Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ประเภทการวิจัย - Coggle Diagram
ประเภทการวิจัย
การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นกระบวนการวิจัยที่ใช้ข้อมูลในรูปแบบตัวเลขและสถิติเพื่อวิเคราะห์และหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ขั้นตอนหลักประกอบด้วย:
-
- ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
- ออกแบบการวิจัยและกำหนดวิธีการเก็บข้อมูล
- เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเครื่องมือเช่นแบบสอบถาม
- วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคทางสถิติ
-
ข้อดีคือผลลัพธ์มีความเชื่อถือและแม่นยำ แต่ข้อเสียคืออาจไม่เข้าใจรายละเอียดเชิงลึกเท่ากับการวิจัยเชิงคุณภาพ
การวิจัยเชิงสำรวจ
-
การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ เพื่อศึกษาลักษณะ ความคิดเห็น หรือพฤติกรรมของประชากร โดยใช้เครื่องมือเช่นแบบสอบถามหรือการสัมภาษณ์ ข้อดีคือสามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากในเวลาสั้น ข้อเสียคืออาจมีความลำเอียงจากการตอบสนองของผู้ตอบแบบสอบถาม.
การวิจัยเชิงบูรณาการ
การวิจัยเชิงพยากรณ์ (Predictive Research) เป็นการใช้ข้อมูลและแบบจำลองเพื่อทำนายแนวโน้มหรือเหตุการณ์ในอนาคต โดยใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์หรือแนวโน้มที่มีอยู่เพื่อสร้างแบบจำลอง ซึ่งสามารถใช้ในการวางแผน การตัดสินใจ หรือการทำนายสิ่งต่าง ๆ ข้อดีคือช่วยในการลดความไม่แน่นอนในการตัดสินใจ แต่ข้อเสียคือการทำนายอาจมีความไม่แม่นยำเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด.:
-
การวิจัยเชิงคุณภาพ
การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นการศึกษาปรากฏการณ์โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก ไม่เป็นตัวเลข มักใช้การสัมภาษณ์ การสังเกต และการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนหลักประกอบด้วย:
-
- ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
- ออกแบบการวิจัยโดยกำหนดวิธีการเก็บข้อมูลเชิงลึก
- เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์หรือสังเกต
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยการตีความและการจัดหมวดหมู่
-
-
การวิจัยเชิงทดลอง
การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการทดสอบสมมติฐานโดยควบคุมตัวแปรต่างๆ เพื่อหาสาเหตุและผลกระทบ ตัวแปรอิสระจะถูกจัดการเพื่อดูผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรตาม ข้อดีคือสามารถสรุปเหตุและผลได้ชัดเจน ข้อเสียคือต้องควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเข้มงวด ซึ่งอาจไม่สะท้อนสภาพจริง
การวิจัยเชิงกรณีศึกษา
การวิจัยเชิงกรณีศึกษา (Case Study Research) เป็นการศึกษาลึกในกรณีเฉพาะเจาะจง เพื่อเข้าใจปรากฏการณ์หรือปัญหาอย่างละเอียด โดยใช้การสัมภาษณ์ สังเกต และวิเคราะห์เอกสาร ข้อดีคือได้ข้อมูลเชิงลึกและบริบท ข้อเสียคืออาจไม่สามารถสรุปผลทั่วไปไปยังกรณีอื่น ๆ ได้.
การวิจัยเชิงพัฒนา
การวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental Research) มุ่งเน้นการสร้างหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือโปรแกรม โดยทดลองและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ข้อดีคือช่วยปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อเสียคือต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก.
-
การวิจัยเชิงพยากรณ์
การวิจัยเชิงพยากรณ์ (Predictive Research) เป็นการใช้ข้อมูลและแบบจำลองเพื่อทำนายแนวโน้มหรือเหตุการณ์ในอนาคต โดยใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์หรือแนวโน้มที่มีอยู่เพื่อสร้างแบบจำลอง ซึ่งสามารถใช้ในการวางแผน การตัดสินใจ หรือการทำนายสิ่งต่าง ๆ ข้อดีคือช่วยในการลดความไม่แน่นอนในการตัดสินใจ แต่ข้อเสียคือการทำนายอาจมีความไม่แม่นยำเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด.
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) เป็นกระบวนการศึกษาที่ผู้วิจัยมีส่วนร่วมในการแก้ไขหรือปรับปรุงสถานการณ์หรือปัญหาในชุมชนหรือองค์กรจริง ๆ โดยการทำงานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยผลลัพธ์ที่ได้จะมีผลต่อการปรับปรุงหรือการพัฒนาที่เกี่ยวข้องในทางปฏิบัติ ข้อดีคือสามารถให้ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาได้โดยตรง และสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา แต่ข้อเสียคือการดำเนินการอาจใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นที่การวิจัยทั่วไป.
การวิจัยเชิงกรณีศึกษา
การวิจัยเชิงกรณีศึกษา (Case Study Research) เป็นกระบวนการศึกษาเชิงลึกในกรณีเฉพาะเจาะจง เพื่อเข้าใจปรากฏการณ์หรือปัญหาในบริบทของสถานการณ์จริง โดยใช้เครื่องมือเช่นการสัมภาษณ์ การสังเกต หรือการสำรวจเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยนี้จะช่วยให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่ศึกษา และช่วยให้สามารถนำความรู้ไปปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม ข้อดีคือเปิดโอกาสให้ทำความเข้าใจในรายละเอียดและบริบทของกรณีนั้น ๆ ข้อเสียคือข้อมูลที่ได้อาจไม่สามารถนำไปใช้กับกรณีอื่น ๆ ได้โดยตรง และอาจมีความจำกัดในเรื่องของความสามารถในการทำนายหรือสรุปผลในกรณีอื่น ๆ ได้.
-
-