Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Sepsis, 11 แบบแผนที่ผิดปกติ, การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ, ข้อมูลทั่วไป -…

- - - - โรคทางพันธุกรรม
      - การโดนรังสี
      - การใช้สารเคมี
      - การได้รับยาเคมีบำบัด
      - มีประวัติป่วยเป็นโรคเลือด
    - - ผู้ป่วยรายนี้มีประวัติเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
  - - - ไข้สูงและไข้ต่ำโดยไม่รู้สาเหตุ
      - อ่อนเพลีย
      - ซีด
      - เบื่ออาหาร
      - น้ำหนักลด
      - ปวดตามข้อ ปวดกระดูก
      - มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้ผู้ป่วยมีไข้ ติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่ายเพราะเม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต้านทานโรค
    - - รับประทานอาหารได้น้อย ซีด อ่อนเพลีย มีไข้สูงตลอดเวลา Plt.COUNT= 30000 cell/uL (L) RBC COUNT= 2.87 M/uL (L) Hb= 6.8 g/dl (L) Hct = 21.6% (L)
  - - - เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) ในไขกระดูกเมื่อเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นตัวอ่อน (Blast cell) เกิดขึ้นก็จะถูกส่่งเข้ากระแสเลือดสะสมในเนื้อเยื่อ สร้างเซลล์ตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาวจำนวนมากทำให้ไขกระดูกทำงานผิดปกติ เม็ดเลือดแดงและเกล็ด เลือดลดลง ทำให้มีภาวะซีด มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากมีเม็ดเลือดขาวต่ำ อาจมีเลือดออกง่ายจากเกล็ดเลือดต่ำ
    - - ในผู้ป่วยรายนี้ มีภาวะตัวซีด ปลายมือปลายเท้าซีด
        มีจุดเลือดตามตัว มีอาการปวดตามข้อ
        Cappillary Refill > 2 วินาที
        PTT = 32.4 วินาที (H)
        Plt Count = 20000 cell/uL
        INR = 1.04
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
        
        เกิดภาวะเลือดออกง่ายหยุดยากเนื่องจากการแข็งตัวของเลือดไม่มีประสิทธิภาพ
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        S : ผู้ป่วยมีอาการเลือดออกตามไรฟัน
        O : ตัวซีด ปลายมือปลายเท้าซีด มีจุดจ้ำเลือดตามตัว
        O : Capillrary Refill > 2 วินาที
        O : Plt.Count 20000 Cell/uL (L)
        O : INR 1.04
        O : PTT 32.4 วินาที
        
        จุดมุ่งหมายและเกณฑ์การประเมิน
        
        เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะเลือดออก
        เกณฑ์การประเมิน
        1.ผู้ป่วยไม่มีภาวะตัวซีด ปลายมือปลายเท้าไม่ซีด ไม่มีจุดจ้ำเลือดตาตัว
        2.Cappillary Refill < 2 วินาที
        3.PTT = 22.1-28.9 วินาที
        4.Plt Count = 160000-435000 cell/uL
        INR = 2-3.5
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        2 more items...
  - - - การรักษาเฉพาะประกอบด้วยขั้นตอนการให้ยาเคมีบำบัด 4 ระยะ
        
        การให้ยาเคมีสูตรบำบัดสูตร 7+3(ซึ่งประกอบด้วย cytarabine ขนาด 100-200 mg หยดยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันร่วมกับ idarubicin ขนาด 12 mg หรือ mitoxantrone 12 mg เป็นเวลา 3 วัน)
        
        2.การให้ cytarabine ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
        
        3.การให้ hypomethylating agent
        
        4.การรักษาประคับประคองเพียงอย่างเดียวร่วมกับให้ hydroxyurea
    - - การรักษาผู้ป่วยรายนี้ได้รับการให้ยา hydroxyurea (500) 1 เม็ดแบบรับประทานทางปาก ก่อนอาหารวันละ 1 ครั้ง เวลา 09:00 น.
  - - - 1.การวินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะและรูปร่างของเซลล์ (morphological diagnosis) อาศัยการดูสเมียร์เลือดหรือไขกระดูก
      - 2.การวินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะทางเคมีของเซลล์ (Cytochemical diagnosis)
      - 3.การวินิจฉัยโดยอาศัย Immunophenotyping ตรวจโดยใช้เครื่องโฟลซัยมิเตอร์(flow cytometer)
      - 4.การตรวจโครโมโซม (Cytogenetic/Chromosome testing)การตรวจนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในปัจจุบัน เนื่องจากใช้จำแนกประเภทของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยอาศัยผลการตรวจโครโมโซม
      - 5.การตรวจอนูพันธุศาสตร์(Molecular genetics testing) สามารถบ่งบอกพยากรณ์โรคได้ละเอียดเพิ่มขึ้น
    - - ในผู้ป่วยรายนี้ไม่พบการตรวจ
  - - - มะเร็งเม็ดเลือดขาวอาจส่งผลให้อวัยวะที่ได้รับผลกระทบหรือเซลล์มะเร็งแพร่ผ่านทำงานผิดปกติ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ระบบทางเดินอาหาร ไต หากเซลล์มะเร็งแพร่ไปยังระบบประสาท ผู้ป่วยอาจมีคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศรีษะ สับสน สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ และมีอาการชัก
    - - ในผู้ป่วยรายนี้มีอาการปวดศรีษะ สับสน พูดวนไปวนมา
  - - - มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (Acute leukemia) เกิดจากการเพิ่มจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ไขกระดูกไม่สามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่ปกติได้ มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันมักเกิดกับเด็ก โดยผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายในไม่กี่เดือน
      - มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง (Chronic leukemia) เกิดจากการที่ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่ผิดปกติออกมาเป็นจำนวนมากกว่าเซลล์เม็ดเลือดที่ปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีเซลล์เม็ดเลือดที่ผิดปกติในร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยปกติแล้วมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน มักจะเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ในหลาย ๆ ช่วงอายุ
- - - - 1.Temperature > 38 c Or < 36 c
      - Heart rate > 90 beats/min
      - PR > 20 beast/min
      - WBC>12000 Or < 4000
- - - - 1.อาการที่เกิดจาก inflamation เช่น หายใจเร็ว ไข้ หนาวสั่น มือเท้าอุ่นแดง Fever chills and rigors
      - 2.อาการที่เกิดจากอวัยวะเสื่อมหน้าที่จากภาวะ Sepsis เช่น ซึม สับสน หายใจเร็ว มีจุดเลือดออกตามตัวหรือเลือดออกผิดปกติ
      - 3.อาการที่เกิดจาก hypoperfusion เช่น หมดแรง หายใจสับสน ซึมลง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะออกน้อย
    - - 3.อาการแสดงที่เกิดจากกลไกของ Sepsis
        
