Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ประเภทของวัสดุวัสดุแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง - Coggle Diagram
ประเภทของวัสดุวัสดุแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง
โลหะ
วัสดุผสม
สารกึ่งตัวนำ
เซรามิก
พอลิเมอร์
วัสดุชีวภาพ
วัสดุเชิงก้าวหน้า
วัสดุฉลาด
โลหะเป็นวัสดุที่นํามาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีสมบัติที่ดีมากมาย เช่น เป็นตัวนํา ความร้อนและนําไฟฟ้าได้ดี มีความแข็งแรงสูง มีความคงทนถาวร ไม่เสื่อมสลายหรือเปลี่ยนแปลงสภาพง่าย เป็นวัสดุทึบแสง สามารถป้องกันไม่ให้แสงผ่าน ทนทานต่อการกัดกร่อน มีความสวยงาม ผิวของโลหะ สามารถขัดให้เป็นเงาวาว สามารถตีเป็นแผ่นบางหรือ ...
วัสดุแบ่งออกมาเป็นสองประเภทคือโลหะ อโลหะ
อโลหะ (non-metal) เป็นกลุ่มธาตุที่มีสมบัติไม่นำไฟฟ้า มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำ เปราะบาง และมีการแปรผันทางด้านคุณสมบัติทางกายภาพมากกว่าโลหะ เช่น ออกซิเจน กำมะถัน ฟอสฟอรัส เป็นต้น สมบัติของอโลหะ มีดังนี้ - มีทั้งสถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ณ อุณหภูมิปกติ - ขัดไม่เป็นมันวาว
ชนิดต่างๆ ของอโลหะ
อโลหะ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด และมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น ดังนี้
สี (Paint)
สีเป็นวัสดุที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงาน และนิยมใช้ในงานช่างเป็นส่วนใหญ่ เช่น ทาสีบ้าน ทาเครื่องจักรกล ทาเฟอร์นิเจอร์หรือใช้ทาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น โดยคุณสมบัติของสี นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงานแล้ว ก็สามารถป้องกันการผุกร่อนของชิ้นงานได้อย่างดีเยี่ยม และนอกจากนี้ สีก็ยังสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ไปตามลักษณะของการใช้งานได้ดังนี้
ยางธรรมชาติ (Natural Rubber)
ยางธรรมชาติ เป็นยางที่ได้จากต้นยางพารา ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยของเรา สามารถผลิตยางธรรมชาติได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยยางที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในรูปของยางแผ่น และนอกจากยางพาราจะสามารถผลิตยางธรรมชาติออกมาได้แล้ว เมื่อหมดอายุขัย ต้นยางก็สามารถโค่นเอาไม้ไปทำเป็นถ่านหรือทำเฟอร์นิเจอร์และเยื่อกระดาษได้เช่นกัน
เซรามิค (Ceramics)
เซรามิค มักจะถูกนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมมากที่สุด โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการไฟฟ้า ซึ่งผลิตภัณฑ์จากเซรามิคที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยๆ ก็คือ ถ้วยชามจากเซรามิค อิฐสำหรับบุเตาหลอม กระเบื้องมุงหลังคา เป็นต้น ซึ่งสำหรับต้นกำเนิดของเซรามิคนั้น ก็มาจากการนำดินเหนียวและวัสดุอื่นๆ ที่เป็นโลหะมาอบรวมกันที่อุณหภูมิสูงจนได้มาเป็นเซรามิค
อโลหะ เป็นธาตุที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับโลหะอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายเช่นกัน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิต โดยอโลหะที่พบว่ามีการนำมาใช้งานมากที่สุด ก็คือ ยางธรรมชาติ หนัง เซรามิคและแก้ว เป็นต้น ตัวอย่างชิ้นงานก็คือ โซฟาหนัง กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องหลังคาหรือกระจกต่างๆ ซึ่งก็ล้วนเป็นสิ่งของที่พบในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น
ชนิดต่างๆของโลหะสามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิดและมีคุณสมบัติการใช้งานแตกต่างกันกันไปโดยออกเป็นดังนี้
เหล็กกล้า (Steel)
คือ โลหะชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดในโลก เนื่องจากเหล็กกล้าเป็นโลหะที่ประกอบด้วยเหล็กและคาร์บอน มีอัตราส่วนของเหล็ก (Iron) ประมาณ 99% และคาร์บอนประมาณ 1% เหล็กกล้ามีคุณสมบัติที่สำคัญ ได้แก่ ความทนต่อแรงดึง (Tensile Strength) และความเหนียว (Toughness) ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวส่งผลให้เหล็กกล้ามีความคงทนถาวรไม่เปลี่ยนรูปทรงได้ง่าย นอกจากนี้ เหล็กกล้ายังมีคุณสมบัติของความแข็งแรงต่อน้ำหนักในระดับสูง (High Strength to Weight Ratio) เหล็กกล้ามีราคาไม่สูงมากนัก เนื่องจากสามารถผลิตได้ในปริมาณมาก และยังมีความแข็งแรง อย่างไรก็ดี หากปล่อยให้เหล็กกล้าโดนน้ำ หรือดูแลรักษาไม่ดี อาจทำให้เป็นสนิมได้
เหล็กกล้าผสม (Alloy Steel)
เป็นเหล็กกล้าที่มีส่วนผสมของคาร์บอนไม่เกิน 1.7% สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เหล็กกล้าผสมสูง (High Alloy Steel) และเหล็กกล้าผสมต่ำ (Low Alloy Steel) เหล็กกล้าผสมมีคุณลักษณะพิเศษ ได้แก่ ความแข็งแรงเชิงกล (Mechanical Strength) ความแข็ง (Hardness) ความทนทานหรือต้านทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี (Corrosion Resistance) และทนความร้อน (Heat Resistance)
เหล็ก (Iron)
เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย และเป็นส่วนผสมหลักของโลหะหลายชนิด หากโลกนี้ไม่มีเหล็ก (Iron) โลหะเหล็กกล้าไม่มีเช่นกัน (Steel)