Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาแก้แพ้และยาแก้แพ้เฉีบพลัน - Coggle Diagram
ยาแก้แพ้และยาแก้แพ้เฉีบพลัน
Sedating Antihistamines
Hydroxyzine
กลุ่มยา
Antihistamine
ชื่อสามัญ
Hydroxyzine hydrochloride
ข้อบ่งใช้
-บรรเทาอาการคันจากการแพ้ และอาการลมพิษ
-ช่วยกล่อมประสาท ลดความตึงเครียด คลายกังวล
-ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัด
-ใช้เบาเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เมาเรือ
ประสิทธิผล(Efficacy)
ยาแก้แพ้ Hydroxyzine ใช้ในผู้ที่มีอาการคันจากการแพ้และอาการลมพิษ ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัด
กลไกการออกฤทธิ์ ยาออก ฤทธิ์ต้านตัวรับฮิสตามีน (H, - recepior) โดยจะแย่งกับฮีสตามีน ในการจับกับตัวรับอีสดามีน ทำให้ไม่มีการหลั่งสารที่กระตุ้นให้มีการบวมของทางเดินหายใจและการสร้างเยื่อเมือกเพิ่มขึ้น เป็นผลให้ลดอาการบวมของทอ และทำให้เสมหะแห้ง ยานี้ออกฤทธิ์ได้ดีทางผิวหนัง และยังลด อาการปวดได้แบบอ่อนๆ
Chlorpheniramine
ขนาดยา (Dose)
ยาน้ำ 2 มิลลิกรัม/ 1 ช้อนชา (บรรจุ 60 มิลลิลิตร)
ยาเม็ด 4 มิลลิกรัม
ยาฉีด 10 มิลลิกรัม/ 1 มิลลิลิตร
วิธีให้ยา (Method of administration
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-4 ครั้ง หรือฉีดครั้งละ ½-1 หลอดเข้ากล้ามหรือเข้าหลอดเลือดดำ
เด็ก
ให้วันละ 0.35 มก./กก. แบ่งให้วันละ 2-4 ครั้ง หรือให้ตามน้ำหนักตัว ดังนี้
ต่ำว่า 8 กก. ครั้งละ ½ ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง
8-10 กก. ครั้งละ ½ ช้อนชาวันละ 3 ครั้ง
11-16 กก. ครั้งละ ½ ช้อนชา วันละ 4 ครั้ง
17-24 กก. ครั้งละ 1 ช้อนชา (½ เม็ด) วันละ 3 ครั้ง
25-34 กก. ครั้งละ 1 ช้อนชา (½ เม็ด)วันละ 4 ครั้ง
มากว่า 34 กก. ให้ขนาดเท่าผู้ใหญ่
ยาฉีดสำหรับเด็ก 1/4-1/2 หลอด ฉีดเข้ากล้ามหรือเข้าหลอดเลือดดำในกรณีที่เกิดอาการแพ้ทันที (ที่ไม่ใช่ anaphylactic shock) ให้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ ในขนาด 10-20 มก. (ไม่เกิน 40 มก./วัน ในเด็กให้ 0.2 มก./กก)
ความเสี่ยง (Risk)
อาการสงบระงับ และง่วงซึม
ห้ามใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เพราะยาจะกระตุ้นประสาทอาจทำให้มีอาการชักได้
ปากแห้ง ทางเดินหายใจแห้ง ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายคอ และไอ
ทำให้เกิดอาการตื่นเต้นในเด็ก และอาจทำให้ชักได้ ถ้าใช้ขนาดมากเกินไป
หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดต่ำ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว ได้ยินเสียงในหู เบื่ออาหาร ท้องผูก ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ผืนคัน คัดจมูกน้ำมูกขัน เสมหะเหนียวขัน
ข้อบ่งชี้ (Indication)
บรรเทาอาการแพ้ เช่น ไข้ละอองฟาง ลมพิษ ลดน้ำมูก และลดอาการคันอาศัยฤทธิ์ในการนอนหลับ
ประสิทธิผล (Efficacy)
ยาออกฤทธิ์โดยจับกับตัวรับฮิสตามีน (H,-receptor) ซึ่งอยู่ที่บริเวณหลอดเลือดฝอย และกล้ามเนื้อเรียบของหลอดลม ต่อมขับเมือกในระบบทางเดินหายใจ ลำไส้และหลอดเลือดหัวใจ โดยจับแบบชั่วคราว ทำให้น้ำมูกลดลง ลดอาการคัน และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทกลาง ทำให้นอนหลับ
ค่าใช้จ่าย (Cost)
ยาน้ำ 2 มิลลิกรัม/ 1 ช้อนชา (บรรจุ 60 มิลลิลิตร) 6.5 บาท/ขวด
ยาเม็ด 4 มิลลิกรัม 0.5 บาท/เม็ด
ยาฉีด 10 มิลลิกรัม/ 1 มิลลิลิตร 23 บาท/ Ampule
