Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Respiratory system - Coggle Diagram
Respiratory system
3.2. Corticosteroids
Budesonide
กลุ่มยา : คอร์ติโคสเตียรอยด์
รูปแบบของยา :Nasal budesonide 200 mcg /dose สเปรย์พ่นจมูก
บัญชี ก (รายการยามาตรฐานที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เป็นยาที่ควรได้รับการเลือกใช้เป็นอันดับแรกตามข้อบ่งใช้ของยา)
Pregnancy Category : Category B (ยาไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีการศึกษาการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์)
ข้อบ่งใช้: ควบคุมโรค COPD และ Asthma รักษาโรคหอบหืดหลอดลม
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช
ยานี้ไม่มีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการหลอดลมหดเกร็งอย่างรวดเร็ว
ห้ามใช้ยานี้หากท่านมีอาการโพรงไซนัสอักเสบ เลือดออกในจมูก หรือได้รับการ
ผ่าตัดภายในจมูก
อาการไม่พึงประสงค์
อาการเจ็บจมูกอย่างรุนแรง มีเลือดออกในจมูกบ่อยๆ
อาการหายใจหวีดเนื่องจากหายใจขัด (wheezing)
Fluticasone propionate
รูปแบบ : สเปรย์พ่นจมูก 50 ไมโครกรัม (Fluticasone propionate) ต่อการพ่น 1 ครั้ง
กลุ่มยา : คอร์ติโคสเตียรอยด์
บัญชี ก (รายการยามาตรฐานที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เป็นยาที่ควรได้รับการเลือกใช้เป็นอันดับแรกตามข้อบ่งใช้ของยา)
Pregnancy Category : Category c (ยาไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีการศึกษาการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์)
ข้อบ่งใช้
ป้องกันหืดกำเริบจากโรคหืด
โรคริดสีดวงจมูก (Nasal polyp)
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)
Fluticasone propionate
รูปแบบ : Metered Dose Inhaler (MDI) เป็นยาพ่นสูดชนิดที่ใช้ก๊าซ
กลุ่มยา : คอร์ติโคสเตียรอยด์
Pregnancy Category : Category c (ยาไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีการศึกษาการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์)
บัญชี ค (รายการยาที่ต้องใช้ในโรคเฉพาะทางโดยผู้ชำนาญ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการของสถานพยาบาลนั้น ๆ)
ข้อบ่งใช้
ป้องกันหืดกำเริบจากโรคหืด
โรคริดสีดวงจมูก (Nasal polyp)
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)
ข้อควรระวัง
ไม่ควรใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการหืดกำเริบเฉียบพลัน
ผู้ป่วยโรคตับระดับรุนแรง
เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ผู้ป่วยต้อกระจก ต้อหิน
Budesonide + Formoterol
จัดอยู่ในกลุ่มยาควบคุมพิเศษ
รูปแบบ
ยาน้ำแขวนตะกอนสำหรับใช้กับเครื่องพ่นเนบูไลเซอร์ (nebulizer) ขนาด 0.5 และ 1 มิลลิกรัมต่อ 2 มิลลิลิตร
สูดพ่นทั้งชนิดใช้ก๊าซ (metered-dose inhaler (MDI)) และชนิดผงแห้ง ขนาด 100 และ 200 ไมโครกรัมต่อการพ่น 1 ครั้ง
บัญชี ค (รายการยาที่ต้องใช้ในโรคเฉพาะทางโดยผู้ชำนาญ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการของสถานพยาบาลนั้น ๆ)
ข้อบ่งใช้
โรคหืด (Asthma)
โรคไอครูป (Croup)
โรคริดสีดวงจมูก (Nasal polyp)
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)
อาการไม่พึงประสงค์
กลุ่มอาการคุชชิง (Cushing’s syndrome)
กดการทำงานของต่อมหมวกไต
ต้อกระจก ต้อหิน
Fluticasone propionate + Salmeterol
ชื่อยา : Salmeterol xinafoate 25 mcg + Fluticasone propionate 250 mcg Evohaler (MDI), 120 dose
บัญชี ค (รายการยาที่ต้องใช้ในโรคเฉพาะทางโดยผู้ชำนาญ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการของสถานพยาบาลนั้น ๆ)
รูปแบบ : เป็นยาพ่นสูดทางปาก รูปแบบ inhaler ปราศจาก Alcohol
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ควบคุมโรค COPD และ Asthma รักษาโรคหอบหืดหลอดลม
ขนาดยาแลวิธีการบริหารยา
ยาสูดพ่นชนิดฝอยละออง ใช้สูดพ่นทุกวัน วันละ 400 ไมโครกรัม โดยแบ่งพ่น 2 ครั้ง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจเพิ่มปริมาณยาได้ถึง 1.6 มิลลิกรัมต่อวัน การรักษาเพื่อคงอาการ ใช้สูดพ่นครั้งละ 200-400 ไมโครกรัม
