพิ่มความแข็งแรง
เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความเป็นอิสระในการดำเนินชีวิต
มีพลังงานเพิ่มขึ้น
ในการทำกิจกรรมต่างๆ
พัฒนาการทรงตัว
ลดความเสี่ยงในการล้ม และลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บจากการล้ม
ช่วยจัดการและป้องกันโรคบางชนิด
ข้ออักเสบ
โรคหัวใจ
โรคหลอดเลือดในสมอง
เบาหวานชนิดที่2
กระดูกพรุน
ลด
ระดับความเครียดและความวิตกกังวล ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใจและการทำงานของสมอง
ช่วยให้
นอนหลับ
ได้ดีขึ้น
ลดน้ำหนัก
หรือควบคุมน้ำหนักเมื่อรวมกับการลดปริมาณแคลอรี่
ควบคุมความดันโลหิต
อาจช่วยพัฒนาและรักษาบางส่วนของการทำงานด้านการรับรู้
เช่น ความสามารถในการเปลี่ยนงานอย่างรวดเร็วหรือวางแผนกิจกรรม
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการทางกาย
ชะลอการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอายุ
การสูญเสียกล้ามเนื้อและกระดูก
การเพิ่มไขมันในร่างกาย
เพิ่มอายุไข เพิ่มคุณภาพชีวิต
หลักการสั่งการการออกกำลังกาย
:pencil2:
ใช้หลักการ FITT-E
F: Frequency (ความถี่)
ควรออกกำลังกาย 3-5 วัน/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความหนักของการออกกำลังกาย
Moderate-intensity aerobic exercise: ≥ 5 วัน/สัปดาห์
Vigorous-intensity aerobic exercise: ≥ 3 วัน/สัปดาห์
I: Intensity (ความหนักในการออกกำลังกาย)
Light-Intensity: หัวใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย หายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย
Moderate-Intensity: หัวใจเต้นชัดเจน หายใจเร็วขึ้น
Vigorous-Intensity: หัวใจเต้นเร็วมาก หายใจเร็วมาก
T: Time or Duration (ระยะเวลา)
ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อย 15 นาที/วัน ดีที่สุดคือ 20-30 นาที/วัน และควรทำต่อเนื่องเป็นประจำ
สำหรับผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มจากการออกกำลังกายที่สั้นอย่างน้อย 10 นาทีและค่อยๆ เพิ่มระยะเวลา
T: Type (ประเภทการออกกำลังกาย)
ควรเลือกประเภทการออกกำลังกายที่เหมาะสม
Cardiovascular endurance or Aerobic exercise)
Strengthening or Resistance exercise
Flexibility or Stretching exercise
Balance exercise
E: Enjoyment (ความเพลิดเพลินในการออกกำลังกาย)
การออกกำลังกายควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
การวัดความหนักของการออกกำลังกาย
:red_flag:
Target Heart Rate (THR)
Maximum Heart Rate (MHR) Method
THR = MHR x (% desired intensity of MHR)(1)
(1)recommend at 60%-80% for moderate-intensity
Heart Rate Reserve (HRR) Method
THR = (HRR x % desired intensity(1)) + RHR(2)
= [ (MHR - RHR ) x 40% ] + RHR
(1)It should not increase more than 40% of MHR
(2) RHR = Resting heart rate
วิธีตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
สวมเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบสวมข้อมือ
วัดชีพจรโดยใช้นิ้ว 2 หรือ 3 นิ้วในการวัด
Talk Test (การทดสอบการพูด)
Light-Intensity: สามารถพูดและร้องเพลงได้ขณะออกกำลังกาย
Moderate-Intensity: พูดได้ แต่ไม่สามารถร้องเพลงได้ขณะออกกำลังกาย
Vigorous-Intensity: พูดได้ไม่กี่คำ หายใจหอบขณะออกกำลังกาย
Rating of Perceived Exertion (RPE) (การประเมินความเหนื่อย)
ใช้แบบประเมินเชิงตัวเลขที่เรียกว่า
‘Borg’s scale’
ซึ่งใช้ในการประเมินความรู้สึกระหว่างการออกกำลังกายโดยการตรวจสอบด้วยตัวเอง
ขึ้นอยู่กับการสังเกต
อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น
การหายใจที่หนักและเร็วขึ้น
เหงื่อออกมากขึ้น
กล้ามเนื้อรู้สึกเหนื่อยล้า
ใช้สเกล 6-20 (จากไม่มีความรู้สึกของการออกแรงจนถึงการออกแรงสูงสุด) ในการประเมินระดับความเหนื่อย
ระดับ 12-13 เป็นระดับปานกลางที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
Metabolic Equivalent of Task (MET)
1 MET คือพลังงานที่ใช้ขณะพัก
กิจกรรมที่ใช้ 4 MET คือกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากกว่าขณะพัก 4 เท่า
ตัวอย่างกิจกรรมทางกายตามความหนัก
:checkered_flag:
Light Activity
(กิจกรรมเบา น้อยกว่า 3.0 METs)
เดินแบบสบายๆ
ขี่จักรยานน้อยกว่า 5 ไมล์ต่อชั่วโมง
การยืดกล้ามเนื้อ
ตกปลา
Moderate Activity
(กิจกรรมปานกลาง 3.0-6.0 METs)
เดินเร็ว