        3.2กลุ่ม hyperinflammation ตรวจพบไข้ หายใจเร็ว ความดันเลือดต่ำ อาจพบ Wide pulse pressure หลังจากได้รับสารน้ำจนพอร่วมกับอาการแสดงจาก organ perfusion ที่ลดลงเช่น ซึม หายใจเร็ว ตรวจพบ petechiae หรือ bleeding tendency
        
        3.1กลุ่ม hypoinflammation ตรวจไม่พบไข้ อาจมีอุณภูมิร่างกายต่ำและซึมลง
      - 2.อาการแสดงที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ลักษณะการอักเสบ การเสียโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะจากการติดเชื้อ เช่น ตรวจพบปอดอักเสบ หายใจเร็ว ตรวจพบ bronchial beath sound หรือฟังได้เสียง crepitation และ Wheeze
      - 1.อาการแสดงที่เกิดจาก hypoperfusion เช่นความดันเลือดต่ำ หายใจเร็วจาก metabolic acidosis บวม ระดับความรู้สติน้อย
  - - - ข้อวินิจฉัย มีการติดเชื้อในกระเเสเลือดเนื่องจากภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        s: ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัว เหนื่อย หนาวสั่น
        O:T = 38.9 c
        O: WBC COUNT = 20670 Cell/UL (H)
        -Neutrophil = 17.7 % (L)
        -Lymphocyte= 1.7 % (N)
        
        จุดมุ่งหมาย
        1.เพื่อให้ผู้ป่วยไม่เกิดการติดเชื้อในกระเเสเลือด
        เกณฑ์การประเมิน
        1.ผู้ป่วยไม่บ่นเหนื่อย หนาวสั่น ปวดหัว
        2.T=36.5-37.4 c
        3.O2 sat =≥ 99 %
        
        WBC = 4400-11300 Cell/UL
        Neutrophil = 40.0-73.1 %
        Lymphocyte = 18.7-48.3 %
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.ติดตามอาการเเละอาการเเสดงของอาการติดเชื้อในกรเเสเลือด เช่น มีไข้ หนาวสั่น ซึมอ่อนเพลีย หายใจเร็ว หายใจหอบเหนื่อย ไอมีเสมหะเยอะ
        2.ดูเเละการเช็ดตัวลดไข้เมื่อมีไข้สูง
        3.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการอยู่ห้องแยกโรคไม่อยู่รวมกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคอื่นๆ จำกัดปริมาณญาติที่เข้ามาเยี่ยม
        4.ดูแลจัดสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบเตียงให้สะอาด
        5.ดูแล Hygiene care ของผู้ป่วย ความสะอาดของร่างกาย ตัดเล็บมือและเท้าให้สั้น สระผม ทำความสะอาดหลังขับถ่าย
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่สุกสะอาด ไม่รับประทานอาหารนอกโรงพยาบาล
        7.ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังทำหัตถการกับผู้ป่วย
        8.ดูเเลให้ยา paracetamol 500 mg 1 tab prn q 6 hr
        9.ดูเเลให้ยา meropenam 1 q 8 hr ตามเเผนการรักษา
        ของเเพทย์เเละติดตามอาการเเละอาการเเสดงหลังได้รับยาเช่น คลื่นไส้ อาเจียนท้องเสีย
        10.ดูแลให้ยา G-CSF ตาม ตามแผนการรักษาของแพทย์และติดตามอาการและอาการแสดงหลังได้รับยา
        
        11.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
        
        เหตุผลการพยาบาล
        1.เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการพยาบาลได้ทันท่วงที
        2.เพื่อให้ระดับอุณหภูมิร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        3.เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื่อจากโรคอื่นๆเพิ่มมากขึ้น
        4.เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการสะสมของเชื้อโรค
        5.เพื่อลดการสะสมเชื้อโรคในร่างกาย
        6.เพื่อให้ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรับประทานอาหาร
        7.เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคไปสู่ผู้ป่วย
        8.เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาเมื่อมีอาการปวด
        9.เพื่อป้องกันการติดเชื้อเเบคทีเรียในร่างกาย
        10.เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น
        11.เพื่อติดตามอาการเเละอาการเเสดงที่เปลี่ยนเเปลงของผู้ป่วย
- - - - ตรวจเอกซเรย์
      - อัลตราซาวน์
      - เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เห็นความผิดปกติของอวัยวะที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อ
  - - - การตรวจ Specimen Urine : ผลคือ NO SIGNIFICANT BACTERIA แปลผลคือ ไม่พบแบคทีเรียในปัสสาวะ
      - การตรวจเลือด