3.3. Leukotriene receptor antagonists
Montelukast sodium
ใช้รักษาอาการของโรคหอบหืด รวมถึงอาการแพ้ที่เกิดในระบบหายใจ
รูปแบบของยาแผนปัจจุบันเป็นยาชนิดรับประทาน และตัวยาสามารถถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้ปานกลาง
แพทย์มักจะใช้ยานี้ร่วมกับยาพ่นชนิด Corticosteroids เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
ชนิดเคี้ยว/ chewable tab 4 mg ใช้ในเด็กอายุตั้งแต่ 2-5 ขวบ
ขนาดรับประทาน
ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป: รับประทาน 10 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง เวลาเย็น
เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ การใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
เด็กอายุ 2-5 ปี: รับประทาน 4 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง เวลาเย็น
เด็กอายุ 6-14 ปี: รับประทาน 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง เวลาเย็น
chewable tab
จัดอยู่ในประเภทยาอันตราย การใช้ยานี้ต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ห้ามมิให้ผู้ป่วยไปซื้อยามารับประทานเอง
เป็นกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบของร่างกายที่ไม่ใช่กลุ่มยาสเตียรอยด์ (Non-steroidal) ทางคลินิกจะใช้ยานี้ป้องกันภาวะหลอดลมหดเกร็งตัวและอาการหอบหืด โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ในลักษณะปิดกั้นกระบวนการชีวะเคมีในร่างกายที่ก่อให้เกิดการอักเสบ
ผลข้างเคียง
ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องอืด ปวดท้อง ปวดฟัน กระเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ตับอ่อนอักเสบ
ผลต่อระบบประสาท: เช่น ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน วิงเวียน ง่วงนอน มีไข้ นอนไม่หลับ เกิดอาการลมชัก
ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เกิดอาการไอ น้ำมูกคั่ง/น้ำมูกมาก
ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคันตามผิวหนัง ลมพิษ
ผลต่อระบบกล้ามเนื้อและกระดูก: เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นตะคริว
ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ชีพจร/หัวใจเต้นผิดจังหวะ ตัวบวม
ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น ก้าวร้าว กระสับกระส่าย ฝันแปลกๆ อารมณ์หงุดหงิดง่าย ประสาทหลอน
3.4. Antihistamines
กลไกการออกฤทธิ์เป็น inverse agonist ของตัวรับฮิสตามีนชนิด H1
บัญชี ก (รายการยามาตรฐานที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เป็นยาที่ควรได้รับการเลือกใช้เป็นอันดับแรกตามข้อบ่งใช้ของยา)
1.Brompheniramine (บรอมเฟนิรามีน)
รูปแบบยา
ยาเม็ด ขนาด 4 มิลลิกรัม
ยาน้ำเชื่อม (syrup) และ (elixir) )
ความเข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อ 5 มิลลิลิตร
ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 2-6 ปี ขนาด 1 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดคือ 4 มิลิลกรัมต่อวัน
ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 6-12 ปี ขนาด 2 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดคือ 12-16 มิลลิกรัมต่อวัน
ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุมากกว่า 12 ปี ขนาด 4 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดคือ 24 มิลลิกรัมต่อวัน ขนาดการใช้ยาเดียวกันกับในผู้ใหญ่
category C ตาม Pregnancy Safety Index
โรคที่เป็นข้อบ่งใช้ของยานี้ ได้แก่
อาการแพ้ จมูกอักเสบจากภูมิแพ้
ผื่นลมพิษ
คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine: CPM)
โรคที่เป็นข้อบ่งใช้ของยานี้ ได้แก่ ลมพิษ ผื่นคัน หวัดภูมิแพ้
ใช้บรรเทาอาการหวัด (ลดน้ำมูกใส ๆ) และอาการคัน
รูปแบบยา
ยาเม็ด ขนาด 2 และ 4 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาน้ำเชื่อม ขนาด 2 และ 2.5 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร (1 ช้อนชา)
ยาฉีด ขนาด 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
เด็กอายุ 2-12 ปี ให้รับประทานยาวันละ 0.35 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้วันละ 2-4 ครั้ง
