Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กฎหมายพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539,…

- - - - การออกกฎ คำสั่งทางปกครอง
  - - - 1.กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เป็น"กฎหมายกลาง"
      - 2.กรณีที่เจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนต่างๆ ตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ
        
        2.1 กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที ่ออกคำสั ่งทางปกครองไม่ได้บัญญัติหลักเกณฑ์เเละวิธีการ และขั้นตอนใดไว้โดยเฉพาะ
        
        2.2 กฎหมายกำหนดอำนาจเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งทางปกครองได้บัญญัติหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนใดไว้โดยเฉพาะเเล้ว เเต่กฎหมายดังกล่าวมีหลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม หรือมีมาตราฐานในการปฏิบัติราชการต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพรบ นี้
      - 3.ไม่นำ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองไปใช้บังคับกับขั ้นตอนและะยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งที ่กฎหมายเฉพาะกำหนดไว้แล้ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักประกันความเป็นธรรม หรือมาตรฐานในการปฏิบัติราชการ
        
        หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม
        
        2 การเปิดโอกาสให้คู ่กรณีได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตน อันเป็นการป้องกันสิทธิของตนเอง
        
        1 การพิจารณาถึงความเป็นกลางของเจ้าหน้าที ่ที ่พิจารณาทางปกครอง
        
        มาตรฐานในการปฏิบัติราชการ
        
        คุณภาพและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐ
    - - มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 4 และมาตรา 63/3
        
        ข้อยกเว้นในกรณีที ่กฎหมายเฉพาะกำหนดขั ้นตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งไว้ (มาตรา 3 วรรคสอง) โดยมิต้องพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ที ่ประกันความเป็นธรรมและมาตรฐานในการปฏิบัติราชการแต่ประการใด
        
        ข้อยกเว้นเกี่ยวกับองค์กรและลักษณะงาน (มาตรา 4) ได้แก่
        
        1) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
        
        2) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ
        
        3)การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
        
        4) การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่
        ในกระบวนพิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย
        
        5) การพิจารณาวินิจฉัยเรื ่องร้องทุกข์และการสั ่งการตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา
        
        6) การดำเนินงานเกี ่ยวกับนโยบายต่างประเทศ
        
        7) การดำเนินงานเกี ่ยวกับราชการทหาร
        
        8) การดำเนินงานตามกระบวนยุติธรรมทางอาญา
        
        9) การดำเนินกิจการขององค์การทางศาสนา
        
        ข้อยกเว้นกรณีที่มี พ.ร.ฎ. ที่ตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 วรรคสอง - ปัจจุบันยังไม่มีการตรา พ.ร.ฎ. ออกมายกเว้นแต่อย่างใด
        
        ข้อยกเว้นกรณีที ่กฎหมายเฉพาะกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองเอาไว้ โดยเฉพาะแล้ว ตามมาตรา 63/3 บัญญัติให้อำนาจเจ้าหน้าที ่สามารถใช้ดุลพินิจในการเลือกใช้มาตรการบังคับทางปกครองได้ว่า จะเลือกใช้ตามกฎหมายเฉพาะหรือตามกฎหมายฉบับน
    - - มาตรา 5
        
        (1) “คำสั่งทางปกครองโดยแท้”
        
        จะต้องมีองค์ประกอบครบ 5 ประการ
        
        (1) เป็นการกระทำโดย “เจ้าหน้าที่”
        
        เจ้าหน้าที่ต้องมีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น (ตามมาตรา 12)
        
        กรณีที่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่
        
        เจ้าหน้าที ่ที ่เป็นตำแหน่งต่างๆ ตามกฎหมาย
        
        เจ้าหน้าที ่ที ่เป็นคณะบุคคล
        
        เจ้าหน้าที ่ที่เป็นนิติบุคคล
        
        กรณีที ่ไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที
        
        2 more items...
        
        (2) เป็นการใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมายฝ่ายเดียว
        
        ประการแรก เจ้าหน้าที ่ได้กระทำการในแดนของกฎหมายมหาชนหรือไม่ (ดูว่าอาศัยอำนาจตามกฎหมายใด)
        
        ประการที่สอง ต้องเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายปกครอง
        (กฎหมายระดับ พ.ร.บ.)
        
