Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค, image, image, image, พิณเพียะ, image, สะล้อ, image…
การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค
ภาคเหนือ
ลักษณะการแสดง
มีการผสมผสานกันระหว่างชนพื้นเมืองชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไทยลานนา ไทยใหญ่ เงี้ยว รวมถึงพวกพม่า ทำให้นาฏศิลป์หรือการแสดงที่เกิดขึ้นในภาคเหนือมีความหลากหลาย แต่ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แสดงถึงความนุ่มนวลของท่วงท่า และทำนองเพลงประกอบกับความไพเราะของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด สี ตี เป่า ที่มีความเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น พิณเพียะ สะล้อ ซึง และกลอง ที่ปรากฏอยู่ในการฟ้อนประเภทต่างๆ รวมทั้งการแสดงที่มีความเข้มแข็ง หนักแน่นในแบบฉบับของการตีกลองสะบัดชัย และการตบมะผาบ
มักเรียกว่า “ ฟ้อน “ มีลักษณะคล้ายระบำ คือมีผู้แสดงหลายคนเป็นชุดเป็นหมู่ ร่ายรำทำท่าเหมือนๆกัน แต่งกายเหมือนกัน มีการแปรแถวแปรขบวนต่างๆ แต่ที่ไม่เรียกว่าระบำ เพราะฟ้อนมีจังหวะและลีลาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนระบำหรือการแสดงอื่นๆ
แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ
- ลักษณะการฟ้อนแบบพื้นเมืองเดิม เป็นการแสดงที่มีอยู่ตามท้องถิ่นทั่วไป เช่น ฟ้อนครัวทาน ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน เป็นต้น
- ลักษณะการฟ้อนที่ได้รับอิทธิพลจากชาติอื่น อาทิ พม่า ไทยใหญ่ เงี้ยว เช่น ฟ้อนไต ฟ้อนโต ฟ้อนเงี้ยว เป็นต้น
- ลักษณะการฟ้อนแบบคุ้มหลวง เป็นการฟ้อนที่เกิดขึ้นในคุ้มของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ซึ่งมีลักษณะการฟ้อนของภาคกลางผสมอยู่ เช่น ฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตา ฟ้อนน้อยใจยา เป็นต้น
ตัวอย่างการแสดง
ฟ้อนเล็บ
เป็นการฟ้อนชนิดหนึ่งของชาวไทยในภาคเหนือ ผู้ฟ้อนจะสวมเล็บยาว ลีลาท่ารำของฟ้อนเล็บคล้ายกับฟ้อนเทียน ต่างกันที่ฟ้อนเทียนมือทั้งสองถือเทียน ตามแบบฉบับของการฟ้อน นางลมุล ยมะคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย ได้นำลีลาท่าฟ้อนอันเป็นแบบแผนมาจากคุ้มเจ้าหลวงมาฝึกสอน จัดเป็นชุดการแสดงที่น่าชมอีกชุดหนึ่ง
การแต่งกาย
นิยมใช้ผู้แสดงเป็นผู้หญิงล้วนๆ นุ่งซิ่นมีเชิงที่ชายผ้า สวมเสื้อแขนกระบอก มีสไบเจียรบาดพาดไหล่ห่มทับเสื้อ ผู้แสดงแต่งหน้าสดสวย ยังมีการเกล้าผมมุ่นมวยแล้วใช้ดอกไม้ห้อยเป็นอุบะระย้าข้างศีรษะ
ท่ารำ
แบ่งท่ารำออกเป็น ๔ ชุด
-
ชุดที่ 2 ประกอบด้วยท่า จีบหลัง ตระเวนเวหา รำกระบี่สี่ท่า พระรถโยนสาร ผาลาเพียงไหล่ บัวชูฝัก กังหันร่อน
-
-
-
-
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ตัวอย่างการแสดง
เซิ้งสวิง
เซิ้งสวิง เป็นการฟ้อนรำที่จำลอง หรือเล่าเรื่องราวการหาสัตว์น้ำของชาวบ้าน โดยใช้สวิงเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือ แสดงคู่ชาย-หญิง ก็ได้ หรือ แสดงเพียงผู้หญิงเท่านั้น ก็ได้
-
การฟ้อนภูไทเรณูนคร
การฟ้อนภูไทเรณูนคร เป็นการฟ้อนประเพณีที่มีมาแต่บรรพบุรุษ ที่สร้างบ้านแปลงเมือง การฟ้อนภูไทนี้ถือว่าเป็นศิลปะเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมประจำเผ่าของภูไทเรณูนคร ลักษณะการฟ้อนภูไทเรณูนคร ชายหญิงจับคู่เป็นคู่ ๆ แล้วฟ้อนท่าต่าง ๆ ให้เข้ากับจังหวะดนตรี โดยฟ้อนรำเป็นวงกลม แล้วแต่ละคู่จะเข้าไปฟ้อนกลางวงเป็นการโชว์ลีลาท่าฟ้อน
-
ศิลปินผู้ทรงคุณค่า
นายชาตรี เสงี่ยมวงศ์
-
ประวัติการศึกษาและทำงาน
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนการช่างขอนแก่น ระดับอุดมศึกษาระดับปริญาตรี หลักสูตรนิ เทศศาสตรบััณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิริาชก่อนเข้ารับราชการ ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่่อบรมและฝึกวิชาชีพ หน่วยงานเรือนจำกลางขอนแก่น และย้ายสังกัดไปเป็นอาจารย์ ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๔
ความสามารถพิเศษ
ด้านการเล่นดนตรี