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไป ให้รับประทานยาครั้งละ 1 เม็ด
วันละ 2-4 ครั้ง หรือทุก 4-6 ชั่วโมง
หรือฉีดครั้งละ ½-1 หลอด
เข้ากล้าม หรือเข้าหลอดเลือดดำ
ข้อควรระวังในการใช้ยาคลอเฟนิรามีน
ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่แพ้ยาคลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine) หรือยากลุ่มอัลไคลามีน (Alkylamine)
ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืดกำเริบ ทารกแรกเกิด และทารกที่คลอดก่อนกำหนด
ผู้ป่วยที่มีน้ำมูกเหนียวข้น หรือมีสีเหลือง/เขียว ไม่ควรใช้ยานี้
Diphenhydramine (ยาไดเฟนไฮดรามีน)
รูปแบบของยา
ชนิดกิน: แคปซูล ขนาด 25 มิลลิกรัม
ชนิดฉีด: สารละลายขนาด 50 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
เด็กอายุ 2-5 ปี ให้รับประทานยาครั้งละ 6.25 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 37.5 มิลลิกรัม)
ในผู้ใหญ่ให้ฉีดยาเข้ากล้ามหรือเข้าหลอดเลือดดำครั้งละ 10-50 มิลลิกรัมเมื่อมีอาการ
ให้รับประทานยาครั้งละ 25 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมงเมื่อมีอาการ
เด็กอายุ 6-11 ปี ให้รับประทานยาครั้งละ 12.5 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 75 มิลลิกรัม)
เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ให้รับประทานยาครั้งละ 25 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 150 มิลลิกรัม)
สรรพคุณของยาไดเฟนไฮดรามีน
ใช้เป็นยาแก้ภาวะแพ้รุนแรง
ใช้เป็นยาบรรเทาอาการคัน (Pruritus) อาการคันจากแมลงกัด
ใช้เป็นยาระงับอาการไอ (Cough) ที่มีสาเหตุมาจากการระคายคอ หรือทางเดินหายใจเล็กน้อย (เฉพาะสำหรับอาการไอแบบแห้ง ๆ
ใช้เป็นยาป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ] เมารถ เมาเรือ และอาการแพ้ท้องได้
ใช้แก้อาการลิ้นแข็ง ขากรรไกรแข็ง (Extrapyramidal syndrome – EPS) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยา
อาจนำมาใช้ในการลดอาการเกร็งและสั่นสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันได้
ใช้แก้อาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่เพียงพอ (Insomnia) ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
ข้อควรระวังในการใช้ยาไดเฟนไฮดรามีน
ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) และยากลุ่มเอทาโนลามีน (Ethanolamine) ตัวอื่น
ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีอาการหอบหืดกำเริบ
ห้ามใช้ยานี้กับทารกแรกเกิด ทารกคลอดก่อนกำหนด และหญิงให้นมบุตร
โดยทั่วไปยานี้จะใช้เฉพาะกับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปเท่านั้น ไม่ควรใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอาการไอมีเสลด เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หืด เป็นต้น เพราะอาจทำให้เสมหะหรือเสลดเหนียวและขับออกได้ยาก
Cetirizine hydrochloride
รูปแบบและส่วนประกอบของยา
เยาเม็ด ขนาด 10 มิลลิกรัม
ยาน้ำเชื่อม (syrup) ขนาด 5 มิลลิกรัม
ข้อควรระวังของการใช้ยา
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีอาการชัก หรือผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการชัก
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับและโรคไต
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยสูงอายุ
ระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
3.1. Bronchodilators
Adrenoceptor agonists
Procaterol hydrochloride
ชื่อการค้า : Meptin
บัญชี ข (รายการยามาตรฐานที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เป็นยาที่ควรได้รับการเลือกใช้เป็นอันดับแรกตามข้อบ่งใช้ของยา)
รูปแบบ : Tablet 50 mcg
กลุ่มยา : selective beta2 agonist
Pregnancy Category : C (ยังไม่มีการศึกษาแบบควบคุมที่ใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ )
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจาก
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ขนาดยา : Adult: As hydrochloride: 50 mcg once or bid.