        ประการที่สาม เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่แสดงเจตนาฝ่ายเดียวซึ ่งเอกชนไม่ได้ยินยอมด้วย ประเด็นนี ้แยก “สัญญาทางปกครอง” ออกจากคำสั่งทางปกครอง
        
        (2) “คำสั ่งทางปกครองที ่กำหนดในกฎกระทรวง”
        
        กฎกระทรวง ฉบับที ่ 12 (พ.ศ. 2543)
        
        1.การสั่งไม่รับหรือไม่รับคำเสนอขาย รับจ้าง แลกเปลี่ยน ให้เช่า ซื้่อ เช่า หรือ ให้สินธิประโยชน์
        
        การอนุมัติสั่งซื้อ จ้าง เเลกเปลี่ยน เช่า ขาย ให้เช่า หรือให้สิทธิประโยชน์
        
        การสั่งยกเลิกกระบวนการพิจารณาคำเสนอหรือการดำเนินการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
        
        4.การสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน
        
        (คู่สัญญาผิดสัญญากับหน่วยงานของรัฐ) รวมถึงการให้หรือไม่ให้ทุนการศึกษา
        เป็นคำสั่งทางปกครอง
        
        (3) เป็นการกำหนดสภาพทางกฎหมาย (มุ่งให้เกิดผลทางกฎหมาย)
        
        (4) เกิดผลเฉพาะกรณี
        
        มีลักษณะเป็นรูปธรรมเฉพาะกรณี
        และมีผลกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง “ที่สามารถระบุตัวได้”
        
        คำสั่งทางปกครอง แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
        
        1.“คำสั่งทางปกครองเฉพาะเจาะจง”
        
        คำสั่งทางปกครองที่มีผล
        “เฉพาะกรณี” (คือ คำสั่งที่มีผลเฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง)
        
        “เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง” (สามารถระบุตัวได้)
        
        2.คำสั่งทางปกครองทั่วไป
        
        เฉพาะกรณี
        
        บุคคลเป็นการทั่วไป
        
        องค์ประกอบในข้อนี้ทำให้คำสั ่งทางปกครองมีลักษณะแตกต่างจาก
        “กฎ”
        
        กฎ
        
        พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง
        ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ
        
        บทบัญญัติอื ่นที ่มีผลบังคับเป็นการทั ่วไป โดยไม่มุ ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
        
        “มติคณะรัฐมนตรี” ในบางกรณี มติ ครม. อาจเป็น “กฎ” ในความหมายของกฎหมายลำดับรองได้ ในขณะที ่บางกรณีก็ไม่ได้มีสถานะเป็นกฎ แต่เป็น “คำสั ่งทางปกครอง”หรือเป็นเพียง “นโยบาย” หรือ “คำสั่งภายในฝ่ายบริหาร”
        
        (5) มีผลโดยตรงออกไปสู่ภายนอกฝ่ายปกครอง
        
        การกระทำที ่มีผลออกไปสู ่ภายนอกฝ่ายปกครอง เป็นการกระทำ
        ในขั้นตอนสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ที่ไปกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว
        
        หากการกระทำดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการเตรียมการ หรือการพิจารณา เพื่อออกคำสั ่งทางปกครอง หรือเป็นเพียงการแจ้งผลข้อหารือระหว่างหน่วยงาน
        
        ซึ่งถือว่าอยู่ในชั้นของการพิจารณาแล้ว การกระทำดังกล่าวย่อมมิได้เกิดผลในทางกฎหมาย ยังไม่กระทบต่อสถานสภาพของสิทธิหรือหน้าที ่ของบุคคลหนึ ่งบุคคลใด จึงไม่ใช่คำสั ่งทางปกครอง
      - 4 เจ้าหน้าที่มีอำนาจ
        
        5+12
        
        เเจก จนท ได้ 4 ประเภท
        
        (2) คณะบุคคลของภาครัฐทุกประเภทหรือทุกรูปแบบ
        
        (3) หน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลทุกรูปแบบ
        
        (4) เอกชนที่ได้รับมอบให้ใช้อำนาจปกครองของรัฐ
        
        (1) บุคคลธรรมดาคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งเป็นบุคลากรภาครัฐทั้งหมด
        
        ไม่ได้กระทำโดยเจ้าหน้าที ่” หรือกระทำ
        โดย “เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น” ย่อมไม่ใช่ “คำสั่งทางปกครอง
        
