Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
มหาเวสสันดรชาดก - Coggle Diagram
มหาเวสสันดรชาดก
เรื่องย่อ
ชูชก (79 พระคาถา)
ชูชก พราหมณ์ผู้มีอาชีพขอทาน ได้นางอมิตตาบุตรสาวของเพื่อนเป็นภรรยา นางใช้ให้ชูชกไปขอสองกุมาร ชูชกเดินทางไปสืบข่าวในแคว้นสีวีราษฎร์ สามารถหลบหลีกการทำร้ายของชาวเมือง เดินทางไปเขาวงกตจนพบสุนัขของพรานเจตบุตรผู้คอยเฝ้าอารักขาอยู่ปากทางเข้าป่าหิมะพานต์ ฝูงสุนัขไล่กัดชูชก จนชูชกหนีขึ้นไปหลบบนต้นไม้
จุลพน (35 พระคาถา)
พรานเจตบุตร เห็นท่าไม่ดี เกรงพราหมณ์เฒ่าจะเข้าไปรบกวนพระเวสสันดร จึงยกหน้าไม้จะยิงชูชกให้ตาย แต่ชูชกหลอกลวงพรานเจตบุตรให้บอกทางไปเขาวงกต ว่าตนเป็นราชทูตของพระเจ้ากรุงสญชัย กำลังจะเข้าไปเชิญพระเวสสันดรกลับเมือง เพราะพระเจ้ากรุงสญชัยทรงอภัยโทษแล้ว พรานเจตบุตรหลงเชื่อ จึงบอกทางและมอบเสบียงทางให้อีกด้วย
นปเวสน์ (57 พระคาถา)
พระเวสสันดรทรงพระนางมัทรีและพระชาลี ( โอรส ) พระกัณหา (ธิดา ) เสด็จจากเมืองผ่านแคว้นเจตราษฎร์ จนเสด็จถึงเขาวงกตในป่าหิมพานต์ และพักอาศัยอยู่ที่นั่น ในอาศรมซึ่งพระอินทร์มาเนรมิตไว้ให้
มหาพน (80 พระคาถา)
เฒ่าชูชกเดินทางไปตามคำบอกของพรานเจตบุตร พบฤาษีอัตจุตก็เล่าความเท็จอีก ฤาษีจึงชี้ทางไปอาศรมของพระเวสสันดร เมื่อไปถึงเป็นเวลาพลบค่ำ เฒ่าชูชกก็ซ่อนตัวบนชะง่อนเขาด้วยคิดว่า ต้องรอรุ่งเช้าให้พระนางมัทรีออกไปหาผลไม้ เพราะนางคงไม่ยอมยกลูกให้ใครแน่
ทาน (209 พระคาถา)
ก่อนเสด็จไปอยู่ป่า พระเวสสันดรได้พระราชทานสัตตสตกมหาทาน คือช้าง ม้า รถม้า ทาสชาย ทาสหญิง โคนม นางสนม และอาภรณ์ อย่างละ 700 ขณะนั่งรถเดินทางเข้าป่า ก็ได้พระราชทานรถ ม้า แก่ผู้มาขอจนหมดสิ้น สุดท้ายพระเวสสันดร พระนางมัทรี ชาลี กัณหา ต้องเดินเท้าเข้าป่า
มัทรี (90 พระคาถา)
พระนางมัทรีเสด็จกลับจากหาผลไม้ในป่า ไม่เห็นสองกุมาร ได้ร้องเรียกติดตามหาก็ไม่พบ พระนางถึงกับสลบ ต่อพระพักตร์พระเวสสันดร เมื่อทรงฟื้นแล้วพระเวสสันดรตรัสเล่าความจริงเกี่ยวกับสองพระกุมาร พระนางทรงอนุโมททนาปุตตทานด้วย
หิมพานต์ (134 พระคาถา.วสสันดรทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสัญชัยกับพระนางผุสดี แห่งแคว้นสีวีราษฎร์ ประสูติที่ตรอกพ่อค้า ยินดีในการบริจาคทาน เมื่อพระเวสสันดรได้รับราชสมบัติจากพระบิดา ได้พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์แก่กษัตริย์แคว้นกลิงคราชฎร์ ประชาชนไม่พอใจ พระเวสสันดรจึงถูกพระราชบิดาเนรเทศไปอยู่ป่าหิมพานต์
กุมาร (101 พระคาถา)
ชูชกทูลขอสองกุมาร พระเวสสันดรก็ได้มอบให้ แต่ขอให้ชูชกรอมัทรีให้แม่ลูกได้ร่ำลากันก่อน ชูชกไม่ยอม ด้วยเกรงว่านางมัทรีจะไม่ยกสองกุมารให้ตน ก่อนชูชกจะพาสองกุมารจากไป พระเวสสันดรได้ตั้งราคาค่าตัวสองกุมารว่า ถ้าใครจะไถ่ตัวกัณหาชาลีไป ต้องให้ ทาส ทาสี ช้าง ม้า โคนม ทองคำ สิ่งละ 100 จากนั้น ชูชกได้ใช้เถาวัลย์มัดข้อมือสองกุมาร ลากจูงพาออกไป สองกุมารขัดขืน ก็ใช้ไม้โบยตี สองกุมารได้รับความลำบากเป็นอันมาก
ทศพร (19 พระคาถา) เริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แล้วเสด็จไปเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ต่อจากนั้นเสด็จไปโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์ เกิดฝนโบกขรพรรษ พระสงฆ์สาวกกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงเรื่องมหาเวสสันดรชาดก เริ่มตั้งแต่เมื่อกัปที่ 98 นับแต่ปัจจุบัน พระนางผุสดีซึ่งจะทรงเป็นพระมารดาของพระเวสสันดร ทรงอธิษฐานขอเป็นมารดาของผู้มีใจบุญ จบลงตอนพระนางได้รับพร 10 ประการจากพระอินทร์