ข้อบ่งใช้ : ยาที่ใช้รักษา หลอดลมหดเกร็ง ในผู้ป่วยหอบ หืด, chronic หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และ ถุงลมปอดโป่งพอง
เภสัชวิทยา : ยาขยายหลอดลมที่ออกฤทธิ์โดยกระตุ้น beta2-receptor มีผลให้เกิดการคลายตัว หรือลดการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบรอบทางเดินหายใจออกฤทธิ์ได้ยาวนาน โดยมีฤทธิ์ต้านการแพ้และต้านการอักเสบได้แรงกว่ายาตัวอื่นในกลุ่มเดียวกัน
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา
ผลต่อระบบหัวใจเมื่อได้รับในขนาดยาสูงๆ หัวใจได้ผลต่อ EKG เปลี่ยนแปลง ที่ ST- segment , T wave เพิ่มความดันโลหิต
ผลต่อระบบประสาท มีอาการสับสน มึนงง ปวดหัว สั่น ( tremor ) นอนไม่หลับ
Salbutamol sulfate
รูปแบบ
ยาน้ำ 2 mg./5 ml. ขนาด 60 ml.
ยาพ่น Salbutamol resp. solution 5 mg/ ml
ยาเม็ด 2 mg. / เม็ด
กลุ่มยา : Short acting beta2 agonist
Pregnancy Category : C (ยังไม่มีการศึกษาแบบควบคุมที่ใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ )
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อบ่งใช้ :ยาขยายหลอดลมสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบ หืด ถุงลมโป่งพอง
หลอดลมอักเสบเรื่อรัง COPD ( Chronic Obtructive Pulmonary Disease )
ขนาดยาที่ใช้
ยากิน
เด็ก 2-6 ปี: ให้ยาครั้งละ 0.1-0.2 mg/Kg วันละ 3 คร้ัง
เด็ก 6-12 ปี: ให้ยาคร้ังละ 2 mg วันละ 3-4 ครั้ง
ผู้ใหญ่:คร้ังละ 2-4 mg วันละ 3-4 คร้ัง
ผู้สูงอายุ: ครั้งละ 2 mg วันละ 2-4 คร้ัง
ยาพ่น nebulizer
exacerbation of asthma 0.15 mg / kg (minimum 2.5 mg) ทกุ 20 นาที3 dose จากนั้น ทุก 0.15-0.3 mg/kg (max. 10 mg / kg) ทกุ 1-4 ชั่วโมง
เภสัชวิทยา
กลไกการออกฤทธิ์โดยการจับกับ 2 adrenergic receptor เกิดการกระตุ้น adenyl cyclase เพิ่มการหลั่ง cyclic AMP ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมคลายตัว เป็นผลให้หลอดลมขยาย ซึ่งมีทั้งแบบชนิดกิน ฉีดและพ่นสูด
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้
ผู้ที่แพ้ยานี้หรือยาใกล้เคียงอื่นๆ
ระวังเป็นพิเศษในผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ , เบาหวาน , ความผิดปกติในระบบหลอดเลือดหัวใจ
อาการไม่พึงประสงคจ์ากการใช้ยา
หัวใจเต้นเร็ว , ใจสั่น , หัวใจเต้นแรง , คลื่นไส้หน้าแดง , กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ , มึนงง, ง่วงนอน , เป็นลม, อาเจียน , อ่อนเพลีย , แน่นหน้าอก, เบื่ออาหาร หลอดลมตีบตัว
Terbutaline sulfate
กลุ่มยา เบต้าอะโกนิสท์
รูปแบบของยา ยารับประทาน ยาฉีด ยาพ่น
ใช้รักษาและป้องกันภาวะหลอดลมหดตัวจากโรคหืด หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง หรือโรคที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก และหายใจมีเสียงหวีดในลำคอ
ยาจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจ บางกรณีอาจใช้ยานี้รักษาภาวะอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยบางราย เช่น สั่น เซื่องซึม เวียนศีรษะ วิตกกังวล นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปากแห้ง เหงื่อออก