        การพิจารณา
        
        (1) อำนาจในการออกคำสั่งนั้นเป็นของตำแหน่งใด ดูกฎหมายเฉพาะ
        ที่ให้อำนาจในการออกคำสั่ง
        
        (2) ผู้ที่ออกคำสั่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนั้นหรือไม่ ดูว่าได้รับการแต่งตั้ง
        ให้ดำรงตำแหน่งหรือไม่
        
        (3) กรณีเจ้าหน้าที่เป็นบุคคล (องค์กรเดี่ยว) ดูว่าผู้นั้นได้ทำคำสั่ง
        ทางปกครองนั้นในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งนั้นหรือไม่
        
        (4) กรณีเจ้าหน้าที ่เป็นคณะบุคคล (องค์กรกลุ่ม) ดูว่าองค์ประกอบ
        องค์ประชุม และองค์มติในการออกคำสั่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม
        
        หลักความเป็นกลาง
        
        ความไม่เป็นกลางโดยสภาพภายนอก ตามมาตรา 13
        
        เป็นเหตุที่พิจารณาจากสถานภาพหรือฐานะส่วนตัวของเจ้าหน้าที่
        เป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงความคิดภายในจิตใจหรือเจตนาของเจ้าหน้าที่
        
        เจ้าหน้าที่นั ้นจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเตรียมการหรือดำเนินการเพื ่อออกคำสั ่งทางปกครองไม่ได้เลย ไม่ว่าจะในฐานะเป็นผู้ออกคำสั่ง ผู้เสนอแนะให้ออกคำสั่ง หรือผู้อนุมัติ หรือให้ความเห็นชอบให้ออกคำสั่ง
        
        รายละเอียดของเหตุแห่งความไม่เป็นกลางตามมาตรา 13 มีดังนี้
        
        (1) เจ้าหน้าที่เป็นคู่กรณีเอง หมายถึง กรณีที่เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจ
        ออกคำสั่ง เป็นคู่กรณีในการพิจารณาทางปกครองเอง
        
        (2) เป็นคู่หมั้นหรือคู่สมรสของคู่กรณี หมายถึง คู่หมั้นหรือคู่สมรสทางนิตินัยเท่านั้น โดยคู่สมรส หมายถึง คู่สมรสที่มีการจดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย
        
        ส่วนคู่สามีภรรยาที่ไม่ได้สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นกรณีที่ต้องพิจารณาตามกฎกระทรวง
        
        (3) เป็นญาติของคู ่กรณี คือ เป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานไม่ว่าในชั้นใดๆ หรือเป็นพี ่น้อง หรือลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายใน 3 ชั ้น หรือเป็นญาติเกี่ยวพันทางแต่งงานนับได้เพียง 2 ชั้น
        
        (4) บุคคลซึ ่งเป็นหรือเคยเป็นผู ้แทนโดยชอบธรรม หรือผู ้พิทักษ์
        หรือผู้แทนหรือตัวแทนของคู่กรณ
        
        (5) เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ หรือเป็นนายจ้างของคู่กรณี
        
        (6) กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
        
        ปัจจุบัน ได้ออกเป็นกฎกระทรวง กำหนดกรณีอื ่นที ่เจ้าหน้าที่
        จะทำการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ พ.ศ. 2566
        
        8 more items...
        
        ความไม่เป็นกลางโดยสภาพภายใน (มาตรา 16)
        
        เป็นเรื่องที่อยู่ภายในจิตใจของเจ้าหน้าที่มันเป็นเรื่องที่ผู้อื่นไม่สามารถ
        หยั่งรู้ได้ถึงความรู้สึกนึกคิดที่อยู่ภายในจิตใจ
        
        การพิจารณาว่าเจ้าหน้าที ่มีความเป็นกลางหรือไม่ จึงจำเป็นต้องพิจารณาจากเหตุที่ปรากฏให้เห็นว่ามีสภาพร้ายแรงที ่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกลางหรือไม
        
        ข้อยกเว้นของมาตรา 13 และมาตรา 16
        
        มาตรา 18
        
        (1) กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้ล่าช้าไปจะเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ หรือสิทธิของบุคคลจะเสียหายโดยไม่มีทางแก้ไขได
        
