Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วยชายไทยวัย 70 ปี DX : ARDS with Pneumonia U/D : diabetes…

- - - - ความผิดปกติที่ปอด
        
        บาดเจ็บที่ปอด พิษจากการให้ออกซิเจนเข้มข้นเป็นระยะเวลานาน
        
        จมน้ำ
        
        การสูดดมสารพิษ
        
        ปอดอักเสบ ติดเชื้อ
        
        Embolism
      - ความผิดปกติที่อวัยวะอื่นแล้วส่งผลมาที่ปอด
        
        Shock จาก Sepsis หรือเสียเลือด
        
        ได้รับเลือดปริมาณมาก
        
        Pancreatitis
        
        Over drug
        
        DIC
    - - โรคพังพืดที่ปอดมา 1 ปี รับการรักษาโรงพยาบาลลำสนธิ ผู้ป่วยมีประวัติทำงานในโรงงานแป้งสาลีมา 30 ปี
  - - - -1. ความผิดปกติของ Pulmonary capillary endothelium
      - -2. ความผิดปกติที่ alveolar epithelium
      - -3. การเปลี่ยนแปลงการแลกเปลี่ยนก๊าซ
        
        Acute phase ระยะเฉียบพลัน พบใน 12 – 72 ชั่วโมงที่มีปัจจัยเสียงของการเกิด ARDS มีการทพลายของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดและหลอดลม สาร Surfactant ในถุงลมถูกทำลาย การแลกเปลี่ยนก๊าซแย่ลง
        
        Resolution phase ระยะฟื้นฟูปอด พบหลัง 7 วันที่มีอาการ ARDS แล้วตอบสนองต่อการรักษาดี จะมีการซ่อมแซมของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดและหลอดลม ขจัดของเหลวต่างๆออกจากถุงลม การแลกเปลี่ยนก๊าซดีขึ้น
        
        Fibrotic phase พบในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา ทำให้เกิดพังผืดในเนื้อปอด เป็นรอยโรค Lung compliant ลดลง ทำให้เกิดภาวะพร่องออกซิเจนยังคงอยู่
    - - 2 ชั่วโมง ขณะเดินทางกลับบ้านผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น เป็น Acute phase ระยะเฉียบพลันที่พบใน 12-72 ชั่วโมง
        
        ข้อวินิจฉัย
        
        มีภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากพื้นที่การแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
        
        S : 1 วันก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการหายใจเหนื่อยหอบ
        S : 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ขณะเดินทางกลับบ้านผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น
        S : โรคพังพืดที่ปอดมา 1 ปี
        O : อัตราการหายใจเร็วตื้น 26 ครั้ง/นาที
        O : T = 38 องศาเซลเซียส P = 84 ครั้ง/นาที R = 26 ครั้ง/นาที
        BP = 146/82 มิลลิเมตรปรอท O2sat 86%
        O : ฟังเสียงปอดพบเสียง Crepitation both lung
        O : มีสีผิวและปลายมือปลายเท้าเขียวเป็นบางช่วง
        O : ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        -Complete Blood count
        WBC = 12,000 cell / mm3 H
        Neutrophill = 79 % H
        Lymphocyte = 19 % L
        Eosinophill = 1 %
        Monocyte = 1 %
        Hct = 31.5 % L
        Hb = 10.5 g/dl L
        Platelet count 180,000 cell/mm3
        O : ผลการตรวจพิเศษ
        ABG pH = 7.34 L
        PaCO2 = 50 mmHg (Setting mode FiO2 0.8)
        PaO2 = 73.5 mmHg L
        HCO3act = 24.1 mmHg L
        CXR: Diffuse alveolar infiltration both lung, atelectasis both lung
        
