Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยชายไทย 44 ปี - Coggle Diagram
ผู้ป่วยชายไทย 44 ปี
การตรวจสุขภาพทางจิต
ลักษณะทั่วไป(General appearance)
ลักษณะทั่วไปจากการสังเกตลักษณะภายนอก เป็นคนตัวใหญ่ หุ่นสมส่วน หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่งกายสุภาพด้วยชุดของโรงพยาบาล ไม่มีรอยสัก ท่าทีให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ เป็นมิตร ไม่มีอาการทางจิต
-
-
-
-
-
-
ระดับเชาว์ปัญญา ลักษณะความคิด และความรอบรู้(General knowledge and abstract thinking)
✅ Abstract thinking (นามธรรม)
การตัดสินใจ (Judgment) ✅ Good judgment
❌ Bad judgement ถ้าลืมกุญแจไว้ในบ้านจะทำอย่างไร
: พังประตู งัดประตู
-
-
-
ข้อมูลส่วนตัว
👥 ประวัติครอบครัว
ผู้ป่วยเป็นบุตรบุญธรรมตามกฏหมายของหญิงวัย 90 ปีโดยมีโรคประจำตัวคือเบาหวานบิดาเลี้ยงเสียชีวิตเมื่อ 15 ปีก่อนด้วยเหตุจมน้ำเสียชีวิตมีน้องสาวที่เป็นบุตรบุญธรรมของมารดาเลี้ยงเช่นกันแต่เสียชีวิตเมื่อเลี้ยงดูได้ประมาณห้าเดือนด้วยไข้มาลาเรียไม่มีประวัติการเจ็บป่วยทางจิตปัจจุบันผู้ป่วยอาศัยอยู่กับมารดาเลี้ยงแต่อยู่บ้านคนละหลัง
ไม่มีประวัติการเจ็บป่วยทางจิต
🚬 ประวัติการใช้ยาและสารเสพติด
ผู้ป่วยใช้สารเสพติดตั้งแต่อายุ 18 ปีเริ่มจากการใช้กัญชาใช้ประมาณสองเดือนแต่เลิกใช้ก่อนที่จะใช้ตัวอื่นโดยใช้ Metamphetamine 4 เม็ด/วัน Ketamine 3 เม็ด/วัน
Amphetamine 3 เม็ด/วัน และใช้ยาเส้น
วันละ 10 มวน/วัน ใช้จนถึงปัจจุบันก่อนจะเข้ารับการรักษา
-
👩❤️👨 ประวัติการสมรส : มีภรรยา 1 คน มีบุตรด้วยกัน
1 คน(เลิกลากันแล้ว) ภรรยาเป็นคนเลี้ยงดูบุตรที่พัทยา
-
👨🏻 ประวัติส่วนตัว
ผู้ป่วยเป็นบุตรบุญธรรมตามกฏหมายของหญิง 90 ปีและอยู่กับมารดาเลี้ยงตั้งแต่เกิด
- จากการซักประวัติ
ผู้ป่วยจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นคนชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาก ช่วงม.ต้นเรียนเก่งได้ที่ 1 ของห้อง
ความสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัวดีมาตลอด
ความสัมพันธ์กับเพื่อนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท
ในโรงเรียน หลังจากที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ไม่ได้เรียนต่อ ออกมาทำงาน ผู้ป่วยจะรับงานทั่วไป เช่น รับจ้างทั่วไป รับจ้างขับรถ รับจ้างทิ้งขยะ สามารถเลี้ยงตนเองได้แต่รายได้ไม่แน่นอน ช่วงอายุประมาณ 18 ปี
ติดเพื่อนไม่ค่อยออกไปทำงาน นิสัยเริ่มเปลี่ยน แยกตัว อยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ มีเพื่อนเข้า-ออกบ้านทุกวัน เนื่องจากผู้ป่วยเริ่มเสพสารเสพติดแต่อายุตั้งแต่ 18 ปี
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
- พร่องความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดและบุหรี่