ระยะเวลาในการให้ยา(Duration of treatment
ในกรณีที่อาการยังไม่ดีขึ้น ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานเกิน 7 วัน หากดูแลตัวเองด้วยการใช้ยานี้แล้วยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์
องค์ประกอบอื่นที่จำเป็น (Other considerations)
ในระหว่างใช้ยากลุ่มนี้ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์หรือใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางเพราะจะเสริมฤทธิ์กันในการกดระบบประสาทส่วนกลาง
ผู้ที่ขับรถหรือทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรกล ควรระมัดระวัง เมื่อใช้ยานี้
ระวังการใช้ยาในเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดอาการตื่นเต้น ถ้าใช้ขนาดมากเกินไปอาจทำให้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หรือเกิดอาการชักได้
ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของเยื่อบุ เนื่องจากยาจะส่งผลให้ทางเดินหายใจแห้งและเสมหะเหนี่ยวข้น
รับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที เพื่อลดการรบกวนกระเพาะอาหาร
สำหรับอาการแพ้ หรือภูมิแพ้ ควรพยายามสังเกตตนเองเพื่อหาสาเหตุการแพ้ หากไม่ทราบอาจไปติดต่อตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้ จะได้หลีกเลี่ยง ป้องกัน หรือรับมือกับการแพ้นั้นได้ถูกต้อง รวมทั้งสามารถลดการใช้ยาลงใช้เท่าที่จำเป็น
การยอมรับของผู้ป่วยและความสะดวกในการใช้ยา(Patient Compliance)ฝ
ก่อนใช้ยานี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจไม่ได้ใช้ยาอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของคลอร์เฟนิรามีนมาลีเอต หรือยาแก้แพ้ชนิดอื่นอยู่เพราะอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาดได้
ข้อมูลยา
ชื่อยา: Chlorpheniramine: CPM
กลุ่มยา:antihistamine
ชื่อสามัญ: chlorpheniramine maleate
ความถี่ในการให้ยา
เด็ก 6-12 ปี: กินครั้งละ 2 มิลลิกรัม (ครึ่งเม็ด) ทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 มิลลิกรัม (3 เม็ด)แต่วัน
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปี ขึ้นไป: กินครั้งละ 4 มิลลิกรัม (1 เม็ด) ทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 มิลลิกรัม (6 เม็ด) ต่อวัน
Adrenaline
ข้อบ่งชี้(Indication)
-ใช้แก้อาการแพ้ที่รุนแรงต่างๆ เช่น ลมพิษชนิดรุนแรง ภาวะหลอดลมหดเกร็งจากการแพ้ ช็อกจากการแพ้ (anaphylactic shock)
-ใช้ผสมกับยาชาเฉพาะที่ ทำให้ยาชาออกฤทธิ์ได้นานขึ้น
-อาจใช้กระตุ้นหัวใจในผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น จากสาเหตุต่างๆ
-ใช้ห้ามเลือดที่ออกจากหลอดเลือดฝอย เช่นใช้ผ้าก๊อซซุบยานี้อุด จมูกรักษาเลือดกำเดา
-ปัจจุบันไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ฉีดรักษาอาการหืดกำเริบรุนแรง เนื่องจากมียาอื่นที่ได้ผลและปลอดภัยกว่า
ขนาดยา(Dose)
ผู้ใหญ่ : กรณี Life-threatening anaphylaxis ขนาดเริ่มต้น 0.1 0.5 mg (0.1 - 0.5 mL) ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง หรือเข้ากล้าม ให้ซ้ำได้ ทุก 5 - 15 นาที กรณีมี hypotension ให้ 0.1 mg I.V. อย่างช้าๆ ภายใน 5 - 10 นาที ตาม ด้วย continuous infusion 1 - 10 mcg/min
ทารกและเด็ก (ยกเว้น ทารกคลอดก่อนกำหนด และ ful-term infant) : กรณี bronchodilator 0.0 1 mg/kg ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ห้ามฉีดแบบ single dose เกินครั้งละ 0.5 mg ให้ซ้ำได้ทุก 20 นาที จำนวน 3 ครั้ง