ขี่จักรยาน 5-9 ไมล์ต่อชั่วโมง
แอโรบิกในน้ำ (Aqua aerobics)
กระโดดบนแทรมโพลีน
Vigorous Activity
(กิจกรรมหนัก มากกว่า 6.0 METs)
เดินแข่ง (Race walking)
ขี่จักรยานมากกว่า 10 ไมล์ต่อชั่วโมง
ศิลปะการต่อสู้ เช่น คาราเต้, ยูโด, เทควันโด
กระโดดเชือก
ส่วนประกอบของการออกกำลังกาย
:star:
Warm-up (การวอร์มอัพ)
: อย่างน้อย 5-10 นาที ก่อนเริ่มออกกำลังกาย
Main Exercise
: (การออกกำลังกายหลัก): 20-60 นาที เช่น แอโรบิก การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
Cool-down (การคูลดาวน์)
: อย่างน้อย 5-10 นาที หลังการออกกำลังกาย
ประเภทของการออกกำลังกาย
:explode:
Aerobic exercise
หรือที่เรียกว่า
“คาร์ดิโอ”
คือการออกกำลังกายที่มักจะประกอบด้วยการเคลื่อนไหวที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
ทุกสัปดาห์ ผู้ใหญ่ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ใช้พลังงานอย่างน้อย 150 นาที
ในระดับความเข้มข้นปานกลาง หรือ 75 นาที ในระดับความเข้มข้นสูง หรือการรวมกันของทั้งสองอย่างในระดับความเข้มข้นปานกลางและสูง
ตัวอย่างการออกกำลังกาย
ดินเร็วหรือจ็อกกิ้ง
เดินขึ้นบันไดหรือขึ้นเขา
ปั่นจักรยานหรือใช้จักรยานออกกำลังกาย (stationary bike)
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
พัฒนาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
พัฒนาสุขภาพกระดูก
ด้านความปลอดภัย
ทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินช้าๆ เพื่อวอร์มอัพก่อน
การออกกำลังกายไม่ควรทำให้รู้สึกเวียนหัว เจ็บหน้าอก หรือมีอาการแสบร้อนเหมือนกรดไหลย้อน
ดื่มน้ำเพียงพอเมื่อทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ให้ใช้อุปกรณ์นิรภัย เช่น หมวกกันน็อคขณะขี่จักรยาน
Strength Exercise
การออกกำลังกายที่ทำให้กล้ามเนื้อต้องทำงานกับแรงต้าน
ตัวอย่างการออกกำลังกาย
ยกน้ำหนัก
ใช้ยางยืดสำหรับออกกำลังกาย
การใช้น้ำหนักตัวทำท่าออกกำลังกาย เช่น Plank และ Squat
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
ช่วยรักษาความแข็งแรงและการทำงานของกล้ามเนื้อ
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหัก
ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ด้านความปลอดภัย
อย่ากลั้นหายใจขณะฝึกความแข็งแรง
เริ่มออกกำลังกายอย่างช้าๆเสมอ
อย่าฝืนตัวเองจนถึงจุดที่รู้สึกเจ็บปวด
Balance Exercise
การออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนา
การทรงตัว
ของร่างกาย ลดความเสี่ยงในการล้ม เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการทรงตัว
ตัวอย่างการออกกำลังกาย
การยืนขาเดียว
การฝึก Tai Chi
การเดินปลายเท้า (Heel-to-Toe Walk)
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
หากคุณก้าวพลาดจากขอบถนนและสะดุด ร่างกายต้องตอบสนองทันทีเพื่อรักษาสมดุลและป้องกันการหกล้ม
การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการสนับสนุนข้อต่อ
สมองจะส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อเพื่อประสานการเคลื่อนไหวให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ด้านความปลอดภัย
พิจารณาทำการออกกำลังกายใกล้กำแพงหรือเก้าอี้ที่มั่นคง เผื่อในกรณีที่เสียการทรงตัว
เตรียมเก้าอี้ที่แข็งแรงหรือมีคนอยู่ใกล้ๆ เพื่อช่วยพยุงหากคุณรู้สึกไม่มั่นคง
สวมเสื้อผ้าที่หลวมและสบาย
Flexibility Exercise
การออกกำลังกายที่
ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่นมากขึ้น
ช่วยลดความเจ็บปวดในกล้ามเนื้อ ป้องกันการบาดเจ็บ และส่งเสริมสุขภาพจิต
ตัวอย่างการออกกำลังกาย
การยืดกล้ามเนื้อหลัง
การยืดกล้ามเนื้อขาด้านใน
การยืดกล้ามเนื้อแฮมสตริง
ด้านความปลอดภัย
การยืดกล้ามเนื้อควรทำให้รู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ หากรู้สึกเจ็บขณะยืดควรผ่อนคลายลง
ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัด มีโรคประจำตัว หรือกังวลเกี่ยวกับการออกกำลังกายบางอย่าง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มยืดกล้ามเนื้อ
ทำการวอร์มอัพเพื่อให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อ เพื่อให้สามารถยืดได้มากขึ้นโดยไม่รู้สึกตึงหรือเจ็บ
หลีกเลี่ยงการกลั้นหายใจหรือออกแรงมากเกินไป การหายใจสม่ำเสมอช่วยให้การเคลื่อนไหวราบรื่นและเป็นธรรมชาติ
นางสาวสุพิชฌาย์ ประทายนอก กลุ่มB รหัส6511175 :<3: