Flu

การรักษา

สาเหตุ

ข้อวินิจฉัย

การป้องกัน

การพยาบาล

อาการ

พยาธิสภาพ

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza, Flu) คือ โรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Influenza สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อไวรัส หลายท่านอาจคิดว่าไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ไม่อันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้วไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนหลังติดเชื้อหรือถึงแก่ชีวิตได้

click to edit

click to edit

ให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดไข้และยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำ ของเภสัชกรหรือสถานบริการทางการแพทย์ หรือคำสั่งของแพทย์ ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นพบเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ต้องรับประทานทานยาให้หมดตามที่แพทย์สั่ง เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา (ไม่ควรใช้น้ำเย็น)

ในการวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่ แพทย์มักพิจารณาได้จาก อาการที่แสดงและการตรวจร่างกายเป็นหลัก ในรายท่ีสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือสงสัยว่ามีการระบาด แพทย์อาจจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการ

ไวรัสไข้หวัดใหญ่เข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจ โดยเชื้อจะอยู่ในละอองฝอยในอากาศที่ออกมาจากการไอจามของผู้ป่วย เมื่อสูดหายใจเอาเชื้อเข้าไป เชื้อก็จะเข้าไปเพิ่มจำนวนอยู่ในเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ และทำให้เกิดอาการป่วยใน 18 ถึง 72 ชั่วโมง

การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่จะหายเอง หากมีอาการไม่มากอาจจะดูแลเองที่บ้านและรักษาตามอาการ เช่น เมื่อมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวและใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือถ้ามีน้ำมูกให้ใช้ยาลดน้ำมูกและยาละลายเสมหะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารอ่อน ๆ และนอนพักมาก ๆ ไม่ควรออกกำลังกาย

  1. ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียอย่างเฉียบพลัน
  1. เบื่ออาหาร คลื่นไส้
  1. ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
  1. ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะปวดตามแขน ขา ปวดข้อ ปวดรอบตา ปวดเมื่อยตามตัว
  1. ไข้สูง 39-40 องศา
  1. เจ็บคอ และคอแดง มีน้ำมูกใสๆ ไหล
  1. ไอแห้งๆ ตามตัวจะร้อนแดง ตาแดง
  1. อาเจียน หรือท้องเดิน เป็นไข้ 2-4 วัน แล้วค่อยๆ ลดลง แต่อาการคัดจมูกและแสบคอยังคงอยู่ โดยทั่วไปจะหายใน 1 สัปดาห์

ตรวจทางห้องปฏิบัติการในระยะไข้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการจะตรวจจาก

ในน้ำมูกหรือเสมหะ โดยตรวจหา แอนติเจน (antigen) ของเชื้อจากน้ำมูก หรือ

เสมหะโดยวิธี อีไลซ่า (Enzyme Linked Immuno Sorbance Assay, ELISA)

ตรวจ Viral RNA Amplification, ตรวจ serum ระยะ acute และ convalescent

จะช่วยยืนยันการวินิจฉัย

1หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ ทั้งผู้ที่ป่วยและไม่ป่วย

2ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น

3ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด หรือถ้าจำเป็นควรปิดปาก จมูกด้วยหน้ากากอนามัย

4รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นพวกผัก ผลไม้ นม ไข่ กินอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ และใช้ช้อนกลาง

5นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

6ดื่มน้ำสะอาด

7ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

8หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น

9 ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพิ่มเติมจากตารางฉีดวัคซีนตามปกติ แนะนำให้ฉีดกับคนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ คนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป หรือเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน – 19 ปี คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยที่จะต้องไปคลินิกหรือไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ ช่วงฤดูไข้หวัด ผู้ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล คนที่กินยาที่มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น