Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการเพาะเห็ด
3.ฟาร์มเห็ดอัจฉริยะ
นำระบบอิเล็กทรอนิกส์และการเชื่อมโยงการทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนเข้ามาควบคุมดูแลสภาวะแวดล้อมในโรงเพาะให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเห็ด
2.โรงเพาะเห็ด
จัดสภาวะแวดล้อมเลียนแบบธรรมชาติ โดยต้องคอยฉีดน้ำให้เห็ด เพื่อให้ได้อุณหภูมิและความชื้นเลียนแบบธรรมชาติ ในช่วงที่เห็ดแต่ละชนิดต้องการ
1.การเก็บเห็ดตามฤดูกาล
ต้องอาศัยปัจจัยความอุดมสมบูรณ์ของอาหารและความชื้นที่เหมาะสมที่ทำให้เห็ดเจริญเติบโต
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเตา
3.เตาอั้งโล่
-ได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน
-มีรูปทรงที่ทำให้ใช้งานสะดวกและสามารถเคลื่อนย้ายระหว่างการใช้งานได้
-ใช้ฟันเป็นเชื้อเพลิงซึ่งหาได้ง่ายในบางชุมชน
เกิดเขม่าควันใช้เวลานานในการก่อไฟ
4.เตาแก๊ส
-เมื่อมนุษย์คันพบวิธีการนำแก๊สมาใช้เป็นเชื้อเพลิง จึงมีการประดิษฐ์คิดค้นและพัฒนาเตาแก๊สให้ใช้งานได้สะดวก ราคาถูกลงและปลอดภัยมากขึ้น
-จุดติดง่ายและให้ความร้อนได้เร็วกว่าการก่อไฟ ปรับระดับความร้อนได้ตามที่ต้องการ
ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังและดูแลรักษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นประจำเพื่อป้องกันการรั่วไหลของแก๊ส
2.เตาฟืน
-มนุษย์รู้จักสังเกตว่าดินที่อยู่ใต้กองไฟเป็นเวลานาน จะมีความแข็งและละลายน้ำได้ยากกว่าดินโดยรอบ จึงนำดินมาปั้นขึ้นรูปรอบกองไฟ เพื่อไม่ให้ความร้อนกระจายโดยรอบ -สวยงามกว่าเตาก้อนเส้า
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างการใช้งาน
5.เตาไฟฟ้า
-เกิดจากการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อนโดยใช้ขดลวดนำไฟฟ้าที่อยู่ภายในเตา จึงไม่มีเปลวไฟ -มีความสวยงาม กะทัดรัด
-มักใช้ในคอนโดมิเนียมหรือหอพัก เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่อยู่อาศัย และกฎหมาย
ความร้อนที่ผิวเตาก่อให้เกิดอันตรายได้
1.เตาก้องเส้า
-ใช้ก้อนหินสามก้อนเพื่อให้สามารถตั้งภาชนะและมีช่องสำหรับใส่ไม้หรือฟืน
ไม่สามารถควบคุมความร้อน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างการใช้งาน
6.เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
สามารถสัมผัสผิวเตาได้โดยไม่เกิดความร้อนกับมือ
-เกิดจากการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เรื่องการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็ก ความร้อนจึงเกิดขึ้นที่ภาชนะเท่านั้น ไม่มีความร้อนบริเวณพื้นผิวของเตา ทำให้ปลอดภัยในการใช้งาน
-ทำความร้อนได้เร็ว ใช้ไฟน้อย
-ใช้งานง่าย สะดวก สวยงามกะทัดรัด
การเปลี่ยนแปลงของเครื่องซักผ้า
1.การใช้ไม้ตีผ้ากับก้อนหิน
