Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 13 ขั้นตอน, ด.ช.จักรพล เมืองมาก เลขที่ 2 ม.2/5…
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 13 ขั้นตอน
1.ระบุความต้องการ (Recognition of need and definition of problem)
เมื่อทราบความต้องการแล้ว จะสามารถระพบุความต้องการและระบุปัญหาได้ เช่นต้องการจะกวาดขยะทุกซอกทุกมุมแต่ไม้กวาดที่ใช้ไม่สามารถกวาดขยะได้ทุกซอกทุกมุม
2.ระบุคุณลักษณะที่ต้องการ (specification)
เป็นความต้องการแก้ปัญหาเบื้องต้นว่า ลักษณะที่ต้องการนำไปใช้นั้น เป็ฯลักษณะแบบใด ซึ้งขั้นตอนนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกหลายครั้งหลังจากขั้นตอนออกแบบสร้างขั้นตอน เช่น เมื่อต้องการกวาดขยะทุกซอกทุกมุมทำความสะอาดพื้นได้ทุกซอกทุกมุม บนพื้นผิวทุกชนิดแม้กระทั้งพื้นเปียกนํ้า
3.รบมรวมข้อมูล (Gathering of imformation)
เป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน รูปแบบ รายละเอียดที่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาเพื่อหาวิธีทำความสะอาดตามซอกมุมว่าจะทำอะไร เช่น การใช้แรงเพื่อส่งผลให้ขยะที่อยู่ในซอกมุมต่างเคลื่อนที่แแกจากมุมนั้นๆ จากกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน ได้แก่ เขี่ย เป่า ดูด การหาคำตอบนี้ วิศวกรจะหาจากคนอื่นที่ได้จดสิทธิบัตรไว้หรือเอาของที่คล้ายกันมาแกะออก เพื่อิศึกษาหลักการทำงานของเทคโนโลยี โดยเรียกวิธ๊นี้ว่า Reverse Engineering
ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study
เป็ฯการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหา เพื่อตอบโจทยฺ์การแก้ปัญหาได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด เช่น กรณีการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม จะตัดการเขี่ยออกไปเพราะทำแล้วพื้นไม่สะอาดตัดเรื่องการเป่าเพราะหากเป่าจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกมา จึงสรุปได้ว่า การทำความสะอาดโดยดูดมีความเป็นไปได้มากกว่าวิธีอื่น (Technical Feasibility)
สังเคราะห์หาหลักการสร้างสรรค์ (Creative Design Synthesis
เป็นการหาหลักการ (Concept) หรือแนวทางแก้ปัะญหา กรณีเป็นเครื่องดูดฝุ่น เราจะสร้างแรงดูดลมได้อย่างไรตัวกรองฝุ่นจะต้องมีความระเอียดเท่าไร สามารถที่จะทำให้มีนํ็าหนักเบาได้อย่างไร ในระหว่างการทำงานจะต้องมีเสียบงที่เบาโดยการทำงานอย่างไร อุปกรณ์จะสามารถนำไปใช้ในซอกเล็กๆ ได้อย่างไร รูปแบบภายนอกจะต้องเป็นอย่างไร จึงจะสามารถดึงดูดผู็ซื้อได้
ออกแบบสร้างขั้นตอน (Preliminary Design)
วิศวกรนำเอาหลักการมาออกแบบรูปร่างโดยมีเงื่อนไขจากการสังเคราะห์เสร็จแล้วและทำการสร้างชิ้นส่วนต้นแบบขึ้นมาเพื่อนำไปทดลองใช้ ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ทำได้หลายรอบแม้จะสร้างจนเสร็จแล้ว แต่ก็ยังเป็นกระบวนการสำคํญในการพัฒนาต่อไปได้อีก เช่น ชิ้นส่วนต่างๆ อาจจะยังเป็ฯชิ้นส่วนที่แยกชิ้นกันอยู๋ แต่จะต้องมีส่วนที่ใช้ในการดูโฝุ่นที่เป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรม
จำลองสภาพสถานการณ์ (Simulation)
เป็นการนำต้นแบบมาจำลองการใช้จริง เช่น แรงดูดขิงเครื่องเพียงพอต่อการดูดขยะได้หรือไม่ ถุงเก็บขยะเมื่อดูดขยะเข้ามาในเครื่องจะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น แล้วเมื่อฝุ่นผงสะสมนั้น จะมีผลต่อแรงดูดของเครื่องอย่างไร
ออกแบบละเอียด (Detailed Design)
วิศวกรจะทำการออกแบบอย่างระเอียดทุกระบบเพื่อให้เกิดกระบวนการทำงานของนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทะฺภาพโดยทุกส่วนจะต้องมีการทำงานที่สัมพันะ์กัน ตั้งแต่หัวดูด ท่อดูโ พัดลมดูด ถุงกรองฝุ่น ซึ้งทุกส่วนจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่จะสร้างออกมาแล้วสมารถเิามาจต่ิถึงกันได้
สร้างและทดสอบเครื่องต้นแบบ (Prototype build and test
เป็นขั้นตอนที่รวมข้อมูลทั้งหมดแลบะทำการสร้างจริงให้ครบถ้วนแล้วนำมาใช้จริง เช่น การสร้างเป็นรูปร่างเครื่องดูดฝุ่นที่สมบูรณ์ แล้วทำการทดสอบการทำงานจริง และการเก็บข้อมูลระหว่างการใช้งานให้ครบถ้วนเพื่อนำไปประเมินผลในขั้นตอนต่อไป
ประเมินผล (Evaluation)
หลังจากได้ทดสอบทุกอย่างและจดบันทึกแล้ว จึงนำผลที่ได้จากการทดสอบเครื่องต้นแบบมาทำการประเมินเทียบกับสมรรถและคุณลักษณะที่ต้องการนำไปใช้แก้ปัญหา
ประชุมสรุปผล (Design Conclusion)
เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเพราะเป็นการตัดสินใจว่าเป็นนวัตกรรมที่นำไปใช้ได้หรือไม่ เพราะถ้าไม่ผ่านจะต้องกลับไปทำการแก้ไขใหม่ตั้งแต่ขั้นออกแบบสร้างขั้นต้น
ออกแบบการผลิต (Design for production)
ขั้นตอนวิศวกรผู้ออกแบบจะต้องสื่อสารกับฝ่ายผลิต เพื่อให้ฝ่ายผลิตสามารถผลิตได้ตรงตามที่ออกแบบได้อย่างถูกต้อง
13.จำหน่ายผลิตภันฑ์ (Product Release)
เป็นหน้าที่ของฝ่ายขายที่จะต้องนำสินค้าไปให้ถึงผู้ซื้อ และจะต้องมีข้อมูลของนวัตกรรมครบถ้วนเพื่อตอบลูกค้าหรืิอจุดประสงค์ของนวัตกรรมชิเนนั้นๆ
ด.ช.จักรพล เมืองมาก เลขที่ 2 ม.2/5