ศาสนพิธี
การแต่งงาน
การแต่งงานตามศาสนบัญญัติ ภาษาอาหรับเรียกว่า “นิกาฮ์” มิได้หมายถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย และได้เสียกันเท่านั้น แต่จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบ ๕ ประการอย่างครบถ้วน จะขาดอย่างใด อย่างหนึ่งมิได้โดยเด็ดขาด คือ
๓. ชายผู้จะเป็นสามี
๔. หญิงผู้จะเป็นภรรยา
๒. พยานไม่น้อยกว่า ๒ คน
๕. คำตกลงนิกาฮ์จากฝ่ายผู้ปกครองกับฝ่ายผู้จะเป็นสามี
๑. ผู้ปกครองของหญิงที่แต่งงาน
การเกิด
click to edit
เมื่อมารดาเริ่มตั้งครรภ์ มารดาจะต้องดูแลตัวเองให้ดีทั้งร่างกาย และจิตใจ เพราะพฤติกรรมและอารมณ์ของมารดามีผลกระทบต่อทารก ในครรภ์ มารดาจึงควรหมั่นประกอบศาสนกิจอ่านคัมภีร์อัลกุรอานเสมอๆ เพื่อทำให้จิตใจสะอาดบริสุทธิ์และสงบอย่างแท้จริง
เมื่อครบกำหนดคลอดทันทีที่ทารกหลุดพ้นจากครรภ์ของมารดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ควรต้อนรับการออกมาสู่โลกของทารก ด้วยการกล่าว ประโยคปฏิญาณ ต่อมาให้กล่าวอะซานใส่หูขวาและอิกอมะฮ์ใส่หูซ้าย และ ทำตะฮฺนีกให้ในวันที่ ๗ นับแต่วันคลอด และให้ผู้ปกครองปฏิบัติดังต่อไปนี้
๑. ตั้งชื่อที่ดีเช่น อับดุรเราะห์มาน มุฮัมมัด อะลีอีซา เป็นต้น
๒. ทำ “อะกีเกาะฮฺ”คือ เชือดสัตว์พลีทาน นำมาทำอาหาร บริจาคเป็นทองคำ หรือเทียบเท่า
การตาย
เมื่อมีใครเจ็บป่วย ให้ไปเยี่ยมอาการ ขอพรให้และให้กำลังใจ หากเป็นคนฐานะยากจน ก็ช่วยเหลือเขาตามความสามารถ เมื่อล้มตายลง ผู้มีชีวิตอยู่จะต้องปฏิบัติต่อผู้ตายดังต่อไปนี้
๓. ละหมาดขอพรให้ศพ
๔. ฝังศพในหลุมลึกพอมั่นใจว่า สัตว์ร้ายไม่สามารถคุ้ย และกลิ่น ไม่สามารถส่งออกมาได้
๒. ห่อศพด้วยผ้าสีขาวให้มิดชิด
๑. อาบน้ำศพ ให้สะอาดทั้งร่างกายอย่างทั่วถึง
การแต่งกาย
อิสลามต้องการให้ผู้ชายแสดงความแข็งแรงเอาจริงเอาจังกล้าหาญบึกบึน และองอาจ
อิสลามห้ามผู้ชายแต่งตัวและทำตัวเป็นผู้หญิง และในทำนอง เดียวกัน ห้ามผู้หญิงแต่งตัวและทำตัวเหมือนผู้ชาย
การแต่งกายของมุสลิมทั้งชายและหญิงอิสลามกำหนดหลักการไว้อย่างรัดกุม โดยมีเป้าหมายมิให้เปิดเผย ประเจิดประเจ้อ หรือเน้นสัดส่วน เพราะการแต่งกายอย่างเปิดเผย ประเจิดประเจ้อ เน้นสัดส่วน หรือโชว์ ร่างกายดังที่กล่าวมานี้ย่อมเป็นสื่อนำอันตรายมาสู่ผู้กระทำเองหากเป็นหญิง หรือหากเป็นชายก็จะทำให้บุคลิกของตนเองเสียไป :