Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ, ด.ช. ภัทรชัย ลาบึง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1…
ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ
1. โลหะ (Metal)
เป็นวัสดุที่ได้จากการถลุงแร่ต่างๆ เช่น เหล็ก ดีบุก อะลูมิเนียม นิกเกิล ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.1 โลหะประเภทเหล็ก(Ferrous Metal)
คือโลหะที่มีพื้นฐานเป็นเหล็กประกอบอยู่ เช่น เหล็กกล้า เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ
1.2 โลหะนอกกลุ่มเหล็ก (Nonferrous Metal)
คือ โลหะที่ไม่มีส่วนประกอบของเหล็กผสมอยู่ เช่น ดีบุก อะลูมิเนียม สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง เงิน ทองคำขาว ทองเหลือง แมกนีเซียม
ประเภทของวัสดุ
การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับงานจำเป็นต้องศึกษาหรือพิจารณาจากสมบัติของวัสดุนั้นให้ตรงกับงานที่ออกแบบหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถสร้างชิ้นงานได้ตรงกับความต้องการ มีความปลอดภัย และใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า
2.อโลหะ (Non Metal)
เป็นวัสดุที่มีสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า (ยกเว้นแกรไฟต์) ฉนวนความร้อน มีอัตราการยืดตัวต่ำ ไม่สามารถตีเเผ่เป็นแผ่นบางได้ ซึ่งปัจจุบันวัสดุประเภทอโลหะถูกนำมาใช้มากที่สุดและมีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยอโลหะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
2.1วัสดุจากธรรมชาติ (Natural Meterials) คือ วัสดุที่เกิดมาจากธรรมชาติ ที่ถูกนำมาใช้โดยอยู่ในสภาพเดิมหรือต้องผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพ เช่น
- ไม้ (Wood) เป็นวัสดุแข็งที่ได้จากลำต้นของต้นไม้ แล้วนำมาแปรรูปเป็นไม้อัดหรือไม้แผ่น
-
3.ผ้า (Fabric) เป็นวัสดุที่ได้จากการทอเส้นใยของไหม ฝ้าย หรือขนสัตว์บางชนิดเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม
2.2 วัสดุสังเคราะห์ (Synthetic Materials) คือวัสดุที่สร้างขึ้นใหม่จากการผสมกันของวัสดุหรือสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ด้วยกระบวนการทางเคมีในห้องทดลอง เช่น หลอม กดขึ้นรูป อบด้วยความร้อน ซึ่งวัสดุที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะมีคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลแน่นกว่าเดิม เช่น
1.ไม้สังเคราะห์ (Synthetic Wood) เป็นวัสดุทดแทนไม้จริงในรูปแบบต่างๆ เช่น เกล็ดไม้ ผงไม้ ชิ้นไม้ขนาดเล็ก
2.พลาสติก (Piastic) เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สังเคราะห์ขึ้นใช้แทนวัสดุธรรมชาติบางชนิดเมื่อเย็นจะแข็งตัว เมื่อถูกความร้อนจะอ่อนตัว บางชนิดแข็งตัวถาวร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
2.1เทอร์มอพลาสติก(Thermoplastic) เป็นพลาสติกที่ใช้กันเเพร่หลายที่สุดในโลก เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อเย็นลงจะแข็งตัว สามารถเปลี่ยนรูปได้
2.2พลาสติกเทอร์มอเซต(Thermosetting plastic) เป็นพลาสติกที่มีสมบัติพิเศษ คือ ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและทนปฏิกิริยาเคมีได้ดี เกิดคราบและรอยเปื้อนได้ยาก ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
3.เซรามิก(Ceramic) คือ เครื่องปั้นดินเผาหรือเครื่องเคลือบดินเผา ที่ใช้วัตถุดิบชนิดตระกูลดินเหนียวเป็นหลัก ทำเป็นรูปทรงต่างๆ ผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้อุณหภูมิสูง
4.แก้ว (Glass) เป็นวัสดุที่เกิดจากการหลอมของส่วนผสมของสารอินทรีย์ส่วนใหญ่มักเป็นซิลิกา (Silica) เมื่ออยู่ในที่อุณหภูมิสูงจะหลอมจนเป็นน้ำ แก้วที่อยู่ในสถานะของเหลวแล้วถูกนำไปผ่านกระบวนการขึ้นรูปและทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว
-