ในอดีต ผู้คนจะนำเสื้อผ้าไปยังแหล่งน้ำใกล้ ๆ วางผ้าไว้บนก้อนหินแล้วใช้ไม้ตีผ้าหรือขยี้ผ้าด้วยมือ เพื่อขจัดคราบสกปรกออกมา ซึ่งต้องใช้แรงงานคนโดยที่ยังไม่มีการใช้ผงซักฟอกหรือสบู่ช่วยในการขจัดคราบสกปรก ทำให้เกิดความเมื่อยล้าและต้องนำผ้าไปซักที่แหล่งน้ำ
4.เครื่องซักผ้าแบบมีกลไก
จากนั้นมีการเพิ่มกลไกให้กับเครื่องซักผ้า ซึ่งกูลไกดังกล่าวช่วยในการปั่นผ้าและบีบผ้าให้แห้ง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการซักผ้า แต่ยังคงใช้แรงงานคนในการขับเคลื่อนกลไกและตักน้ำใส่เครื่องซักผ้า
7.เครื่องซักผ้าแบบถังเดียว
เมื่อมีการพัฒนาระบบกลไกให้สามารถทำงานได้ซับซ้อนขึ้นเครื่องซักผ้าจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโดยการรวมถังซักผ้าและถังปั่นแห้งอยู่ภายในตัวถังเดียวกัน รวมทั้งมีระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติในเครื่องซักผ้า
5.เครื่องซักผ้ามอเตอร์ไฟฟ้า
เมื่อมีการสร้างและพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้า จึงทำให้เครื่องซักผ้าเปลี่ยนจากการใช้แรงงานคนในการขับเคลื่อนไปเป็นการใช้มอเตอร์ ซึ่งช่วยลดการใช้แรงงานคนและลดระยะเวลาในการทำงาน แต่ยังคงใช้แรงงานคนในการควบคุมการทำงานการตักน้ำใส่เครื่องซักผ้า การทำให้ผ้าแห้ง
3.เครื่องซักผ้าแบบมีก้านโยก
จากกระดานซักผ้า ได้พัฒนาเป็นเครื่องซักผ้าแบบมีก้านโยกซึ่งยังคงใช้หลักการเดียวกับการซักผ้าด้วยมือ โดยใส่ผ้าลงไปที่ด้านล่างของกระบะบรรจุน้ำ จากนั้นนำก้อนหินใส่ลงไปในตะแกรงสี่เหลี่ยม แล้วโยกก้านโยกเพื่อให้ก้อนหินทำหน้าที่ขยี้ผ้าและขจัดคราบสกปรกออกจากผ้า ซึ่งยังคงใช้แรงงานคนเป็นหลัก แต่ช่วยลดระยะเวลาในการซักผ้าให้น้อยลง
8.เครื่องชักผ้าที่ใช้ระบบควบคุมซับซ้อนขึ้น
เครื่องซักผ้าได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความจุของถังชักให้ชักผ้าได้มากขึ้น มีโปรแกรมการซักที่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของเนื้อผ้า ส่วนประกอบของเครื่องซักผ้าใช้วัสดุที่เบาและแข็งแรง มีการออกแบบวิธีการใช้งาน รูปทรงและสีสันของเครื่องซักผ้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด
6.เครื่องซักผ้าแบบมีท่อปั๊มน้ำและถังปั่นแห้ง
ต่อมาได้มีการสร้างท่อปั๊มน้ำเข้าสู่เครื่องซักผ้าและสร้างถังปั่นแห้ง ซึ่งช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังคงต้องใช้แรงงานคนย้ายผ้าจากถังซักไปยังถังปั่นแห้ง นอกจากนี้เครื่องซักผ้ายังมีขนาดใหญ่แต่จุผ้าได้น้อย
2.กระดานซักผ้า
ต่อมามีการคิดค้นกระดานซักผ้าโดยเลียนแบบการซักผ้าด้วยมือกระดานซักผ้าจะมีลักษณะเป็นลูกคลื่นเพื่อช่วยผ่อนแรงในการขจัดคราบสกปรกโดยการขยี้ผ้าและรองรับน้ำหนักของผ้า แม้จะลดเวลาในการซักผ้าลงและช่วยแก้ไขข้อจำกัดเกี่ยวกับสถานที่ซักผ้าได้ แต่ยังคงใช้แรงงานคนในการซักผ้าเหมือนเดิม