Compound antimuscarinic bronchodilators
Ipratropium bromide + Fenoterol hydrobromide
รูปแบบ / ความแรง
Berodual metered-dose inhaler 200 puff/10 mL
Berodual เป็นยาสูตรผสม ประกอบด้วย Ipratropium bromide และ Fenoterol เป็นยาขยายหลอดลม
Berodual forte unit dose vial 4 mL
กลุ่มยา :ยาขยายหลอดลม
Pregnancy Category : C (ยังไม่มีการศึกษาแบบควบคุมที่ใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ )
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อบ่งใช้ : To prevention and treatment symptoms of COPD
ขนาดยา
Berodual metered dose inhaler: 1-2 puffs tid, up to a max of 8 puffs/day. -
Berodual Forte unit dose vial treatment of attacks 1 vial in severe cases: 2 vials, intermittent and long-term treatment 1 vial 4 times/days
เภสัชวิทยา
ipratropium bromide เป็นยาทมี่ ฤีทธ์ิเป็น anticholinergics ในขณะที่ fenoterol เป็น short-acting beta-2 –agonists
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานี้
อาการไม่พึงประสงคจ์ากการใช้ยา
มีอาการสั่นเล็กน้อยของกล้ามเนื้อโครงร่าง หงุดหงิด ใจสั่น เวียนศีรษะ หรือ
ปวดศีรษะ, ปากแห้ง, ระคายเคืองคอหรือเกิดอาการแพ้, ไอ
Tiotropium bromide
กลุ่มยา : ยากลุ่มแอนติโคลิเนอร์จิก (Anticholinergic)
รูปแบบของยา ยาสูดพ่น
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ปัจจุบันยาไทโอโทรเปียมยังไม่มีการระบุหมวดหมู่สำหรับการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์จึงควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงก่อนการใช้ยา เพราะตัวยาอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เช่นเดียวกับผู้ที่ต้องให้นมบุตรในขณะที่ใช้ยานี้ควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงต่อทารกก่อนให้นมบุตร
ยารักษาโรคปอด อย่างโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และช่วยป้องกันอาการหายใจมีเสียงหวีดและหายใจไม่อิ่ม
ตัวยาออกฤทธิ์ช่วยขยายกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น
ผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง เวียนศีรษะ มองเห็นเป็นภาพเบลอ ท้องผูก เจ็บขณะปัสสาวะ ท้องไส้ปั่นป่วน เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว และมีอาการหวัดอย่างมีน้ำมูกไหลหรือเจ็บคอ
Theophylline
Aminophylline
ชือยาทัวไป : Amitriptyline
ชื่อการค้า / ผู้ผลิต : Tripta , Amitriptyline , Triptyline / GPO
รูปแบบ / ความแรง Tablet ขนาด 10 mg , 25 mg
กลุ่มยา : Antidepressant (Tricyclic)
Pregnancy Category : C (ยังไม่มีการศึกษาแบบควบคุมที่ใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ )
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ในระยะแรกให้ทานในขนาดต่ำ และค่อย ๆ เพิ่มยาทีละน้อยทานยาวันละ 75 mg divided dose อาจเพิมขนาดยาให้สูงขึ้นได้ถึงวันละ 150 mg ให้ทานยาช่วงบ่าย หรือก่อนนอน เนื่องจากจะเกิดsedative effect ก่อนเกิดฤทธิ์ antidepressant effect การรักษาจะได้ผลสูงสุดประมาณ 30 วันหลังทานยา หรืออาจให้เริ่มรับประทานยาด้วยขนาด 50 -100 mg ก่อนนอน และเพิ่มครั้งละ 25 - 50 mg แต่ไม่เกิน 150 mg/วัน