วิเคราะห์ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การเสพสารเสพติดส่งผลเสียต่อสุขภาพและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดโรคต่างๆการสูบบุหรี่และสารเสพติดยังส่งผลกระทบต่อการใช้ยาบางชนิดของโรคจิตในสารเสพติดมีสารนิโคตินส่งผลกระทบต่อยารักษาในโรคจิต
กิจกรรมการพยาบาล
(10/7/67)
- สร้างสัมพันธภาพเพื่อความไว้วางใจ
- สอบถามความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดว่าผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับสาร
เสพติดผลดีหรือผลเสียของสารเสพติดมากน้อยเพียงใด
- ประเมินแล้วผู้ป่วยไม่มีความรู้เรื่องสารเสพติดจะให้ความรู้เรื่องสารเสพติด
- ให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติด
- ประเมินความรู้หลังให้ความรู้ว่าผู้ป่วยมีความรู้เพิ่มขึ้นหรือไม่
-
ข้อมูลสนับสนุน
S : ผู้ป่วยบอกว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสารเสพติดเลย รู้แค่ว่าทำแล้วมันหายเครียด เพลินดี แต่เลิกเสพตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แล้ว
O : จากการสอบถาม ผู้ป่วยไม่รู้ว่าสารเสพติดมีผลเสียอย่างไรในทางจิต
-
ความอยากรู้อยากลอง เป็นพฤติกรรมโดยธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน ความสงสัยที่เกิดขึ้น คือ การสงสัยว่า หากลองใช้แล้วจะเป็นอย่างไร เห็นคนใกล้ตัวใช้ เลยอยากลองบ้าง เมื่อได้ลองแล้วรู้สึกดีจึงอยากลองใช้อีก จนทําให้เกิดอาการเสพติดในที่สุด เมื่อต้องการเลิก ก็มีอาการขาดยา หรือมีอาการลงแดง ทําให้เลิกไม่ได้
(ศูนย์บำบัดยาเสพติดเอกชน ภูฟ้าเรสท์โฮม, 2565)
- ขาดความตระหนักในการเลิกบุหรี่และสารเสพติด
ข้อมูลสนับสนุน
S: ผู้ป่วยบอกว่าถ้าออกไปจากที่นี่ก็จะกลับไปเสพอีกเหมือนเดิม
S : ผู้ป่วยบอกว่าถ้าไม่ดีเค้าจะทำออกมาทำไม
O : หลังจากให้ความรู้ผู้ป่วยยังไม่คิดว่าจะเลิก
วิเคราะห์ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การให้ความรู้สร้างความตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกบุหรี่ (กรมสุขภาพจิต 2564) ซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญ ในพ.ศ. 2565 ที่ว่า TOBACCO : Threat to our Environment ดังนั้นจึงควรตระหนักถึงผลของการสูบบุหรี่อย่างมาก เพื่อสุขภาพของตนเองและยังจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้ (ทิพวัลย์ ธีศิริโรจน์, 2565)
กิจกรรมการพยาบาล
- สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
- ย้ำโทษของสารเสพติดต่อร่างกายและต่อบุคคลใกล้ตัว
โดยจะมีคลิปวิดีโอให้ดูประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นพูดคุยกับเกี่ยวกับคลิปวิดีโอเพื่อประเมินความตระหนัก
- ยกตัวอย่างบุคคลที่เลิกบุหรี่หรือสารเสพติดได้ เช่น ปันปัน สุทัตตา
โรเบิร์ตสายควัน เสกโลโซ
- แนะนำทักษะการปฏิเสธ เช่น บอกว่าป่วย ไม่สบาย มีธุระด่วน ไม่ว่าง
- ประเมินความตระหนักต่อการเลิกบุหรี่หรือสารเสพติด
