Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เราควรให้อาหารเเมวในปริมาณเท่าไหร่ - Coggle Diagram
เราควรให้อาหารเเมวในปริมาณเท่าไหร่
ข้อมูลการให้อารหารเเมว
วิธีการให้อาหารแมว
แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกเค้าไม่ต้องการอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ในทางกลับกัน แมวต้องการสารอาหารที่อยู่เนื้อสัตว์อย่างน้อย 70% เพื่อความอยู่รอดและมีสุขภาพที่ดี ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกอาหารแมวที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลักเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้าจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างเพียงพอ
สารอาหารหลักที่เเมวต้องการ
สารอาหารหลักที่แมวต้องการ
โปรตีน
มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อปลาและถั่วต่าง ๆ แมวนำประโยชน์ของโปรตีนแต่ละชนิดไปใช้ได้มากน้อยต่างกัน โปรตีนมีความสำคัญต่อแมวเกี่ยวกับการเจริญเติบโต การสร้างแอนติบอดีสำหรับป้องกันเชื้อโรค ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำให้ขนงอก ตลอดจนสร้างเอนไซน์ต่าง ๆ เป็นต้น ลูกแมวที่กำลังเติบโตต้องการโปรตีนไม่น้อยกว่า 30 % ถ้าแมวได้รับอาหารที่มีโปรตีนต่ำกว่า 18 % จะเบี่ออาหาร
คาร์โบไฮเดรต
แมวต้องการคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีอยู่ในน้ำตาล แป้งและข้าวต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเจริญเติบโต การผลิตน้ำนมและการทำงาน ความต้องการพลังงานของแมวขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแมว เช่น แมวที่เคลื่อนไหว ทำงานวิ่งเล่น ย่อมต้องการพลังงานมากกว่าแมวที่นอนอยู่เฉยๆ
ไขมัน
แมวต้องการไขมันสำหรับพลังงานหรือแคลอรีประมาณ 8 % ไขมันให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต 2 เท่าและไขมันยังมีกรดไขมันซึ่งมีความสำคัญต่อโภชนาการและการเจริญตามปกติของแมว แมวขาดกรดไขมันจะทำให้ผิวหนังแห้งและเจริญเติบโตช้า ถ้ามีไม่เพียงพอก่อให้เกิดอาการของโรคขึ้น นอกจากนี้ไขมันยังให้พลังงานเพื่อการเจริญเติบโตตลอดจนการต่อสู้ต่อความเครียด ความหนาว และถ้าขาดมากเกินไปอาจจะทำให้ตายได้
วิตามิน
วิตามิน หมายถึง สารจำนวนน้อยที่สำคัญต่อชีวิต ดังนั้นการให้วิตามินมากเกินไปจึงไม่จำเป็นและมีโทษด้วยวิตามินมีอยู่หลายชนิด ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อาหารแต่ละอย่างจะให้วิตามินแต่ละชนิดมากน้อยต่างกัน เช่น
วิตามินเอ ช่วยในการต้านทานโรค มีในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา
วิตามินบี ควบคุมความสมบูรณ์ ให้กับผิวหนัง ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ป้องกันโรคทางประสาท มีในไข่แดง นม ตับ
วิตามินซี ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังและขน แก้โรคลักปิดลักเปิด มีในพืชผักผลไม้
วิตามินดี ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและกระดูก มีในน้ำมันตับปลา วิตามินดีที่มีมากและเพียงพอจะช่วยทำให้ธาตุแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสที่ไม่ได้อัตราส่วนนั้นได้รับการใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น
วิตามินอี มีความจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์และการผลิตน้ำนม ดังนั้นจึงควรให้วิตามินเหล่านี้แก่แมว โดยเฉพาะลูกแมว
แร่ธาตุ
มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ช่วยในการสร้างกระดูก ฟัน และเลือด ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อาหารแต่ละอย่างก็ให้แร่ธาตุแต่ละชนิดมากน้อยต่างกัน แร่ธาตุที่สำคัญ คือ แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรง ถ้าขาดไปจะทำให้แมวเป็นโรคกระดูกอ่อนโค้ง
ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับแมว
แน่นอนว่าอาหารแมวทุกประเภทมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก แต่ผู้เลี้ยงก็ยังคงต้องตรวจสอบปริมาณโปรตีนของอาหารแต่ละชนิด เพื่อให้แน่ใจว่ามีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของแมวในแต่ละช่วงวัย
แมวส่วนใหญ่ต้องการโปรตีนประมาณ 35% – 45% เพื่อเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี โดยคุณสามารถเช็กปริมาณโปรตีนที่แมวต้องการได้จากตารางด้านล่างนี้
ช่วงวัย ปริมาณโปรตีนโดยเฉลี่ย (%)
ลูกแมว
40 – 50%
แมวโตเต็มวัย
35 – 40%
แม่แมวตั้งท้องหรือให้นมลูก
45 – 50%
แมวสูงวัย
35 – 38%
วิเคราะห์ข้อมูลเรื่องอาหารเเมว
อาหารสัตว์ส าหรับสุนัขและแมวเป็นอาหารสัตว์ควบคุมตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์
พ.ศ.2525 และฉบับปรับปรุง พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 ตามประกาศกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ เรื่อง ก าหนดอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2558 ท าให้ผู้ผลิต ผู้น าเข้าและผู้ขายอาหาร
สัตว์ต้องมีใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์เพื่อขาย ใบอนุญาตน าเข้าซึ่งอาหารสัตว์เพื่อขาย พร้อมทั้งต้องขึ้นทะเบียน
อาหารสัตว์ และผู้ขายต้องมีใบอนุญาตขายอาหารสัตว์และขายอาหารสัตว์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว (กองควบคุม
อาหารและยาสัตว์, 2561) ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ถึง 2562 มีผู้ผลิต น าเข้า และส่งออกอาหารสัตว์ส าหรับสุนัขและ
แมวมากขึ้น (กองควบคุมอาหารและยาสัตว์, 2562)
ผลลัพธ์
โภชนาการอาหารแมวที่ครบถ้วนและสมดุลมีส่วนช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกแมวและน้องแมวตัวน้อย ช่วยให้พวกเค้าเติบโตอย่างสมวัย มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันเชื้อโรคซึ่งเป็นที่มาของปัญหาสุขภาพมากมาย