Adolescent and elderly patient ทานยาครั้งละ 10 mg วันละ 3 ครั้ง และ 20 mg ก่อนนอน
Maintenance dose ทานยาวันละ 40 -100 mg อาจให้ทานยาครั้งเดียวก่อนนอน เมื่อผู้ป่วยมอาการดีขึ้น ให้ลดขนาดยาลงจนถึงระดับยาในขนาดต่ำสุดทีได้ผลในการรักษา และให้ยาต่ออีกเป็นเวลา 3 เดือน หรือให้ทานยาในขนาดต่ำเป็นเวลานานกว่าที่กำหนดทั้งนี้ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยที่กลับมาเป็นใหม่
เภสัชวิทยา
มีฤทธิ์เป็น anticholinergic และ sedative
ป้องกันการ re-uptake ของ Noradrenaline และ serotonin ที่ nerve terminal
เภสัชจลนศาสตร์
ยาดูดซึมได้ดีจากทางเดินอาหาร ยากระจายตัวได้ดี จับกับ plasma protein ได้ดี Half-life 9 - 25 ชม Peak plasma levels 6 ชม. หลังจากทานยา ระดับยาในพลาสมามีช่วงกว้าง และไม่สัมพันธ์กบการตอบสนองของยา
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้
ควรระมัดระวังในการใช้ในผู้ทีมีประวัติอาการชัก โรคตับ ต่อมลูกหมากโต ต้อหิน โรคหัวใจ คอพอกเป็นพิษ ผู้สูงอายุและเด็กอายุตํากวา 5 ปี
หลีกเลียงการใช้ยานี้ร่วมกับยานอนหลับ, ยากล่อมประสาท, ยาแก้แพ้ หรือแอลกอฮอล
อาจทําให้เกิดอาการแพ้ มีลมพิษ ผืนคัน
ถ้าใช้ร่วมกับยากลุ่มกระตุ้นประสาทซิมพาเทติก อาจทำให้ความดันสูง
อาจมีผลข้างเคียง เช่น ง่วงนอน ปากแห้ง ตาพร่ามัว ปัสสาวะลําบาก ท้องผูก คลืนไส้ อาเจียน
อาการไม่พึงประสงคจ์ากการใช้ยา
ปากแห้ง ท้องผูก ตาพร่ามัว เกิดการคังของน้ำปัสสาวะ ต้อหินชนิดมุมปิด และอาจทําให้เกิดความปกติเกี่ยวกับความจำ
Theophylline
ชื่อยาทั่วไป: Theophylline sustained-release
รูปแบบ / ความแรง Tablet 200 mg
กลุ่มยา : ยาในกลุ่ม xanthine derivatives
Pregnancy Category : C (ยังไม่มีการศึกษาแบบควบคุมที่ใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ )
ข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อบ่งใช้ : ยาขยายหลอดลม
ขนาดทใี่ ช้ยาตอ่ วนั
เมื่่อเริ่มต้นการใช้ยา ควรให้แบบ loading dose ซึ่งหากผู้ป่วยไม่ได้กินยามาภายใน 24 ชั่วโมง ให้ยา4 –6 mg/kg. หากกินยามาภายใน 24 ชั่วโมง ให้ยาขนาด 2 – 3 mg/kg. โดยทัวไปแล้วการให้ยา 1 mg/kg. จะทำให้ระดับยาในเลือดเพิ่มขึ้น 2 mg./l
เภสัชวิทยา : ออกฤทธิ์ผ่านกลไกยับยั้งเอนไซม์ phosphodiesterase (PDE) เป็นผลให้มีการ
เพิ่มระดับของ cAMP ทำให้หลอดลมขยายตัว
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้ : หัวใจเต้นผิดจังหวะไม่สามารถควบคมุได้ คอพอกเป็นพิษ โรคกระเพาะ
อาหาร ชักไม่ที่สามารถควบคมุได้ แพ้สารxanthines หรือส่วนประกอบอื่นในเม็ด
อาการไม่พึงประสงคจ์ากการใช้ยา
อาการข้างเคียง 1-10% คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นผิดจังหวะ กระสับกระส่าย
อาการพิษจากยา คลื่นไส้อาเจียน สั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เร็วผิดจังหวะ ชัก
การแก้ไข้อาการพิษ Charcoal ล้างท้องในรายที่รุนแรง แต่ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการชัก
สามารถให้ ipecac เพื่อกระตุ้นการ
3.6. Cough preparations
.