ตั้งวงดนตรีพื้นเมืองอีสานชื่อวงพินเทวากับเพื่อน ๆ โดยเป็นผู้้เล่นแคน และเคยเล่นดนตรีประกอบให้้แก่ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงหมอลำพื้นบ้านหลายคน
งานเขียน
เขียนบทความด้านศิลปะดนตรีในนิติยสารหลายฉบับก่อนจะหันมาสนใจการเขียนกาพย์กลอนแบบลาวอีสานและมุ่งมั่นฝึกฝนนานกว่า ๑๐ ปี จนมีีผลงานเชิงประจักษ์ ดังกล่าว ท่านได้รับการคัดเลือกให้้เป็นประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสานคนที่่ ๙ ที่่ผ่านมาเคยได้รับรางวัลมากมาย
-
ลักษณะการแสดง
แบ่งเป็น 2 ลักษณะ
1. กลุ่มอีสานเหนือ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของลาว ซึ่งมักเรียกการละเล่นว่า “เซิ้ง ฟ้อน และหมอลำ” เช่น เซิ้งกระติบข้าว เซิ้งโปงลาง เป็นต้น ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านประกอบด้วย แคน พิณ ซอ กลองยาวอีสาน โปงลาง โหวด ฉิ่ง ฉาบ เป็นต้น
2. กลุ่มอีสานใต้ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของเขมร มีการละเล่นที่เรียกว่า “เรือม หรือ เร็อม” เช่น เรือมอันเร รำกระโหนบติงต็อง รำอาไย วงดนตรีที่ใช้บรรเลงคือวงมโหรีอีสานใต้ มีเครื่องดนตรี เช่น ซอด้วง ซอตรัวเอก กลองกันตรึม พิณ ระนาดเอกไม้ และเครื่องประกอบจังหวะ การแต่งกายประกอบการแสดงแต่งแบบวัฒนธรรมของพื้นบ้านอีสาน มีลักษณะลีลาท่ารำและท่วงทำนองดนตรีในการแสดงค่อนข้างกระชับ กระฉับกระเฉง รวดเร็ว และสนุกสนาน
-
-
ภาคกลาง
ประวัติความเป็นมา
ภาคกลางมีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำหลายสายเหมาะแก่การกสิกรรม ทำนา ทำสวน และเป็นศูนย์รวมของศิลปวัฒนธรรม การแสดงจึงออกมาในรูปแบบของขนบธรรมเนียมประเพณี และการประกอบอาชีพ
-
-
-
ตัวอย่างการแสดง
ระบำชาวนา
-
ฉาก อุปกรณ์
เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำนาตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงการเกี่ยวข้าว
อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ เมล็ดข้าว เคียวเกี่ยวข้าว รวงข้าง กระด้ง เป็นต้น
การแต่งกาย
แต่งชุดม่อฮ่อมเพราะเป็นชุดที่เรียบง่าย ไม่หรูหรา เป็นชุดพื้นบ้าน ที่เห็นแล้วทำให้รู้ได้เลยว่าการแสดงชุดนี้ต้องเกี่ยวกับการทำนา
ดนตรีที่ใช้ประกอบ
ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีมีจังหวะที่สนุกสนาน
เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และให้หายเหนื่อยจากการทำนา
ท่าทางสื่อความหมาย
ท่ารำเป็นท่าที่สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนา เป็นขั้นตอนการทำนาตั้งแต่เริ่มหว่านข้าว ไถนา เกี่ยวข้าว ฝัดข้าว เป็นต้น
ประวัติความเป็นมา
เป็นระบำชุดหนึ่งที่กรมศิลปกรมอบให้ ครูมนตรี ตราโมท ผู้เชี่ยวชาญดนตรีไทยและศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้แต่งทำนองเพลง และท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทยและศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ประดิษฐ์ ลีลาท่ารำและทำนองเพลง สะท้อนให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพกสิกรรมของชาวนาผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติ
ภาคใต้
ลักษณะการเเสดงของภาคใต้
การเเสดงของภาคใต้มีลีลาท่ารำคล้ายกับการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าการฟ้อนรำ ซึ่งจะออกมาในลักษณะให้มีชีวิตชีวาเเละสนุกสนาน เช่น โนรา หนังตะลุง รองเง็ง ตารีกีปัส เป็นต้น
-
-
-
-
-
ศิลปินผู้ทรงคุณค่า
นครินทร์ ชาทอง
ประวัติส่วนตัว
-
บิดาชื่อนายแนม มารดาชื่อนางเคลื่อน มีพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดากัน ๔ คน ร่วมมารดาแต่ต่างบิดากัน ๕ คน
ผลงานวรรณกรรมหนังตะลุง การแสดงหนังตะลุง
รักษาธรรมเนียมการแสดงแบบโบราณ
ทุกเรื่องที่ใช้การแสดงสอดใส่แง่คิดและคติสอนใจสร้างความเข้าใจระหว่างทางราชการกับประชาชน
รวมเรื่องที่ใช้การแสดงตั้งเเต่เริ่มฝึกฝนจนถึงปัจจุบัน จำนวน110 เรื่อง
ผศ.ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์
ประวัติส่วนตัว
-
-
ประวัติการทำงาน : เข้ารับราชการครูสอนนักเรียนหลายโรงเรียน และโอนย้ายเข้ารับราชการในสถาบันราชภัฏสงขลาจนครั้งสุดท้ายลาออกมาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-