- พูดให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังใจหรือความตระหนักที่จะเลิกบุหรี่หรือสารเสพติด
ผลการประเมิน
ผู้ป่วยบอกโทษของสารเสพติดได้
ผู้ป่วยบอกว่าถ้าได้กลับจะเลิกสารเสพติดทุกชนิด
ผู้ป่วยมีความตระหนักที่จะเลิกบุหรี่และสารเสพติดโดยผู้ป่วยบอกว่าจะเลิกสารเสพติดโดยเด็ดขาด
-
- ส่งเสริมการปฏิบัติตัวเมื่อผู้ป่วยไปอยู่สถานสงเคราะห์
วิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
จากการประเมินความรู้ผู้ป่วยสามารถตอบรู้เรื่องไม่มีอาการหูแว่วประสาทหลอนเกิดความตระหนักในการเลิกใช้สารเสพติด
เบอร์นาด (Bernard) ให้ความหมายของการปรับตัวว่าเป็นการที่บุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับตนเองและโลกภายนอกได้อย่างดี ความพึงพอใจ ความแจ่มใสอย่างสูงสุด มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับสภาพสังคม มีความสามารถที่จะเผชิญและยอมรับความจริงของชีวิต
(ภาสิต ศิริเทศ และณพวิทย์ ธรรมสีหา, 2562)
-
กิจกรรมการพยาบาล
- สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยโดยรับฟังอย่างตั้งใจ
- พูดคุยให้กำลังใจ ชื่นชมผู้ป่วยในความตั้งใจที่จะเลิกสารเสพติด
- การรับประทานยาอย่างต่อเนื่องตรงตาม แผนการรักษาของแพทย์
- แนะนำการมาตามนัดไม่ควรขาดการมาพบแพทย์
- แนะนำการจัดการความเครียด เช่น หากิจกรรมอย่างอื่นทำเบี่ยงเบนความสนใจ การออกกำลังกาย ดูทีวี เป็นต้น
(ธนพล บรรดาศักดิ์, 2564)
D-METHOD
D : Disease
ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องโรคอาการสาเหตุและแผนการรักษาต่อเนื่องผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัย คือ Paranoid Schizophrenia มีอาการคือหลงผิดและอาการประสาทหลอนเป็นอาการนำ อาการหลงผิดที่พบ ได้แก่ หลงผิดคิดว่ามีคนอื่นให้ร้ายหรือกล่าวว่าร้ายตนเองหรือมีการพาดพิงเรื่องของตนหรือหลงผิดคิดว่าตนเป็นใหญ่มีอำนาจเหนือผู้อื่น อาการประสาทหลอน มักพบอาการหูแว่ว จะได้ยินเสียงที่คนอื่นว่ากล่าวหรือให้ร้ายตนเอง
M : Medication
แนะนำผู้ป่วย เกี่ยวกับยาที่ตนเองได้รับอย่างละเอียด ฤทธิ์ของยา วิธีการใช้ ปริมาณ ขนาด จำนวนครั้ง แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาอย่างต่อเนื่องไม่ควรหยุดยา ปรับลดหรือเพิ่มขนาดยาเอง รวมถึงข้อห้ามสำหรับการใช้ยา คือ ไม่ควรดื่มสุราเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชากาแฟ
-
E : Environment
ผู้ป่วยรอไปสถานสงเคราะห์ แนะนำให้จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ ไม่มีสิ่งกระตุ้นให้เครียดเพื่อป้องกันไม่ให้อยากกลับไปเสพสารเสพติด
T : Treatment
แนะนำ ให้ญาติและผู้ป่วยทราบรูปแบบการรักษาเข้าใจเป้าหมายของการรักษาการปฎิบัติตัวกับโรคการจัดการกับภาวะฉุกเฉินให้ญาติแจ้งผู้นำชุมชนตำรวจเพื่อระงับเหตุที่อาจมีการเกิดอันตราย
H : Health