2. Expectorant and demulcent cough preparations
Glyceryl guaiacolate
กลุ่มยา
ยาขับเสมหะ
ข้อบ่งใช้
ใช้ยาขับและละลายเสมหะ
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานี้
อาการไม่พึงประสงคจ์ากการใช้ยา
ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ง่วง
บัญชียา ก
Ammonium carbonate and senega mixture
บัญชียา ก
กลไกการออกฤทธิ์
ขับเสมหะ และทำให้เกิดฤทธิ์บรรเทาอาการไอ
1. Cough suppressants
Opium and Glycyrrhiza Mixture Compound
บัญชียา ก
อาการไม่พึงประสงค์
ท้องผูก มึนงง ปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน
ข้อบ่งใช้
สำหรับรักษาอาการไอระคายคอ ไอแห้ง ๆ ที่ไม่มีเสมหะ
ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
ผู้ที่ไอมีเสลดเหนียวหรือไอจากโรคของทางเดินหายใจส่วนล่าง
ยานี้มีแอลกอฮอล์ผสม จึงควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง
ห้ามใช้ยาแก้ไอน้ำดำในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี คนชรา และหญิงตั้งครรภ์
codeine phosphate + glyceryl guaiacolate
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการไออย่างรุนแรง
เมื่อได้ใช้ยาบรรเทาอาการไอกลุ่มยาละลายหรือขับเสมหะแล้วไม่ได้ผล
ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
สตรีมีครรภ์ สตรีระยะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ
ภาวะการทำงานของตับหรือไตบกพร่อง
ภาวะการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์หรือต่อมหมวกไต
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะกดการหายใจ
ผู้ที่มีประวัติการติดยาหรือสารเสพติด
จัดอยู่ในประเภทยาเสพติดให้โทษให้โทษในประเภท 3
อาการไม่พึงประสงค์
สับสน ภาวะวิตกกังวล ชัก ง่วงซึม เวียนศีรษะ
หายใจลำบาก ท้องผูก รูม่านตาหด
ท่อไตหดเกร็ง
บัญชียา ค
Dextromethorphan hydrobromide
บัญชียา ก
ข้อควรระวัง / ข้อห้ามใช้
เมื่อมีอาการไอยังคงอยู่หลังจากใช้ยาแล้วนาน 7 วันหรือมีไข้สูง มีผื่น
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้ ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรังเช่น ไอจากการสูบ
ไม่ควรใช้ในกรณีไอมีเสมหะหรือในเด็กเล็ก < 6 ปี
รูปแบบ
ยาเม็ด 15 มิลลิกรัมต่อเม็ด
ข้อบ่งใช้
ระงับอาการไอ แก้ไอแห้งๆที่ไม่มีเสมหะ มีฤทธิ์กดอาการไอ
Squill and Ammonia Mixture
บัญชียา ก
ข้อบ่งใช้
อาจเสพติดและให้โทษได้ ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 7 วัน โปรดเขย่าขวดก่อนดื่ม
บรรเทาอาการไอรุนแรงและละลายเสมหะ ใช้กับอาการไอแบบมีเสลดเหนียว
ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยานี้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี คนชรา หญิงมีครรภ์ ต่อมลูกหมากโต
3.5. Pulmonary surfactants
Phospholipids
ชนิด Poractant alfa
อาการไม่พึงประสงค์
อาจเกิดภาวะหัวใจเต้นช้าชั่วคราวความอิ่มตัวของออกซิเจนลดลง
ความดันโลหิตต่ำ
อาจเกิดการอุดตันของท่อช่วยหายใจ
การหายใจที่ช้าลงหรือหยุดลง
กลไกการออกฤทธิ์
ชดเชยการขาดสารลดแรงตึงผิวและฟื้นฟูการทำงานของพื้นผิวให้กับเนื้อเยื่อปอด
ช่วยลดแรงตึงผิวที่ส่วนต่อประสานระหว่างอากาศและของเหลวของถุงลม