ประสิทธิผล(Efficacy)
-กล้ามเนื้อหัวใจเต้นและบีบตัวแรงขึ้น
-กล้ามเนื้อหัวใจใช้ออกซิเจนมากขึ้น
-เพิ่มการไหลเวียนเลือด ไปเลี้ยงสมองและกล้ามเนื้อหัวใจ
-เพิ่มความสามารถการเต้นของเนื้อเยื่อหัวใจส่วนต่างๆได้เอง
-กระตุ้นและเพิ่มระบบการนำไฟฟ้าของกล้ามเนื้อหัวใจ
-มีผลให้หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว ทำให้แรงดันเลือดที่ไปเลี้ยง
-เพิ่มความดันโลหิตทั้ง Systolic และ Diastolic
-กล้ามเนื้อหัวใจและสมองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะแรกของการช่วยชีวิต
การออกฤทธิ์ กระตุ้นจุดรับ A และ B admergic ภายในระบบซิมพาเธติก ทำให้เพิ่มทั้งความดันโลหิตค่าบนและค่าล่าง เพิ่มความแรงในการหดตัวของกล้ามเนื้อ หัวใจ เพื่อเลือดไปเลี้ยงหัวใจ และสมองมากขึ้น
-Systenic Vascular Resistance เพิ่มขึ้นเนื่องจากการหดตัวของ หลอดเลือดแดง
ความเสี่ยง(Risk)
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้
-ในผู้ป่วยปวดแน่นหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง
-ห้ามใช้ Epinephrine ในผู้ป่วยที่ได้รับยาปิดกั้น
B-adrenergic rocepter ที่ออกฤทธิ์ไม่เฉพาะเจาะจง
-ผู้ป่วยช็อก เพราะอาจทำให้เป็นต้นเหตุอาการช็อกที่รุนแรงขึ้น
-ต้องเก็บยานี้ไว้ไม่ให้ถูกแสง ถ้ายาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลห้ามใช้
-ผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรดหอบหืด และมีอาการถุงลมโป่งพองร่วม ด้วย
ค่าใช้จ่าย(Cost)
4.5 บาท/amp
วิธีให้ยา(Method of administration)
การบริหารยาแบบ intravenous infusion ต้องบริหารผ่าน หลอดเลือดดำใหญ่โดยใช้ infusion pump
หลีกเลี้ยงการฉีดยาเข้าหลอดเลือดแดงโดยตรงและการฉีดยา เข้ากล้ามเนื้อสะโพก เนื่องจากอาจทำให้หลอดเลือดตีบจนกล้าม เนื้อตายได้
เริ่มให้ยาช้าๆ และปรับเพิ่มตามความจำเป็น โดยต้องติดตาม การตอบสนองของผู้ป่วย เช่น ระดับความดันเลือด และ cardiovascular parameter อื่นๆ การหยุดยาต้องค่อยๆ ปรับลด ลง การหยุดยาแบบทันทีทันใด อาจทำให้เกิด rebound hypotension*
ความถี่ในการให้ยา
-ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง หรือเข้ากล้าม ให้ซ้ำได้ทุก 5 - 15 นาที กรณีมี hypotension ให้ 0.1 mg I.V. อย่างช้าๆ ภายใน 5 - 10 นาที ตาม ด้วย continuous infusion 1 - 10 mcg/min
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ห้ามฉีดแบบ single dose เกินครั้งละ 0.5 mg ให้ ซ้ำได้ทุก 20 นาที จำนวน 3 ครั้ง
ระยะเวลาในการให้ยา(Duration of treatment)
ให้ทาง I.V. อย่างช้าๆ ภายใน 5 - 10 นาที ตามด้วย continuous infusion 1 - 10 mcg/min
การยอมรับของผู้ป่วยและความสะดวกในการใช้ยา(Patient Compliance)
ผู้ป่วยอาจมีอาการไม่พึงประสงค์
-ความดันโลหิตสูง
-ปลายมือ ปลายเท้าเขียว
-หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
-หากมีการรั่วออกมานแอกหลอดเลือด อาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย
ได้ ต้องติดตามอาการผู้ป่วยหลังให้ยา Record v/s ทุก 3-5 นาที หรือ
ตามแผนการรักษา
องค์ประกอบอื่นๆ ที่จำเป็น (Other consideration)
ข้อปฏิบัติทางการพยาบาล
2.หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าหลอดเลือดแดงโดยตรงและการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพกเนื่องจากอาจทำให้หลอดเลือดตีบจนกล้ามเนื้อตายได้
