Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษา หญิงตั้งครรภ์อายุ 33 ปี G3P2A0 GA 40+1 wks by U/S :,…

- - - - อุจจาระ วันละ 1ครั้ง
  - - - 2)ความเชื่อในระยะคลอด
      - 1)ความต้องการการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและสิ่งยึดเหนี่ยวในระยะคลอด
- - - - S: หญิงตั้งครรภ์ให้ข้อมูลว่า "ปวดหลังบ่อย ๆ เวลานั่งนาน"
      - O: Pain score 6 คะแนน
      - O: GA 40+3 wks by U/S
    - - อยู่ในท่าที่เหมาะสม เช่น ขณะนั่งควรมีหมอนรองรับความโค้งบริเวณบั้นเอว ควรนอนท่าตะแดงและใช้หมอนหนุนรองที่ใต้ข้อเข่า ท้อง และคอ ควรตะแดงตัวแล้วใช้มือหรือข้อศอกยันตัวก่อน ลุกขึ้นหรือล้มตัวลงนอน
      - ไม่ยกของหนัก และหากจำเป็นต้องยกของ ให้ย่อเข่าแล้วใช้กล้ามเนื้อต้นขาทั้งสองข้างดันตัวขึ้นยืน ห้ามเกร็งกล้ามเนื้อท้องและหลัง หรือก้มหลังยกของเด็ดขาด
      - นอนบนฟูกหรือที่นอนที่ไม่อ่อนนุ่มจนเกินไป
      - เลือกรองเท้าส้นเตี้ยที่สวมสบาย
      - ออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง โดยยืนเอาหลังแนบฝาผนังจะ ช่วยป้องกันและผ่อนคลายอาการปวดหลัง
      - ให้ผู้ใกล้ชิด เช่น สามีช่วยนวดบริเวณหลังจะช่วยผ่อนคลายได้
      - หากมีอาการปวดร้าวไปที่แก้มก้นและขาให้บีบนวดที่ก้น ถ้า อาการไม่ดีขึ้นให้ยืนจับพนักเก้าอี้แล้วแกว่งขาไปมาด้านข้างเฉียง 45 องศาหลายๆ ครั้งทุกวัน และถ้าไม่ดีขึ้นหรือปวดมากควร ปรึกษาคุณหมอ
    - - มีอาการปวดหลังลดลง
    - - ไม่มีอาการปวดหลัง
      - ไม่มีสีหน้าคิ้วขมวดเวลาเคลื่อนไหวบริเวณส่วนหลัง
      - 3.คะแนนนความปวดอยู่ในระดับป้องกันอาการปวดหลังได้เกณฑ์ปกติ 3-5 คะแนน
  - - - S: หญิงตั้งครรภ์ให้ข้อมูลว่า "มีอาการปวดตะคริวช่วงกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง"
      - O: GA 40+3 wks by U/S
    - - อธิบายถึงสาเหตุของการเกิดตะคริวขณะตั้งครรภ์ในไตรมาสที่3
        
        1.1 ท้องจะมีขนาดโตขยายมากขึ้น มดลูกจะไปกดทับตรงตำแหน่งของอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้ กล้ามเนื้อบริเวณน่องขาดออกซิเจน ทำให้เกิดเป็นตะคริวขึ้นมา
        
        1.2 ขณะตั้งครรภ์ร่างกายของหญิงตั้งครรภ์มีฟอสเฟตมาก เกินไปเลือดที่คั่งบริเวณน่องจะมีภาวะเป็นกรดมาก ทำให้แคลเซียมในเลือดต่ำลง
        
        1.3 เกิดจากการขาดแคลเซียม ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาส สุดท้ายทารกในครรภ์จะดึง แคลเซียมจากแม่ไปใช้ในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน ทำให้แม่ขาดแคลเซียมและเป็นตะคริว
        
