Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ชายไทย อายุ 29 ปี Dx.Schizoaffective (มีอาการทั้งของจิตเภทและอารมณ์แปร…

- - - - การตรวจสภาวะร่างกาย ชายไทย รูปร่างสมส่วน ผิวสีดหลือง แต่งกายด้วยชุดโรงพยาบาล สะอาดเรียบร้อย มีรอยสักที่ขาขวา หน้าอกและแผ่นหลัง
        
        ตรวจสภาพทางจิต มีสีหน้าหมกหมุ่น เรียบเฉย ดวงตาแข็งทื่อ Insight : No Insight ปฏิเสธอาการเจ็บป่วยทางจิต คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร และยอมรับการใช้สารเสพติดแต่คิดว่ามันไม่สามารถทำให้ถึงขั้นเจ็บป่วยได้
- - - - ผู้ป่วยใช้สารเสพติด ยาบ้า อาไอซ์ทุกวัน
        ดื่มเบียร์ เหล้าขาว 1 แป็ก
        สูบบุหรี่วันละ 20 มวน/วัน
        
        สารเสพติดมีฤทธิ์ไปเพิ่มการหลั่งสาร Dopamine ในสมอง
        
        Dopamine เป็นสารแห่งความสุข ความยินดี แรงกระตุ้น-แรงจูงใจ หากมากเกินไป จะหลงผิด มีปัญหาด้านการตัดสินใจ
        
        มีผลทำให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก้าวร้าวรุนแรง เคยขู่ทำร้ายบิดาและเผาบ้าน
        
        ทฤษฏีชีวภาพทางการแพทย์ กล่าวว่า Dopamine มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการประสานงานของกล้ามเนื้อและด้านอารมณ์ หากมีมากเกินไปจะสัมพันธ์กับการเกิดโรคจิตเภท
- - - - S:-
        O: ผู้ป่วยพูดน้อย ไม่อยากอยู่ใกล้ใคร แยกตัวอยู่ที่เตียง O: เวลาทำกิจกรรมกลุ่มไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในกลุ่ม จะนั่งเงียบๆ
        
        วัตถุประสงค์
        -ผู้ป่วยมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
        -ผู้ป่วยไว้วางใจผู้อื่น
        
        เกณฑ์การประเมิน
        1.สามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้ 4-5 คน
        2.ไม่แยกตัวอยู่คนเดียว
        
        กิจกรรมพยาบาล
        
        1.สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยเพื่อสร้างความไว้วางใจ 2.แจ้งความประสงค์ของการสร้างสัมพันธภาพเพื่อให้ผู้ป่วยทราบบทบาทของพยาบาลและของผู้ป่วงเอง ตลอดจนประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับ เพื่อเกิดความไว้วางใจ 3.สร้างสัมพันธภาพด้วยท่าทีเป็นมิตร สม่ำเสมอตรงตามเวลาที่นักหมายผู้ป่วยไว้
        4.ตอบคำถามผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการลังเลให้ผู้ป่วยเห็น และไม่ใช้คำพูดกระซิบ กระซาบ เพราะจะทำให้ไม่ไว้วางใจ
        5.บอกถึงผลดีของการมีเพื่อนและแนะนำให้ผูป่วยรู้จักผู้อื่นโดยเริ่มจากคนที่อย่ากรู้จัก
        6.ให้กำลังใจ ชมเชย เมื่อผู้ป่วยสามารถร่วมกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม
        7.ให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อผู้จักสร้าสัมพันธภาพกับผู้อื่น
        
        การประเมินผล
        
        1 more item...
  - - - O: แรกรับผู้ป่วยเอะอะ โวยวาย ก้าวร้าว
        O: Dx.schizoaffectiveO: มีแผนทำการรักษา ECT จำนวน 6 ครั้ง
        
        วัตถุประสงค์
        -เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากการรักษา Electroconvulsive therapy (ECT)
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ผู้ป่วยไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา Electroconvulsive therapy (ECT)
        
