Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Pituitary adenoma, ขนาดใหญ่มาก ยื่นโตออกนอกแอ่ง sella turcica มักใหญ่กว่า…

- - - - A 3.0 x3.8x3.3 cm heterogeneous enhancing mass with internal cystic change epicenter in sella – suprasellar region involving pituitary gland as well at optic chiasm and prechismatic optic nerve, appears hyperdense on previous CT scan. Probable to be ademantinomatous craniopharyngioma. DDX teratoma or pituitary macroadenoma. Please correlate with histopathological study.
        
        Increased T2 signal of intraorbital segment of bilateral optic tracts, probably compressive neurophathy
- - - - Clinical risk in neurosurgical patient
        
        Diabetes Insipidus(DI)
        
        เกิดจากการสร้างฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะที่มีชื่อว่าเอดีเอช (ADH ย่อมาจาก antidiuretic hormone) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า vasopressin จากต่อมใต้สมองได้น้อยกว่าปกติ ฮอร์โมนมีหน้าที่ช่วยเก็บกักน้ำในร่างกาย จะยับยั้งไม่ให้ไตขับปัสสาวะออกมามากกว่าปกติ จึงทำให้ไตขับปัสสาวะออกมามาก
        
        การวินิจฉัย
        
        ผู้ป่วยหลังผ่าตัดเนื้องอกต่อมใต้สมอง
        
        ประเมิน urine out put ทุก 2 hr
        
        3 more items...
        
        Serum osmolality มากกว่า 300 mOsm/kg และ osmolality ในปัสสาวะน้อยกว่า 300 mOsm/kg แสดงว่าเป็น DI
        
        การรักษา
        
        เพิ่มน้ำทาง oral หรือ iv
        
        ใช้ hypotonic saline
        
        Volume replecment
        
        Vasopressin
        
        กลไกการทำงาน
        
        1 more item...
        
        เป็นยากลุ่ม antidiuretic hormone
        
        Minirin (DDAVP): desmopressin acetate
        
        บันทึก urine output ทุก 1-2 ชม.
        
        ติดตาม urine specific gravity
        
        ติดตาม lab serum osmolality และ elyte
        
        สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะขาดน้ำ
        
        รูปแบบของภาวะ DI หลังผ่าตัดบริเวณ hypothalamic- pituitary
        
        Transient DI พบ ประมาณร้อยละ 50-60 ของภาวะเบาจืดหลังผ่าตัด โดยมักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ส่วนใหญ่จะหายภายใน 3-5 วันแรก แต่อาจอยู่ได้นานเป็นหลายสัปดาห์
        
        Permanent DI พบประมาณร้อยละ 30-40 ของภาวะเบาจืดหลังผ่าตัด
        
        Triphasic DI
        
        ประกอบด้วย
        
        Phase 1 มีภาวะเบาจืดเกดขึ้นภายใน 24 hr แรกหลังผ่าตัด เกิดจากการทำลายของ axon จาก supraoptic nuclei และ Paraventicular nuclei
        
        Phase 2 antidiuretic phase มีระยะเวลา 2-14 วัน เกิดจากมีการหลั่งของ ADH ออกมากจาก injury neurohypophyseal axonal terminals ทำให้เกิด SIADH
        
        Phase 3 เกิด permanent DI ตามมาเนื่องจาก มี degeneration ของ neurohypophyseal tissue ผู้ป่วยบางรายอาจมี nonclassical triphasic กล่าวคือ ไม่มี phase1 แต่มี phase 2 และ 3 หรือมีแต่ SIADH เพียงอย่างเดียว
        
        Syndrome of Inappropriate Hormone (SIADH)
        
        ภาวะที่มีการหลั่ง ADH ออกมามากผู้ป่วยจะไม่มีการขาดน้ำ แต่มีปริมาณน้ำในร่างกายมากกว่าปกติทั้งภายนอกและภายในเซลล์ ทำให้ระดับ resum sodium ถูกเจือจางมีระดับต่ำกว่าปกติปริมาณปัสสาวะตลอด 24 ชม. รวมกับ insensible loss จะน้อยกว่าปริมาณสารน้ำที่ผู้ป่วยได้รับในวันนั้นๆ ปริมาณปัสสาวะอาจน้อยกว่า 0.5 ml/kg/hr หรือเท่ากับ 1-2 ml/kg/hr ทำให้น้ำหนักตัวผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
        
        การวินิจฉัย
        
        Serum osmolality < 250 mOsm/kg และผู้ป่วยต้องไม่มี pseudohyponatremia
        
        ปริมาณน้ำในร่างกายปกติ หรือเกินเล็กน้อย
        
        ผู้ป่วยต้องไม่มีภาวะพร่องธัยรอยด์ฮอร์โมน Hypocortisolism ไม่มีการใช้ยาขับปัสสาวะ หรือความผิดปกติของตับและไต
        
        การรักษา
        
        จำกัดน้ำ
        
        ทดแทนด้วย Hypertonic saline ควรเป็น 5%DNSS รับประทานเกลือแกง
        
        ใช้ยาขับปัสสาวะ (lasix)
        
        Cerebral salt wasting (csw)
        
        เกิดจากมีการหลั่งของ atrial natriuretic peptide (ANP) ออกมามากมักเกิดร่วมกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง เช่นการผ่าตัดสมอง ผู้ป่วยจะสูญเสียทั้งเกลือแร่ และน้ำทางปัสสาวะมากจนทำให้มีระดับ serum sodium ต่ำ มีภาวะขาดน้ำ มีปริมาณโซเดียมสูงในปัสสาวะ
        
        การวินิจฉัย
        
        มักเกิดในสัปดาห์แรกของผู้ป่วยมีปัญหาทางด้านระบบประสาทส่วนกลาง
        
        Plasma Na < 130 mEq/l
        
        Urine Na > 80 mEq/l
        
        Urine/serum osmolality > 1
        
        มีภาวะ Hyponatremia/ Dehydration
        
        การรักษา
        
        เนื่องจากผู้ป่วยสูญเสียเกลือแร่และน้ำทางปัสสาวะ การรักษาคือการให้สารน้ำและเกลือทดแทน สารน้ำที่ให้คือ 0.9% NSS อาจจำเป็นต้องให้ 3% NaCl เพื่อแก้ไข acute hyponatremia ที่มีอาการทางสมองร่วมด้วย
      - เปิดกะโหลกศีรษะ ( transcranial surgery)
        
        ผู้ป่วย s/p Lt. craniotomy with remove tumor
      - เข้าผ่าตัดทางโพรงจมูก (transsphenoid surgery)
- - - - เนื้องอกส่งผลให้ร่างกายผลิตอะดรีโนคอร์ติโคโทรปิกฮอร์โมนมากขึ้น ฮอร์โมนดังกล่าวจะกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนกลุ่มสเตียรอยด์ อย่าง cortisol ทำให้เกิด Cushing syndrome
        
        น้ำหนักขึ้นไม่ทราบสาเหตุ
        
        หน้าบวมแดง
        
        ปวดศีรษะ
        
        การมองเห็นผิดปกติ
        
        น้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวาน
    - - เนื้องอกจะส่งผลให้ร่างกายผลิต growth hormone มากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเจริญเติบโตไม่สมส่วน
        
        มีความผิดปกติกระดูกบริเวณใบหน้า มือ เท้าใหญ่ผิดปกติ
        
        เหงื่อออกมาก
        
        น้ำตาลในเลือดสูงหรือเบาหวาน
        
        มือเท้าเป็นเหน็บชา
    - - เนื้องอกส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนโปรแลคตินมากผิกปกติ
        
        ผู้หญิงส่งผลต่อการทำงานของเอสโตรเจน ทำให้มีประจำเดือนน้อยกว่าปกติ หรือหมดประจำเดือนก่อนวัย น้ำนมไหลแม้ไม่ได้ตั้งครรภ์
        
        ผู้ป่วยให้ประวัติ อายุ 16 ปี ยังไม่มีประจำเดือน
        
        เพศชายส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ผลิตอาสุจิได้น้อยลง และหน้าอกใหญ่
    - - เกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
        
        ใจสั่น
        
        น้ำหนักลด
        
        ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
        
        เหงื่อออกมาก
        
        มีก้อนบวมบริเวณคอด้านหน้า
  - - - กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อตาได้ปกติ
      - ไม่สามารถมองด้านข้างได้ (peripheral vision)
      - ตามัว มองเห็นภาพซ้อน
      - ศูนย์เสียการมองเห็นอย่างกระทันหัน
      - ปวดศีรษะ
      - ชาตามใบหน้าหรือปวดบริเวณใบหน้า
- - - - เซลล์มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น
        
        ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นต่อมไร้ท่ออื่นๆให้สร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนเพศ และ cortisol ออกมามากผิดปกติ
- - - - เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของต่อมใต้สมอง ทำงานด้วยการควบคุมของฮอร์โมนจาก hypothalamus โดยสร้างฮอร์โมนเพื่อไปควบคุมอวัยวะเป้าหมายต่างๆได้แก่
        
        Growth hormone
        
        Adrenocorticotropin hormone (ACTH)
        
        Thyroid hormone
    - - ไม่ได้มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนโดยตรง แต่จะรับฮอร์โมนจากไฮโปทาลามัสเก็บไว้ชั่วคราว แล้วทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนที่เก็บไว้ชั่วคราว เพื่อไปควบคุมการทำงานของอวัยวะเป้าหมาย ได้แก่
        
        ฮอร์โมนต้านการขับน้ำออกจากร่างกาย (antidiuretic hormone, ADH) มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของไตในการควบคุมสมดุลน้ำ
        
        ฮอร์โมนออกซิโทซิน(oxytocin) ทำหน้าที่ควบคุมการหลั่งน้ำนมจากต่อมน้ำนม