        วัตถุประสงค์
        ลดภาวะการเกิดพร่องออกซิเจนเพื่อให้มีพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซเพิ่มขึ้น
        เกณฑ์การประเมิน
        1.ประเมินสัญญาณชีพ
        T = 36 - 37 องศาเซลเซียส
        P = 60 - 100 ครั้ง/นาที
        R = 20 - 26 ครั้ง/นาที
        BP = 110-120/70-80 มิลลิเมตรปรอท
        O2sat 86%
        2.ฟังปอดไม่พบเสียง Crepitation both lung
        3.ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจนปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ กระสับกระส่าย ชักกระตุก
        4.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ปกติ CBC, ABG , CXR
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        8 more items...
  - - - -เครื่องช่วยหายใจ On ET-Tube NO.7.5 Mark 20 cm setting mode PCV-CMV setting PI 20 cmH2O, RR 24 bpm, Ti 0.6 sec, PEEP 8 cmH2O, FiO2 0.8
        -ให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับยานอนหลับ
        Fentanyl (5:1) IV 15 cc/hr, Dormicum (1:1) IV 5 cc/hr
        -ให้ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย
        Cefazolin 2 gm IV q 8 hr, Tazocin 4.5 gm IV q 12 hr
        -ให้สารน้ำ ร่วมกับประเมินสมดุลน้ำเข้า-ออกจากร่างกาย
        0.9 % NSS 1000 cc v 80 cc/hr Record I/O, Record V/S
        -เนื่องจาก ฟังเสียงปอดพบเสียง Crepitation both lung แพทย์จึงมีคำสั่งให้ Berodaul 4 puff q 4 hr
    - - การใช้เครื่องช่วยหายใจ ต้องตั้งเครื่องอย่างระมัดระวัง เพราะพยาธิสภาพของปอดแตกต่างกัน อาจทำให้ปอดบาดเจ็บมากขึ้น หลักการตั้งเครื่องช่วยหายใจคือ ปริมาตรอากาศ 10 – 15 ml./นน. 1 Kg. และตั้ง Positive end expiratory (PEEP)ไม่เกิน 5 cmH2O เพื่อให้การแลกเปลี่ยนก๊าซสมดุลและลดอาการปอดแฟบ หรือปอดแตก
      - จัดท่านอนคว่ำ (Prone position) อย่างน้อยติดต่อกัน 16 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปที่ปอด
      - 3.ให้ยาคลายกล้ามเนื้อ และระงับประสาท เพื่อให้ผู้ป่วยสงบและหายใจสัมพันธ์กับเครื่อง
      - 4.ให้เครื่อง Extracorporeal membrane oxygenation (ECMO)ใช้ในผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ไม่ตอบสนองการรักษาแบบปกติ
  - - - 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล หายใจเหนื่อยหอบมากขึ้น, อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส, อัตราการหายใจ 26 ครั้ง/นาที หายใจเร็วตื้น, ฟังเสียงปอดพบเสียง Crepitation both lung, ปัสสาวะออก 30 มิลลิลิตร
    - - หายใจลำบากอย่างรวดเร็ว, PaO2/FiO2<200 mmHg., ภาพถ่ายรังสีปอดมี Infiltration ที่ปอดทั้งสองข้าง, ไม่มีภาวะหัวใจห้องล่างซ้ายล้มเหลว
  - - - -ภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ -ลิ่มเลือด -การติดเชื้อ -โรคพังผืดในปอด -เกิดปัญหาในการหายใจ
    - - -เป็นโรคพังผืดที่ปอดมา 1 ปี -หายใจเหนื่อยหอบ
        
        ทำให้การทนต่อกิจกรรมลดลง
        
        การพยาบาล
        
        1.แนะนำให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเท่าที่ทำได้พร้อมกับมีญาติคอยดูแล
        2.กระตุ้นให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองให้ได้มากที่สุดในกิจวัตรประจำวัน
        3.จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสิ่งกรีดขวาง
        4.แนะนำให้ญาติสังเกตอาการผิดปกติขณะที่ทำกิจกรรม
- - - - โรคความดันโลหิตสูง (Hypertention)
      - โรคเบาหวาน (Diabetes Melitus)
        
        น้ำตาลในเลือดสูง 291-356
        
        ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี
        
        การพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการซึม สับสน ปลายมือปลายเท้าเย็น ความดันโลหิตลดลง
        2.ดูแลให้ได้รับสารน้ำตามแผนการรักษา
        3.ดูแลให้ได้รับอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด
        4.ประเมินความรู้ผู้ป่วยและญาติในการควบคุมระดับน้ำตาล
        5.ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เน้นเนื้อหาที่สำคัญและนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้
        
        ไม่สามารถขับ k ได้ทำให้ค่า K สูง
        
        หัวใจเต้นผิดจังหวะ
        
        โพแทสเซียมในเลือดสูง 5.4 , มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
        
        การพยาบาล
        
        1 more item...
      - โรคพังผืดที่ปอด
        
        เป็นมานาน 1 ปี รับการรักษาที่โรงพยาบาลสนธิ
        
        อาการ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก
- - - - pH = 7.34 L PaCO2 = 50 mmHg (Setting mode FiO2 0.8)
        PaO2 = 73.5 mmHg L HCO3act = 24.1 mmHg
    - - CXR: Diffuse alveolar infiltration both lung, atelectasis both lung