Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสภาพของการบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal Cord Injury Pathophysiology) -…
พยาธิสภาพของการบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal Cord Injury Pathophysiology)
Primary Injuries (การบาดเจ็บระดับปฐมภูมิ)
การบาดเจ็บโดยตรงที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อไขสันหลังถูกทำลาย เช่น การหักหรือเคลื่อนของกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการทับไขสันหลังและรากประสาท
การฉีกขาดของหลอดเลือดที่เลี้ยงไขสันหลัง ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่บาดเจ็บขาดเลือด ส่งผลให้เซลล์ประสาทเกิดการตายทันที
Secondary Injuries (การบาดเจ็บระดับทุติยภูมิ)
เกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บปฐมภูมิผ่านไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดการบวมและการอักเสบของเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้กับจุดที่บาดเจ็บ
เนื้อสีขาว (White matter) จะเกิดการขาดเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้การสื่อสารของเส้นประสาทผ่านไขสันหลังหยุดชะงัก
การไหลเวียนเลือดลดลงไปยังเซลล์ประสาท (Astrocytes และ Oligodendrocytes) ส่งผลให้เซลล์เหล่านี้เกิดความเสียหายถาวรในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดการบาดเจ็บ
ประเภทของการบาดเจ็บไขสันหลัง (Types of Spinal Cord Injuries)
1 Complete Cord Injury (การบาดเจ็บไขสันหลังชนิดสมบูรณ์)
การสูญเสียการทำงานทั้งหมดของไขสันหลังตั้งแต่ระดับที่ได้รับบาดเจ็บลงไป ผู้ป่วยจะสูญเสียความรู้สึกและการควบคุมการเคลื่อนไหวในบริเวณที่ต่ำกว่าระดับการบาดเจ็บ
อาการที่พบ: อัมพาตทั้งร่างกาย เช่น Tetraplegia (Quadriplegia) เกิดอาการอัมพาตที่แขนและขา หรือ Paraplegia เกิดอัมพาตเฉพาะที่ขา
2 Incomplete Cord Injury (การบาดเจ็บไขสันหลังชนิดไม่สมบูรณ์)
การสูญเสียการทำงานเพียงบางส่วนของไขสันหลัง ผู้ป่วยยังคงมีการทำงานของเส้นประสาทบางส่วน
อาการที่พบจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
Anterior Spinal Cord Syndrome: สูญเสียการเคลื่อนไหวและความรู้สึกเจ็บปวด แต่ยังคงรับรู้ความรู้สึกสัมผัสเบื้องต้นได้
Central Spinal Cord Syndrome: มีอาการอ่อนแรงที่แขนและมือมากกว่าที่ขา
Brown-Sequard Syndrome: บาดเจ็บที่ไขสันหลังครึ่งซีก ทำให้สูญเสียความรู้สึกด้านตรงข้ามของการบาดเจ็บ แต่สูญเสียการเคลื่อนไหวในด้านเดียวกัน
ภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บไขสันหลัง (Complications from Spinal Cord Injuries)
Spinal Shock (Neurogenic Shock): ไขสันหลังหยุดทำงานชั่วคราวหลังการบาดเจ็บ ทำให้เกิดการสูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาทส่วนที่ต่ำกว่าจุดบาดเจ็บ
Respiratory failure: การล้มเหลวของระบบหายใจ อาจเกิดในกรณีที่ไขสันหลังส่วนที่บาดเจ็บควบคุมการทำงานของระบบหายใจ
Autonomic Dysreflexia: ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิต การขับถ่าย และการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ
การรักษาผู้ป่วยที่บาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal Cord Injury Management)
1 การตรึงและเคลื่อนย้ายผู้ป่วย (Immobilization & Transfer)
การตรึงกระดูกสันหลังเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายที่ไม่ถูกต้องซึ่งอาจทำให้การบาดเจ็บรุนแรงขึ้น
2 การให้สารน้ำทางหลอดเลือด (Intravenous Fluid Administration)
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการ shock ควรให้สารน้ำทันที และหากพบภาวะ neurogenic shock อาจต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจและความดันเลือด
3 การรักษาด้วยการผ่าตัด (Surgical Treatment)
การผ่าตัดเพื่อจัดเรียงกระดูกสันหลังให้เข้าที่และลดการกดทับไขสันหลัง อาจทำการผ่าตัดในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บแบบรุนแรง
4 การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation)
การฟื้นฟูเน้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและการทำงานของประสาท เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่