3.เริ่มให้ยาช้าๆ และปรับเพิ่มตามความจำเป็น โดยต้องติดตาม การตอบสนองของผู้ป่วย เช่น ระดับความดันโลหิตและ cardiovascular parameter อื่นๆ การหยุดยาต้องค่อยๆปรับ ลดลง การหยุดยา แบบทันทีทันใดอาจทำให้เกิด rebound hypotension
1.การบริหารยาแบบ intravenous infusion ต้องบริหารผ่านหลอดเลือดดำใหญ่โดยใช้ infusion pump
4.เฝ้าดูอัตราการไหลของน้ำยา และระวังอย่าให้น้ำยารั่วจากหลอด เลือด อาจทำให้เกิด tissue necrosis
ข้อมูลยา
ชื่อสามัญ: Adrenaline
กลุ่มยา: Adrenergic agonist
ชื่อยา : Adrenaline(Epinephrine)
Non-Sedating Antihistamines
Cetirizine
ข้อบ่งชี้(Indication))
บรรเทาอาการต่างๆจากการแพ้ เช่น มีน้ำมูกไหล ตาแดง คันตา คันจมูก คันคอ ใน โรคเยื่อจมูกอักเสบหรือไข้ละอองฟางใช้เพื่อบรรเทาทางผิวหนัง เช่น คัน ผื่นลมพิษ และโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล
ประสิทธิผล(Efficacy)
กลไกการออกฤทธิ์ : ยาออกฤทธิ์ที่ตัวรับฮิสตามีน
(H1- receptor) โดยทำให้ฮีสตามีนไม่สามารถจับกับตัวรับที่บริเวณหลอดเลือดฝอยและกล้ามเนื้อเรียบต่อมน้ำลาย และต่อมขับเมือกในระบบทางเดินหายใจ จึงไม่สามารถออกฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดได้ ทำให้การซึมของสารเหลวออกนอกหลอดเลือดน้อยลง จึงช่วยลดอาการบวม ยานี้ยังออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่ง อะเซธิลโคลิน โดยเฉพาะที่บริเวณหลอดลมฝอยและในทางเดินอาหารทำให้สารหลั่งบริเวณจมูกหรือน้ำมูกลดลง ยานี้เข้าสู่สมองได้น้อยและออกฤทธิ์ได้นาน
ความเสี่ยง(Risk)
ข้อควรระวัง
การใช้ยาในผู้ป่วยโรคไต
ไม่ควรใช้ยาในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยา หรือส่วนประกอบใดๆในตัวยานี้
ไม่มีข้อมูลการบ่งใช้ในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี
สตรีที่ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
อาการไม่พึงประสงค์
อาการง่วงซึม ปวดหัว นอนไม
คลื่นไส้อาเจียน
เวียนหัว ปวดหัว ม่านตาขยาย ง่วงซึม มึนงง กระสับกระส่าย
ค่าใช้จ่าย(Cost)
ยาน้ำ: ขนาด 60 ml ราคา 12.10 บาท
ยาเม็ด: เม็ดละ 0.60 บาท
องค์ประกอบอื่นๆ ที่จำเป็น (Other consideration))
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงในผู้ป่วยบางราย จึงไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
ไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับยาที่กดการทำงานของสมอง เช่นยานอนหลับ
ขนาดยา(Dose))
ยาเม็ด : ขนาด 10 mg แนะนำรับประทานครั้งละ ½ - 1 เม็ด/ วัน
ยาน้ำ : ขนาด 5 mg/5 ml คำนวณตามน้ำหนักของเด็ก ขนาดรับประทานครั้งละ 0.25 mg/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม / วัน แต่ไม่เกิน 10 mg/วัน
วิธีให้ยา(Method of administration)
ผู้ใหญ่ และเด็กตั้งแต่ 12ปี :ให้ขนาด 5-10มก. วันละ1-2ครั้ง
เด็ก : อายุ 6-11ปี ให้ขนาด 5มก./วัน
ความถี่ในการให้ยา
1-2 ครั้ง/วัน
ระยะเวลาในการให้ยา(Duration of treatment)
การยอมรับของผู้ป่วยและความสะดวกในการใช้ยา(Patient Compliance)
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน
ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อมูลยา
ชื่อสามัญ: cetirizine hydrochloride
ชื่อการค้า Zyrtec® ,ceteimed, Phamaland, cetrizin
กลุ่มยา: Antihistamines รุ่นที่สอง