Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Cancer cervix (มะเร็งปากมดลูก), อ้างอิง จาริญญ์ จินดาประเสริฐ (2562).…

- - - - ในกรณีศึกษามีสาเหตุมาจากมีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่บกพร่องร่วมกับการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ
        และรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
- - - - ผู้ป่วยอยู่ในระยะ lllb เนื่องจากผล CAWT พบว่า มีภาวะไตข้างซ้ายบวมน้ำเล็กน้อย และมีการกระจายไปยังผนังด้านข้างของอุ้งเชิงกราน
- - - - ผู้ป่วยอยู่ในระยะลุกลามไปเนื้อเยื่อข้างมดลูกและปากมดลูก และผรังด้านข้างอุ้มเชิงกราน และมีภาวะท่อไตข้างซ้ายบวมน้ำเล็กน้อย
- - - - ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากเคมีบำบัด
    - - ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีอาการสับสนหรือซึมลง
        
        ไม่มีอาการแน่นจุกอก
        
        ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดศีรษะ
        
        WBC=5000-10000 cells/uL.
        
        Hct มากกว่า 30%, Hb=12-15g/dl.
    - - ประเมินอาการและอาการแสดงของอาการแพ้ยา (Anaphylactic reaction)
        
        วัดสัญญาณชีพและประเมินสภาวะจิตใจของผู้ป่วยก่อนให้ยา
        
        วัดสัญญาณชีพหลังให้ยาทุก 15 นาทีจนกว่าจะคงที่
        
        ประมินอาการและสังเกตอาการแสดงภาวะการแพ้ยาได้แก่ ผื่นคัน จุกแน่นคอ และหายใจหอบถี่
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะมีการรัวซึมของยาเคมีบำบัดชนิดที่ทำให้มีอาการปวด เนื้อเยื่ออักเสบเป็นแผลพุพองบริเวณที่ฉีดยา ทำให้เกิดเนื้อตาย (Extravasation of vesicant drugs)โดยสังกตอาการบวม แดง การรั่วซึม อาการเจ็บและการอักเสบบริเวณให้ยาเคมีบำบัดทุก 30 นาที เมื่อมีอาการวัวซึมของยาต้องหยุดให้ยาทันทีแล้วพยายามดูดเอายาหรือเลือดออกมาเท่าที่จะทำได้ หากเป็นยากลุ่ม Plant alkalold รั่วซึม ให้ประคบน้ำอุ่น 15-20 นาที วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หากเป็นยากลุ่ม Anthaoyglhe รั่วซึม ให้ประคบเย็น 15-20 นาที ทุก 3-4 ชั่วโมง เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมงไม่ควรใช้ยาทางเส้นเลือดเดิมเกิน 24 ชั่วโมง ให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับอาการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดบริเวณตำแหน่งที่ให้ยา และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมกับปัสสาวะเป็นเลือด(Hemorrhagic cystitis) ได้แก่ ปัสสาวะไม่ออกปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะราด และปัสสาวะเป็นเลือด
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะไขกระดูกถูกกด (Bone marrow depressicn)โดยติดตามผล Lab: WBC, REC และ Platelet count
        
        อาจเกิดแผลในช่องปาก จากผลข้างเคียงของยา แนะนำให้ใช้แปรงขนอ่อนหรือไม้พันสำลีในการทำความสะอาดช่องปาก, บ้วนปากด้วย NSS 4-6 ครั้งต่อวัน
        9.ให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับอาการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การรู้สึกตัว ภาวะอ่อนเพลีย ชักเกร็งคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ท้องเสีย เป็นต้น
        
        แนะนำผู้ป่วยให้ปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอต่อวัน
  - - - ไม่มีการติดเชื้อในร่างกาย
    - - อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียล
        
        WBC สูงกว่า 10,000 cell/cu.mm
        
        ไม่มีการติดเชื้อของผิวหนัง ได้แก่ มีแผลอักเสบเป็นหนองที่ผิวหนัง ผลจากการเพาะเชื้อที่แผลพบแบคทีเรีย
        
        ไม่มีการติดเชื้อของทางเดินหายใจ ได้แก่ มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ ฟังเสียงปอดมีเสียงเสมหะหรือน้ำในปอด ผลการเพาะเชื้อเสมหะพบแบคทีเรีย
        
        ไม่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ หนาวสั่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะมีตะกอนขุ่น พบ WBCในปัสสาวะจำนวนมาก
    - - บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง และสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อในร่างกาย
        
        ดูแลความสะอาดของปากฟัน โดยเฉพาะหลังอาหารและก่อนนอน เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจและการเกิดแผลในปาก
        
        จัดสภาพแวดล้อมตัวผู้ป่วยให้สะอาด เช่น เตียง ที่นอน ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน รวมทั้งดูแลของใช้ให้สะอาดและมีเท่าที่จำเป็น
        
        กระตุ้นให้ผู้ป่วยลุกนั่งและเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อป้องกันการอักเสบของปอดจากการนอนนาน
        
        ทำความสะอาดบริเวณผีเย็บ (Perineum) หลังการขับถ่ายปัสสาวะทุกครั้ง ดูแลอย่าให้เปียกชื้นและหมักหมม
        
        ไม่อยู่ใกล้ผู้ที่เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้อทางเดินหายใจ แนะนำการป้องกันการติดเชื้อให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
        
        แนะนำให้รับประทานอาหารที่สะอาดสุกใหม่ๆและมีประโยชน์โดยเฉพาะอาหารโปรตีน ผักและผลไม้ ในปริมาณที่เพียงพอ
        
        ติดตามผลการตรวจหาจำนวนเม็ดเลือดขาว (WBC)การเพาะเชื้อในเลือด ปัสสาวะ