        1.4 เกิดจากการที่เอ็น และกล้ามเนื้อไม่ได้มีการยึดตัวบ่อย ๆ ทำให้มีการหดรั้งเกร็งได้ง่ายเมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อนั้นมากเกินไป
      - แนะนำวิธีปฏิบัติตัวขณะเป็นตะคริว โดยใช้วิธี Calf Stretch คือ การเหยียดขาตรง กดหัวเข่าให้ข้อพับแนบกับพื้นและกระดกปลายเท้าเข้าหาลำตัวให้มากที่สุดจนน่องตึง เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
      - แนะนำเวลานอนหาหมอน หรือผ้าห่มหนาๆ มารองเท้าและน่องให้สูงขึ้นกว่าระดับตัวเล็กน้อยจะช่วยให้ การไหลเวียนของเลือดจากบริเวณกล้ามเนื้อน่องเข้าสู่หัวใจได้ดี
      - แนะนำให้รับประทานอาหารจำพวกที่มีแคลเซียมมาก เช่น ไข่แดง ตับ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว
      - หลีกเลี่ยงการวางท่าทางไม่ถูกต้อง เช่น นั่งไขว่ห้าง หรือยืนนาน เพราะจะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไม่ดี
    - - อาการตะคริวลดลง
    - - ไม่มีอาการตะคริวบริ เวณน่องช่วงกลางดึกและหัวรุ่ง
      - สามารถอธิบายการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการตะคริวได้ร้อยละ 80
  - - - S: หญิงตั้งครรภ์ให้ข้อมูลว่า "ปัสสาวะบ่อยขึ้นจากเดิม 7 ครั้งต่อวัน"
      - O: GA 40+3 wks by U/S
    - - 1.แนะนำให้บริโภคน้ำ นม น้ำผลไม้หรือซุป ในเวลากลางวันและบริโภคลดลงในเวลากลางคืน หรือก่อนนอน เพื่อลดการลุกไป ปัสสาวะบ่อย
      - ลดปริมาณน้ำดื่มก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง และถ่ายปัสสาวะก่อนเข้านอน เพื่อลดปริมาณในกระเพาะปะสสาวะ
      - บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณเชิง กรานแข็งแรงขึ้นและป้องกันการเล็ดของน้ำปัสสาวะ โดยการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานวันละ 3กรอบ โดยการขมิบคล้ายกับการกลั้น ปัสสาวะ ขมิบค้างไว้ 10 วินาที แล้วคลายออก ทำแบบนี้ให้ครบ 15 ครั้ง (15 ครั้ง นับเป็น 1 รอบ)
      - 4.แนะนำให้ผู้รับบริการไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะอาจ ทำให้เกิด การติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะได้ง่าย และอาจจะนำไปสู่การติดเชื้อที่ช่องคลอด
      - ถ้ามีอาการปวดถ่ายปัสสาวะ หรือถ่ายปัสสาวะแสบขัดให้ ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที
    - - อาการปัสสาวะบ่อย
        ลดลง
    - - หญิงตั้งครรภ์ สามารถบอกวิธีปฏิบัติตัวได้เหมาะสมเมื่อมีอาการปวดปัสสาวะร้อยละ 80
  - - - 1.แนะนำหญิงตั้งครรภ์เกี่ยวกับการป้องกันภาวะไม่สุขสบายในช่วงไตรมาสที่ 3
        
        1.1 อาการเหนื่อยง่าย
        
        แก้ไขโดย ลดการทำงานหรือกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยเกินกำลัง, ฝึกผ่อนคลายความเครียด โดยการฝึกการหายใจ
        
        1.2 อาการปวดหลัง
        
        แก้ไขโดย หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก ขณะทำงานไม่ควรก้มหรือเอียงในท่าที่ทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวมากนาน ๆ, เวลาทำงานไม่ควรนั่งนานเกินไป ควรลุกเดินบ้าง, ควรยืน/นั่งในท่าหลังตรง
        
        1.3 อาการท้องผูก
        
        แก้ไขโดย รับประทานอาหารที่มีกากใย, ควรดื่มน้ำอุ่นในเวลาเช้า และดื่มอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน, ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา
        
