Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บและการตาย ของเซลล์, ชนิดของการบาดเจ็บของเซลล์ - Coggle Diagram
การบาดเจ็บและการตาย
ของเซลล์
บทบาทของการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ
กระบวนการของการบาดเจ็บของเซลล์
2.การทำลายโครงสร้างของเซลล์ ความเสียหายมาก เซลล์จะเสียรูปและทำงานผิดปกติ
3.การตายของเซลล์ เซลล์ฟื้นตัวไม่ได้ และจะตายภายในที่สุด
1.การตอบสนองต่อความเครียด เซลล์จะพยายามปรับตัวเพื่อแก้ไขความเสียหาย
1.หัวใจและการไหลเวียนเลือด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเซลล์ ทำให้บทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบหัวใจและการไหลของเลือด
2.ระบบประสาท การตายและกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อในเซลล์ประสาท เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดและการฟื้นตัวของโรคระบบประสาท
3.ระบบหายใจ การเปลี่ยนแปลงเซลล์บุผิวหนังในปอดและหลอดลม มีผลต่อการทำงานของระบบหายใจและอาจนำไปสู่ภาวะปอดอักเสบ
4.มะเร็ง เซลล์เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการแบ่งตัวและเติบโตอย่างไม่ควบคุม ซึ่งคือจุดเริ่มต้นของการเกิดมะเร็ง
ปัจจัยที่มีผลต่อการบาดเจ็บ
1.รังสี เช่น รังสีแกมมาหรือรังสีเอกซ์ ฯลฯ อาจทำลายเซลล์ได้
2.สารพิษ สารคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารเคมีในยาฆ่าแมลง ฯลฯ อาจทำลายเซลล์ได้
3.เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต เป็นต้น ซึ่งอาจเข้าไปทำลายเซลล์ได้
ผลกระทบของการบาดเจ็บต่อการทำงานของเซลล์
1.เซลล์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2.เซลล์เปลี่ยนรูปร่างจึงไม่สามารถทำหน้าที่ได้
3.เซลล์ที่ได้รับความเสียหาย อาจปล่อยสารพิษออกมาที่เป็นอันตรายต่อเซลล์อื่น
การซ่อมแซมและการปรับสมดุลของเนื้อเยื่อ
การเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ
จากกรณีศึกษา:
1.กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม เกิดการลดลงของขนาดเเละจำนวนเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ (Atrophy) ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดน้อยลง
2.มะเร็งปอด เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดของเซลล์บุผิวหนังในปอด (Metaplasia) ทำให้เกิดการแบ่งตัวและเติบโตแบบไม่ควบคุมจนกลายเป็นมะเร็งปอด
3.ภาวะอ้วน เป็นการเพิ่มขนาดและจำนวนเซลล์ไขมัน (Hyperplasia และ Hypertrophy) ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
1.การแทนที่เซลล์ โดยเซลล์ที่ตายไปจะถูกแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่ที่เกิดจากการแบ่งตัวและการโตของเซลล์ใกล้เคียง
2.การซ่อมแซมความเสียหาย โดยมีการแทรกซึมของเซลล์อักเสบ การสร้าง
เส้นใยคอลลาเจนและการโตของเซลล์ใหม่
3.การคงสมดุล โดยควบคุมปริมาณและสัดส่วนของเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ให้อยู่ในภาวะปกติ เพื่อให้ร่างกานทำงานปกติ
การตายของเซลล์
ชนิดของการตายของเซลล์
1.การตายของเซลล์แบบ Necrosis เซลล์จะตายอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้
2.การตายของเซลล์แบบ Apoptosis เซลล์จะตายอย่างมีระเบียบและปลอดภัยต่อเซลล์ข้างเคียง
3.การตายของเซลล์แบบ Autophagy โดยเซลล์จะย่อยสลายส่วนประกอบของตัวเองเพื่อรักษาชีวิต
การตายของเซลล์ Apoptosis และ Necrosis
Apoptosis เป็นกระบวนการตายของเซลล์ธรรมชาติ โดยเกิดจากการทำงานของยีนส์และโปรตีนจะควบคุมการตายของเซลล์อย่างมีระบบเพื่อรักษาสมดุล
Necrosis เป็นการตายของเซลล์ที่เกิดจากบาดเจ็บที่ทำให้เซลล์เสียหายอย่างรุนแรง จนไม่สามารถซ่อมแซมได้
ปัจจัยที่มีผลต่อการตายของเซลล์
1.อายุ เซลล์ที่มีอายุมากจะมีโอกาสตายมากขึ้น
2.โรค โรคสามารถทำให้เซลล์ตายได้ เช่น มะเร็ง เป็นต้น
3.การบาดเจ็บ เมื่อมีการบาดเจ็บอย่างรุนแรงอาจทำให้เซลล์ตายได้
4.รังสี เมื่อมีรังสีจากภายนอกก็สามารถทำให้เซลล์ตายได้
กลไกลการตายของเซลล์
1.การกระตุ้น โดยเซลล์จะได้รับสัญญาณให้ตาย
2.การย่อยสลาย โดยเซลล์จะเริ่มย่อยสลายตัวเอง
3.การกำจัด โดยเซลล์ที่ตายแล้วจะถูกกำจัดโดยเซลล์อื่นๆ
ผลกระทบของการตายของเซลล์
ต่อร่างกาย
1.โรค การตายของเซลล์ที่ผิดปกติอาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆได้
2.ความล้มเหลวของอวัยวะ ความเสียหายของเนื้อเยื่ออาจนำไปสู่ความล้มเหลวอวัยวะต่างๆได้
3.ความเสียหายของเนื้อเยื่อ การตายของเซลล์จำนวนมากอาจทำให้เนื้อเยื่อเสียหายได้
ชนิดของการบาดเจ็บของเซลล์
1.การบาดเจ็บเรื้อรัง จะเกิดอย่างช้าๆและต่อเนื่อง เช่น การขาดสารอาหาร การสัมผัสสารพิษ ฯลฯ
2.การบาดเจ็บที่เกิดจากความเครียด จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน ความดัน ฯลฯ
3.การบาดเจ็บแบบเฉียบพลัน จะเกิดอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ หรือการถูกความร้อนสูง เป็นต้น
การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ
การปรับตัวของเซลล์
1.Hypertrophy เป็นการเพิ่มขนาดของเซลล์ เกิดจากการเพิ่มปริมาณออร์แกนเนลล์ภายในเซลล์
2.Hyperplasia เป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ในบริเวณที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนเซลล์บุผิวหนังเมื่อมีการเสียดสี เพื่อสร้างความแข็งเเรงของผิวหนัง
3.Atrophy เป็นการลดขนาดและจำนวนเซลลืลง ซึ่งอาจเกิดจาการขาดการใช้งาน การขาดสารอาหาร ส่งผลให้เนื้อเยื่อมีขนาดเล็กลงและทำงานอย่างลดลง
4.Metaplasia เป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดของเซลล์ในเนื้อเยื่อ เพื่อปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมใหม่ เช่น การเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังบริเวณหลอดอาหารให้เป็นเซลล์เมือกในกรณีที่มีภาวะกรดไหลย้อน
1.การพัฒนายา ความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์เนื้อเยื่อ ช่วยในการออกแบบพัฒนายารักษาโรคได้
3.การวินิจฉัยโรค การศึกษารูปร่างการเปลี่ยนแปลงเซลล์และเนื้อเยื่อ สามารถช่วยวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ
2.การซ่อมแซมและการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ สามารถนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะและเซลล์ต้นกำเนิด