ข้อควรระวัง
อาการไม่พึงประสงค์ชั่วคราวที่เกี่ยวข้องกับการให้ยา
สรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร
บัญชียา ง
3.7. Systemic nasal decongestants
Pseudoephedrine hydrochloride
สรรพคุณ บรรเทาอาการคัดจมูก แน่นจมูก จมูกอุดตัน
Category C
คำเตือนของการใช้ยา Pseudoephedrine
ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินกว่า 7 วัน
ไม่ควรใช้ยาในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี
ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคต้อหิน หรือมีเนื้องอกต่อมหมวกไต (Phaeochromocytoma) โรคตับ โรคไต หรือภาวะต่อมลูกหมากโต ไม่ควรใช้ยาชนิดนี้
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา
ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา Pseudoephedrine ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ รวมถึงผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาทุกชนิดควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา
ปริมาณการใช้ยา
เด็กอายุ 4–6 ปี รับประทานยา 15 มิลลิกรัม ทุก 4–6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 60 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 6–12 ปี รับประทานยา 30 มิลลิกรัม ทุก 4–6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 120 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ รับประทานยา 60 มิลลิกรัม ทุก 4–6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 240 มิลลิกรัม
ปฏิกิริยาระหว่างยา Pseudoephedrine กับยาอื่น
ยารักษาภาวะความดันโลหิตสูง เช่น ยาเมทิลโดปา (Methyldopa)
ยารักษาโรคไมเกรนในกลุ่มเออร์กอต (Ergots) เช่น ยาเออร์โกตามีน (Ergotamine)
ยารักษาภาวะหัวใจวายกลุ่มคาร์ดิแอก ไกลโคไซด์ (Cardiac Glycoside) เช่น ยาไดจอกซิน (Digoxin)
ยารักษาอาการซึมเศร้ากลุ่ม MAOIs และกลุ่มไตรไซคลิก (Tricyclic Antidepressants: TCA) เช่น ยาฟูราโซลิโดน (Furazolidone) ยาอะมิทริปไทลีน (Amitriptyline)
กลุ่มยาแก้ปวด ยาแก้ไข้หวัด หรือยารักษาอาการคัดจมูกตัวอื่น
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น นอนไม่หลับ ไม่อยากอาหาร
3.8. Other respiratory preparations
Aromatic Ammonia Spirit
รูปแบบยา
ยาน้ำสารละลายชนิดสูดดมบรรจุขวด ขนาด 450 มิลลิลิตร
เป็นแท่ง/แอมพูล (Ampule) สำหรับสูดดม
ใช้ยาดังนี้
ผู้ใหญ่: ใช้สำลีชุบแอมโมเนียสปิริตเพียงเบาบาง กะระยะห่างจากจมูกผู้ป่วยประมาณ 4 นิ้ว หรือ 10 เซนติเมตร ค่อยๆให้ไอระเหยจากสำลีกระจายเข้าสู่ลมหายใจของผู้ที่เป็นลม ให้ดมยานี้จนกระทั่งผู้ป่วยค่อยฟื้นตัว
เด็ก: ขนาดการใช้ยากับเด็กขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ตัดสินใจโดยพิจารณาเป็นกรณีไป
เมื่อมีการสั่งยา ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้
ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแอมโมเนียสปิริตอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่/ใช้อยู่ก่อน
หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
ผลข้างเคียง
เช่น มีอาการไอ ท้องเสีย อึดอัด หายใจลำบาก ปวดศีรษะ และมีอาการอาเจียน