        1.4 อาการนอนไม่หลับ
        
        แก้ไขโดย อาบน้ำอุ่น หรือเครื่องดื่มอุ่นๆ จะช่วยให้หลับสบายขึ้น, ให้ฝึกสมาธิก่อนนอน โดยเพ่งความสนใจไปที ่ลมหายใจเข้า - ออกยาวๆ ลึกๆ
      - แนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจมีอาหารทุกประเภท ในหนึ่งมื้อ หรือประเภทใดประเภทหนึ่งสลับกัน ต้องรับประทานให้ได้ ครบทุกประเภทของอาหาร ไม่ควรได้รับมากเกินไป เพราะในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายไม่ต้องการอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลเพิ่มขึ้น ต้องการเฉพาะโปรตีนเพิ่มขึ้น
      - แนะนำให้รับประทานอาหารจำพวกธาตุเหล็กมีในไข่แดง ตับ ผักใบ เขียว ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้มีมากพอที่จะลำเลียงออกซิเจน จากเลือดแม่ไปสู่ลูก และแคลเซียม เช่น ปลาเล็ก นมพร่อมมันเนย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในการสร้างกระดูกและฟันของลูก
      - แนะนำให้การดูแลเต้านม ในระยะ 2-3 เดือนก่อนคลอด ร่างกายจะ ขับสารจำพวกไขมันมาคลุมบริเวณหัวนมและลานนม ดังนั้น ในการ อาบน้ำชำระร่างกาย ไม่ควรฟอกสบู่บริเวณหัวนมมากนัก เพราะจะชะ ล้างไขมันบริเวณนั้นออกไปหมด ทำให้หัวนมแห้งและแตกง่าย
      - แนะนำให้สวมเสื้อผ้าหลวมหลวม หรือใส่กางเกงสำหรับหญิงตั้งครรภ์ชนิดมีพุงหน้าท้อง เพื่อให้รู้สึกสบาย ไม่อึดอัด
      - .แนะนำให้ออกกำลังกาย เพราะเป็นประโยชน์ต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ร่างกายแข็งแรง และระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี แต่ควรออกกำลังกายที ่ไม่หักโหมหรือใช้ความอดทนมากเกินไป เช่น เดินวันละ 10-20 นาที
      - แนะนำให้สังเกตความผิดปกติที่ต้องมาตรวจตามนัดหมาย เช่น น้ำหนักลด เป็นไข้ เป็นหวัด จุกแน่นท้อง การดิ้นของเด็ก น้ำเดิน
      - แนะนำใหญิงตั้งครรภ์สังเกตการณ์ดิ้นของทารก โดยการนับลูกดิ้น หลังรับประทานอาหาร 3 มื้อ ภายใน 1 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหารทารกต้องด้นอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือ มากกว่า 10 ครั้งต่อวัน
      - แนะนำให้มารดาตรวจครรภ์ตามนัด เพื่อประเมินและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่คาดว่าน่าจะเกิดขณะตั้งครรภ
    - - O: GA 40+3 wks by U/S
    - - เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ได้ถูกต้อง
    - - หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่ 3
      - 2.หญิงตั้งครรภ์สามารถอธิบายการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในขณะตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 ได้ถูกต้องร้อยละ 80

ใบหูทั้งสองข้างได้ยินชัดเจนปกติ ใบหูสะอาด กดไม่เจ็บ ไม่มี discharge ไหลออกจากใบหูทั้งสองข้าง คลำไม่พบก้อนบริเวณใบหูทั้งสองข้าง

- รูปร่างทรวงอกปกติ ทรวงอกสมมาตรกันทั้งสองข้าง การเคลื่อนไหวของทรวงอกสัมพันธ์กับการหายใจ อัตราการหายใจ 20 bpm

- อัตราการเต้นของหัวใจสม่ำเสมอ 92 bpm

หน้าท้องมีลักษณะกลมโต พบเส้นสีน้ำตาลผ่านสะดือกลางท้อง ไม่พบรอยแตกลายบริเวณหน้าท้อง ไม่พบรอยโรค จากการตรวจครรภ์ทางหน้าท้องโดยการคลำ พบระดับยอดมดลูก ¾ เหนือสะดือ ยาว 38 เซนติเมตร ท่า OL, Head Engagement , FHR = 142 ครั้ง/นาที ทารกในครรภ์ดิ้นดี, พบหน้าท้องหย่อน (pendulous abdomen)

ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ทำตามคำสั่งได้ ให้ความร่วมมือในการซักประวัติเป็นอย่างดี ตรวจเส้นประสาท 12 คู่ ปกติ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีลักษณะของตาพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อน และไม่มีสายตาสั้น สายตายาว การได้ยินชัดเจน ไม่มีหูหนวกหูตึง จมูกสามารถรับกลิ่นได้ดี การรับรถได้ตามปกติ (เปรี้ยว หวาน มันเค็ม ขม) ผิวหนังรับความรู้สึกร้อนเย็นได้ตามปกติ รับรู้ถึงความรู้สึกปวดได้