แนะนำเรื่องการผ่อนคลายความเครียดวิธีที่เหมาะสม เช่น ผู้ป่วยชอบออกกำลังกายให้ออกกำลังกายตามที่ผู้ป่วยชื่นชอบและสนใจ ผู้ป่วยชอบศิลปะให้วาดรูปเพื่อให้ระบายความรู้สึกของตนเอง
O : Outpatient referral
แนะนำให้ผู้ป่วยมาตรวจตามนัดทั้งเวลาและสถานที่รวมทั้งสังเกตอาการเตือนของอาการทางจิตกำเริบ นอนไม่หลับหงุดหงิดให้รีบมาพบแพทย์
D : Diet
แนะนำการหลีกเลี่ยงอาหารของทอดของมันเนื่องจากผู้ป่วยเป็นไขมันในเลือดสูง รวมถึงการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มคาเฟอีน ชากาแฟทุกชนิดเพราะจะทำให้ยาที่ได้รับออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่และยังสามารถทำให้อาการกำเริบได้อีกด้วย
ผลการประเมิน
- ผู้ป่วยบอกต้องทานยาอย่างต่อเนื่อง ห้ามขาดยาหรือปรับยา ลดขนาดยา หรือหยุดยาเอง
- บอกว่าควรมาตามแพทย์นัดไม่ควรขาดนัด
- บอกวิธีการเบี่ยงเบนความเครียดได้ เช่น ออกไปทำกิจกรรมอื่น
-
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล
- รับ refer จากโรงพยาบาลกบินทร์บุรีด้วยอาการก้าวร้าว ไม่นอน ถืออาวุธมีด/ปืนปาระเบิดปิงปองเข้าบ้าน re-admit เพื่อเราส่งสถานสงเคราะห์ (24/4/2566)
อาการเจ็บป่วยปัจจุบัน
- 14 ปีก่อน พูดคนเดียว พูดไปเรื่อย ด่าคนอื่น
- 12 ปีก่อน คลุ้มคลั่งใส่แม่บ่อย แม่กลัวจึงนี้ไปบวช ผู้ป่วย
อยู่คนเดียว ญาติบอกว่ายังมีอาการเดินไปเรื่อย พูดคนเดียว
- 2 ปีก่อน คลุ้มคลั่ง ระแวงคนทำร้าย แม่แจ้งตำรวจไว้ แต่ผู้ป่วยไม่ค่อยอยู่บ้าน ตามเจอที่หน้าโรงงาน ตำรวจจึงนำมาส่งโรงพยาบาล
- 1ปีก่อน รับ refer จากโรงพยาบาลกบินทร์บุรีด้วยอาการ ก้าวร้าว ไม่นอน ถืออาวุธมีด/ปืน ปาระเบิดปิงปองเข้าบ้าน
ยาที่ผู้ป่วยได้รับ
ยาที่ผู้ป่วยได้รับคือ
- H.5 Haloperidol 5 mg 1x1 hs. (ยากลุ่มเก่า) (Antipsychotic drugs)
- H.inj. Haloperidol 5 mg/ml IM 1 amp prn for severe agitation q 6-8 hr. ซึ่งมีผลต้านการทำงานของ Dopamine และมีผลข้างเคียงของ EPS สูง,
- Benz5 : Trihexyphenidyl 5 mg 1x2 ac,
- Aca2 : Trihexyphenidyl 2 mg 1x1 ac. (Anticholinergics)
มีผลควบคุบอาการของ EPS
- Simvastatin 20 mg 1x1 hs. ซึ่งผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ ไขมันในเลือดสูง จำกัดอาหารประเภท ไขมัน,
- Trazodone 50 mg 1x1 hs. (Antidepressants)
- D5 Diazepine 5 mg tab เมื่อนอนไม่หลับ (Benzodiazepines)
- Betomethasone cream 1 mg, Clotrimazole 1% cream 1% w/w เนื่องจากผู้ป่วยมีเชื้อราบริเวณลูกอัณฑะ,
- Dimenhydainate 50 mg tab q 8 hr.
และเวียนศีรษะ วิงเวียน,
- ยาอมมะแว้ง ให้เมื่ออยากบุหรี่
การประเมินทางกาย
- การรับประทานอาหาร
- การนอนหลับ
- การขับถ่าย
- การทำงานของประสาทสัมผัส (การสัมผัส, การมองเห็น, การได้ยิน, การได้กลิ่น, การรับรส)
- ความสามารถในการดู้แลสุขวิทยาส่วนบุคคล
- ความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจําวัน
-