        (2) ไม่มีเจ้าหน้าที่อื่นปฏิบัติหน้าที่แทนผู้นั้นได้
        
        5.หลักในการพิจารณาทางปกครอง
        
        หลักการไม่ยึดแบบพิธี
        
        มีเรียบง่ายและความสะดวก
        
        หลักการใช้ภาษาของประเทศ ตามมาตรา 26
        
        ต้องใช้ภาษาไทยเป็นหลัก
        
        หลักการไต่สวนมาตรา 28 และมาตรา 29
        
        มาตรา 28 เจ้าหน้าที่
        อาจตรวจสอบข้อเท็จจริง
        ได้ตามความเหมาะสมในเรื่องนั้นจะจำกัดตนเองอยู่กับข้อเท็จจริงที่คู่กรณีให้ไม่ได
        
        มาตรา 29 พิจารณาพยานหลักฐานที ่ตนเห็นว่าจำเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงในการนี้
        
        (1) แสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง
        
        (2) รับฟังพยานหลักฐาน คำ ชี้แจง หรือความเห็นของคู่กรณีหรือของพยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญที่คู่กรณีกล่าวอ้าง เว้นแต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่จำเป็น
        
        เว้นแต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่จำเป็นฟุ่มเฟือยหรือเพื่อประวิงเวลา
        
        (3) ขอข้อเท็จจริงหรือความเห็นจากคู่กรณี พยานบุคคล หรือพยานผู้เชี่ยวชาญ
        
        (4) ขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
        
        (5) ออกไปตรวจสถานที่
        
        วรรค 2 คู่กรณีต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที ่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง และมีหน้าที่แจ้งพยานหลักฐานที่ตนทราบแก่เจ้าหน้าที่
        
        หลักการให้โต้แย้ง
        
        ตรวจสอบความถูกต้องโดยมีข้อยกเว้นให้ใช้หลักการโต้แย้งประกอบด้วย อันเป็นหลักประกันความเป็นธรรมให้แก่คู่กรณีที่จะอยู่ในบังคับของคำสั่งทางปกครอง ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30
        
        หลักการเปิดเผย
        
        เพื่อความโปร่งใสความถูกต้องในการพิจารณาและความไว้วางใจจากประชาชน ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 31
        
        เว้นแต่ในส่วนที ่เป็นความลับ ตามมาตรา 32
        
        หลักความเป็นกลาง 13 16
        
        ุ6.สิทธิของคู่กรณีในการพิจารณาทางปกครอง
        
        สิทธิในการคัดค้านว่าเจ้าหน้าที่หรือคณะกรรมการที่ทำคำสั่งทางปกครองไม่เป็นกลาง
        (มาตรา 14 ถึงมาตรา 16)
        
        สิทธินำทนายความหรือที ่ปรึกษาของตนเข้ามาในการพิจารณาทางปกครองที ่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ (มาตรา 23)
        
        สิทธิขอตรวจดูเอกสารที่จำเป็นต้องรู ้เพื่อการโต้แย้งหรือชี้แจงหรือป้องกันสิทธิ
        ของตนได้ (มาตรา 31)
        
        5. สิทธิที่จะได้รับทราบเหตุผลของคำสั่งทางปกครอง (มาตรา 37)
        
        การให้เหตุผลในคำสั่งทางปกครองมีเป้าประสงค์หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
        การให้โอกาสเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตนเอง
        
        การให้ประชาชนได้มีโอกาสทราบว่าเหตุผลของคำสั่งนั่นมีอยู่อย่างไร
        
        1 more item...
        
        2.“เหตุผล”
        
        ไม่จำเป็นต้องระบุไว้ในคำสั่งทางปกครองโดยตรง
        
        1 more item...
        
        คำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือที่ออกโดยไม่ระบุเหตุผล อันเป็นการออกคำสั่งโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ ย่อมมีผลทำให้คำสั่งทางปกครองนั ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
        
        มาตรา 37 วรรคสาม ได้บัญญัติถึงกรณี
        ที่ไม่ต้องระบุเหตุผลเอาไว้ในคำสั่งทางปกครองหรือเอกสารแนบท้ายคำสั่งใน 4 กรณี
        
        4 more items...
        
        สิทธิในการอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งทางปกครอง (มาตรา 44)
        
        สิทธิในการขอให้เพิกถอนหรือแก้ไขเพิ ่มเติมคำสั ่งทางปกครองที ่พ้นกำหนดอุทธรณ์
        หรือเรียกว่า “การขอพิจารณาใหม่” (มาตรา 54)
        
        3. การรับฟังคู่กรณีก่อนออกคำสั่งทางปกครอง
        
        การรับฟังคู่กรณีในกระบวนพิจารณาทางปกครองมีวัตถุประสงค์หลักอยู่
        3 ประการ
        
        (1) เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการพิจารณาทางปกครอง
        
        (2) เพื่อทำให้การตัดสินใจทางปกครองมีความโปร่งใสและมีความชอบธรรม
        
        (3) เพื่อทำให้ภารกิจของฝ่ายปกครองบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ
        
        สำหรับการมีโอกาสโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตนนั้น หมายถึง การให้โอกาสคู ่กรณีที ่จะโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐาน โดยมีเวลาเพียงพอที่จะกระทำการโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตนอย่างเพียงพอ
        
        ในทางปฏิบัติโดยทั่วไปเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คู่กรณีได้ทราบ เช่น ในการสอบสวนวินัยเจ้าหน้าที ่จะแจ้งข้อกล่าวหาและพยานหลักฐานที ่สนับสนุนข้อกล่าวหาให้คู ่กรณีได้ทราบและกำหนดระยะเวลาให้คู่กรณีได้ชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานของตน
        
        7.การเเจ้งสิทธิอุทธรณ์
        
        ต้องเป็นกรณีที่คำสั่งทางปกครองนั้นอาจ “อุทธรณ์” หรือ “โต้แย้ง”
        
        2.การไม่แจ้งดังกล่าวมิได้ส่งผลถึงขั้นที่ทำให้คำสั่งทางปกครองนั ้นกลายเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพียงแต่มีผลต่อระยะเวลาในการอุทธรณ์หรือโต้แย้ง
        
        (1) มีการแจ้งสิทธิอุทธรณ์ให้คู่กรณีทราบในภายหลัง ให้ระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งตามกฎหมายเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งสิทธิอุทธรณ์หรือโต้แย้ง
        
        (2) ถ้าไม่มีการแจ้งสิทธิอุทธรณ์ในภายหลัง ถ้าระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งตามกฎหมาย มีระยะเวลาสั้นกว่า 1 ปี “ให้ขยายเป็น 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งทางปกครอง”
        
        8.การเกิดผลเเละสิ้นผลของคำสั่งทางปกครอง 42
        
        ว 1มีผลใช้ยันต่อบุคคลตั้งแต่ขณะที่ผู้นั้นได้รับแจ้ง
        
        ว 2 มีผลตราบเท่าที่ยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผลลงโดยเงื ่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น
        
        ว 3 คำสั่งทางปกครองสิ้นผลลง ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกผู้ซึ่งครอบครองเอกสารหรือวัตถุอื ่นใดที ่ได้จัดทำขึ ้นเนื ่องในการมีคำสั ่งทางปกครองดังกล่าว ซึ ่งมีข้อความหรือเครื ่องหมายแสดงถึงการมีอยู ่ของคำสั ่งทางปกครองนั ้น
        
        1 more item...
        
        คำสั่งทางปกครองที่เป็น “โมฆะ” นั้น ไม่มีผลในทางกฎหมาย (เป็นคำสั่ง
        ทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอันมีสภาพร้ายแรง)
        
        1 more item...
        
        2.มีการแจ้งโดยชอบ(รับเเจ้ง)
        
        3 more items...
        
        คำสั่งทางปกครองที ่มีผล “เมื่อได้แจ้ง
        
        1 more item...
        
        คำสั่งทางปกครองมีผลต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
        
        2 more items...
        
        5.การสิ้นผลของคำสั่งทางปกครอง
        
        2 more items...
        
        9.คำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีความบกพร่อง
        
        2 more items...
- - - - คำสั่งทางปกครองที่ไม่ต้องให้โอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานเอาไว้ 6 ประเภท
        
        1) การบรรจุ การแต่งตั้ง การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสั่งพักงาน หรือสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อน หรือการให้พ้นจากตำแหน่ง
        
        2) การแจ้งผลการสอบหรือการวัดผลความรู้หรือความสามารถของบุคคล
        
        3) การไม่ออกหนังสือเดินทางสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ
        
        4) การไม่ตรวจลงตราหนังสือเดินทางของคนต่างด้าว
        
        5) การไม่ออกใบอนุญาตหรือการไม่ต่ออายุใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว
        
        6) การสั่งให้เนรเทศ