สักกบรรพ์ (43 พระคาถา)
พระอินทร์เกรงว่าหากมีผู้มาขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็จะบริจาคเป็นทาน พระอินทร์ไม่อยากให้พระนางมัทรีตกไปเป็นภรรยาของผู้อื่น จึงแปลงเป็นพราหมณ์ชรามาทูลขอพระนางมัทรี เมื่อพระเวสสันดรมอบให้ตนแล้ว ก็ไม่เอาไป ได้ถวายคืนแก่พระเวสสันดร โดยห้ามพระองค์ประทานนางแก่ผู้ใดอีก ก่อนจากไปพระอินทร์ได้ประทานพรให้พระเวสสันดร 8 ประการ
มหาราช (69 พระคาถา)
ชูชกโบยตี ลากจูงชาลี กัณหาเดินทางออกจากป่าหิมพานต์ จนไปถึงทางสองแพร่ง ซึ่งเป็นทางไปเมืองกลิงคราฐและเมืองสีพี ชูชกหลงเลือกทางไปเมืองสีพี เดินทางไปถึงในตัวเมือง พวกข้าหลวงจำชาลี กัณหาได้ จึงจับชูชกพาไปเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสญชัย พระเจ้ากรุงสญชัยได้ไถ่สองกุมาร และพระราชทานอาหารเลี้ยงชูชกมากมาย ชูชกกินมากเกินไป อาหารไม่ย่อยและถึงแก่กรรม
ฉกษัตริย์ (36 พระคาถา)
พระเจ้ากรุงสญชัย พระนางผุสดี พระชาลี พระกัณหา เสด็จไปทูลเชิญพระเวสสันดร พระนางมัทรีกลับพระนคร เมื่อกษัตริย์ทั้งหกพระองค์ทรงพบกัน ต่างก็ทรงสะอื้นไห้คร่ำครวญ เสนาอำมาตย์ สนมกำนัล ก็สะอื้นไห้คร่ำครวญ ต่างตกอยู่ในวิสัญญีภาพ ต่อมาพระอินทร์บันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ทุกคนจึงฟื้นคืนสติ และขอให้พระเวสสันดรลาผนวช กลับไปครองราชสมบัติสืบไป
นคร (48 พระคาถา)
พระเวสสันดรทรงลาผนวช ทรงสั่งลาพระอาศรม รับเครื่องทรงกษัตริย์ แล้วเสด็จกลับไปครองเมืองสีพี พระเวสสันดรเสด็จขึ้นครองราชย์ครองแผ่นดิน ทำให้ไพร่ฟ้าเสนาอำมาตย์มีสุขสงบกันทั่วทั้งแคว้น ชาวเมืองยึดมั่นในศีล บำเพ็ญกุศลตามสัตย์อธิษฐานของพระเวสสันดร กษัตริย์เมืองกลิงคราฐ ก็นำช้างปัจจัยนาเคนทร์มาถวายคืน เพราะบ้านเมืองมีฝนตกต้องตามฤดูกาลแล้ว พระเวสสันดรทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม และยังคงทรงบริจาคทาน จนพระชนมายุได้ ๑๒๐ พรรษาจึงสวรรคต แล้วจุติอุบัติเป็นท้าวสันดุสิตเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นดุสิต รวมระยะเวลาที่พระเวสสันดร มัทรี ชาลี กัณหา ต้องนิราศจากพระนครไปอยู่ป่า เป็นเวลา ๑ ปี ๑๕ วัน
-
-
-
-
คุณค่าที่ได้จากเรื่อง
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
๑.๑ ใช้ถ้อยคำไพเราะ มีการเล่นคำ เล่นสัมผัสอักษร มีการใช้โวหารภาพพจน์ และการพรรณนาให้ เกิดความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน รวมทั้งเกิดจินตนาภาพชัดเจน
๒. คุณค่าด้านสังคม
-
๒.๒ เรื่องพระมหาเวสสันดรชาดก เป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จึงเป็น ภาพสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และค่านิยมของคนในยุคนั้น ๆได้ดีว่า มีการซื้อขาย บุคคลเป็นทาส นิยมการบริจาคทานเพื่อหวังบรรลุนิพพาน มีความเชื่อเรื่องลางบอกเหตุ เชื่อเรื่อง อำนาจของเทวดาฟ้าดินต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังแสดงภาพชีวิตในชนบทเกี่ยวกับการละเล่นและการ เล่นซ่อนหาของเด็ก ๆ
๒.๓ ให้แง่คิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของผู้หญิงในฐานะที่เป็นแม่และเป็นภรรยาที่ดี ซึ่งเป็นสิ่ง สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
๒.๔ ข้อคิด คติธรรม ที่สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจำวันของทุกคนได้ เกี่ยวกับการเป็นคู่สามี ภรรยาที่ดี การเสียสละ เป็นคุณธรรมที่น่ายกย่อง และการบริจาคทาน เป็นการกระทำที่สมควรได้ รับการอนุโมทนา
-