        กิจกรรมพยาบาล
        
        ก่อนทำ ECT
        1.งดน้ำงดอาหาร 6-8 ชม. และงดยา chlorpromazine มีผลต่อความจำ ลดจุดเริ่มต้นของการชักและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภางะเพ้อภายหลังการรักษาด้วยไฟฟ้า
        2.วัดสัญญาณชีพ ได้แก่ T 36.1-38 C, P 51-100/min, R 9-20 /min, SBP 101-180 mmHg
        3.ให้ผู้ป่วยปัสสาวะก่อนทำการรักษา เนื่องจากป้องกันปัสสาวะราด
        4.ให้ pre-medication ได้แก่ haloperidol 5 mg IM ก่อน ECT 10-20 นาที เพื่อให้ผู้ป่วยสงบ
        5.ประเมินความรู้สึกของผู้ป่วยและให้ความรู้การรักษาโดย Electroconvulsive therapy (ECT)
        ขณะทำ ECT
        1.จัดท่านอนหงายท่าตรงและรองใต้ต้นคอ
        2.ผู้ยึดผู้ป่วยแต่ยังไม่มัดไว้กับเตียงและเจ้าหน้าที่ช่วยจับผู้ป่วย เพื่อพยุงไม่ให้กระตุกรุนแรงขณะแพทย์ทำการรักษา
        3.ติด electrode ที่ขมับทั้ง 2 ข้าง และใส่ยางกันกัดเพื่อป้องกันการเกิดแผลในปาก
        4.จับคางและริมฝีปากด้านบนให้แน่นขณะชักเกร็งเพื่อระวังผู้ป่วยกัดลิ้น
        5.restrain ผู้ป่วยและยกไม้กั้นเตียงขึ้น เพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม
        หลังทำ ECT
        1.จัดท่านอนหนุนหมอนและตะแคงหน้าผู้ป่วยเพื่อป้องกันการสำลัก
        2.จำกัดพฤติกรรมไว้ที่เตียง
        3.วัดสัญญาณชีพ ได้แก่ P 60-100/min, R 16-24 /min, BP 90/60-140/90 mmHg
        4.orentation โดยถามวัน เวลา สถานที่
        5.ปล่อยการจำกัดพฤติกรรมเมื่อผู้ป่วยตื่นดี ไม่มีอาการมึนงง
        6.ประเมินอาการสภาพผู้ป่วยและภาวะแทรกซ้อนหลังทำ ECT-อาการสับสน มึนงง -ฟันหัก ฟันโยก ปากเป็นแผล ลิ้นเป็นแผล-ปวดศีรษะ-คลื่นไส้ อาเจียน-ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง
        
        ประเมินผล
        
        1 more item...
  - - - วัตถุประสงค์
        
        ผู้ป่วยมีความรู้ในการเจ็บป่วยของตนเอง
        
        ผู้ป่วยบอกวิธีปฏิบัติในการดูแลตนเองเมื่อกลับไปอยู่บ้านได้
        
        เกณฑ์การประเมิน
        1.ผู้ป่วยบอกว่าความรู้โรคได้
        2.บอกวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง เช่น รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง สังเกตอาการข้างเคียงถ้ามากให้มาพบแพทย์ ให้มาพบแพทย์ตามนัด
        
        กิจกรรมพยาบาล
        
        1.ประเมินความรู้และการรับรู้ในการเจ็บป่วย
        2.พยาบาลกระตุ้นให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก ความคิดเห็น ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยของตนเอง
        3.พยาบาลรับฟังผู้ป่วยด้วยความตั้งใจ เห็นใจไม่โต้แย้ง
        4.กระตุ้นให้ผู้ป่วยเล่าถึงอาการเจ็บป่วยของตนเอง พฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออกมาและให้ผู้ป่วยได้เปรียบเทียบกับพฤติกรรมของตนเอง
        5.ให้ความรู้เรื่องโรคจิตเภทโดยให้ดู VDO และอธิบายให้เข้าใจถึงอาการของโรค
        6.แนะนำการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
        -Risperidone อาการข้างเคียง ทำให้ง่วงนอน คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก ท้องอืด
        -QUEtiapine อาการข้างเคียง การทรงตัวไม่ดี มีอาการกระตุก สั่น
        -Halperidol อาการข้างเคียง คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ตามัว ง่วงนอน คอแข็ง
        -Chlolpromazine ปากคอแห้ง ท้องผูก สมรรถภาพทางเพศลดลง
        คำแนะนำ
        ถ้าหากมีอาการง่วงนอนให้หลีกเลี่ยงการขับรถ
        ถ้าหากมีอาการคอแห้ง ปากแห้ง ให้ดื่มน้ำมากๆ
        ถ้ามีอาการท้องผูก ให้รับประทานผัก ผลไม้ที่มีกากาใยมากๆ
        
        การประเมินผล
        
        18/12/66 ผู้ป่วยปฏิเสธอาการทางจิตและยังคงคิดว่าตนเองไม่ได้ป่วย แต่ยอมรับการใช้สารเสพติด
        19/12/66 ผู้ป่วยปฏิเสธอาการทางจิตและยังคงคิดว่าตนเองไม่ได้ป่วย แต่ยอมรับการใช้สารเสพติด
        20/12/66 ผู้ป่วยปฏิเสธอาการทางจิตและยังคงคิดว่าตนเองไม่ได้ป่วย แต่ยอมรับการใช้สารเสพติด
        21/1266 ผู้ป่วยปฏิเสธอาการทางจิตและยังคงคิดว่าตนเองไม่ได้ป่วย แต่ยอมรับการใช้สารเสพติด