Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ดนตรีตะวันตก, 7.ยุคศตวรรษที่20(Contemporary Period) - Coggle Diagram
ดนตรีตะวันตก
1.ยุคกลาง(Middle Ages)
ช่วงศตวรรษที่5-15 (ราว ค.ศ. 450-1400)
อีกชื่อคือ ยุคเมดิอีวัล (Medieval Period)
ดนตรีในยุดนี้ คือvocal polyphonyคือ เป็นเพลงร้องโดยมีแนวทำนองหลายแนวสอดประสานกัน
พัฒนามาจากเพลงสวด (Chant)
เป็นเพลงแบบมีทำนองเดียว (Monophony)
ในระยะแรกของยุคเป็นดนตรีที่ไม่มีอัตราจังหวะ (Non metrical)
ใชอัตราจังหวะ 3⁄4 ต่อมาในศตวรรษที่14
อัตราจังหวะ2/4 เพลงร้องพบไดทั่วไป
รูปแบบของเพลงเป็นแบบล้อทำนอง(Canon)
นักดนตรีที่ควรรู้จักคือ มาโซท์และแลนดินี
3.ยุคบาโรค (Baroque Period)
ช่วงศตวรรษที่17-18 (ราว ค.ศ. 1600-1750)
ช่วงต้นยุค มีการใช้ลักษณะการใส่เสียงประสาน (Homophony)
การใช้เสียงเมเจอร์ และไมเนอร์ แทนการใช้โหมดต่างๆ
การประสานเสียงมีหลักเกณฑเ์ป็นระบบ
การใช้เสียงหลัก(Tonal canter)
การใช้ลักษณะของเสียงเกี่ยวกับความดังค่อย มากกว่าการใช้ลักษณะค่อยๆ ดังขึ้นหรือค่อยๆลง (Crescendo, diminuendo)
นิยมเล่นดนตรีผสมกับการเล่นเดี่ยวของกลุ่ม เครื่องดนตรี2-3 ชิ้น(Concerto grosso)
นักดนตรีที่ควรรู้จัก คือ มอนเมแวร์ดี คอเรลลี วิวัลดีบาค ฮันเดล
2.ยุครีเนซองค์(Renaissance Period)
ช่วงคริสตศ์ตวรรษที่15-16 (ราว ค.ศ. 1450-1600)
การสอดประสําน(Polyphony)เป็นลักษณะของเพลงในยุค นี่้โดยมีการล้อกันของแนวทํานองเดียวกัน (Imitative style)
ลักษณะของบันไดเสียง
แบบโหมด(Modes)
ไม่นิยมแบบบันไดเสียง(Scales)
เกิดจากแนวทำนองแต่ละแนวสอดประสานกัน ไม่ได้ใช้คุณสมบัติจากคอร์ด
ลักษณะของจังหวะของเพลง
มีอัตราจังหวะ
ไม่มีอัตราจังหวะ
ลักษณะของเสียง
ความดังค่อย
นักดนตรีที่ควรรู้จัก คือ จอสกิน-เดอส์ เพรซ์ ปาเลสตรินา และเบิร์ด
4.ยุคคลาสสิค (Classical period)
ยุคที่ดนตรีมีกฎเกณฑแ์บบแผน
ช่วงศตวรรษที่18 และช่วงตน้ศตวรรษที่19 (ค.ศ. 1750-1825)
การใส่เสียงประสานเป็นลักษณะเด่นของยุค
การเดี่ยวดนตรีของผู้เล่นเพียงคนเดียว( Concerto)เป็นลักษณะที่นิยมในยุค
เพลงเดี่ยว(Sonata) เป็นการเล่นครื่องดนตรีชนิดต่างๆมาเล่นำร้อมกัน
นักดนตรีที่ควรรู้จกัในยุคนี้ คือ กลุค ไฮเดิน โมทซาร์ท และเบโธเฟน
5.ยุคโรแมนติด(Romantic period)
ช่วงคริสตศ์ตวรรษที่19 (ราว ค.ศ. 1825-1900)
ลักษณะเด่นของดนตรีในยุค
เป็นการเล่นดนตรีที่สื่อถึงความรู้สึกของผู้แต่งเป็นอย่างมาก
มีการพัฒนาและคิดค้นหลักใหม่ๆ เพื่อเป็นการสื่อสารแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของผู้ประพันธ์เพลง
วงออร์เคสตร้ามีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าในยุคคลาสสิค
นักดนตรีที่ควรรู้จักในยุค นี้มีเป็นจำนวนมาก เช่น เบโธเฟน ชูเบิร์ต โชแปง และอื่นๆเป็นต้น
6.ยุคอิมเพรสชั่นนิสติค (Impressionistic Period หรือImpressionism)
ช่วงระหวา่งค.ศ. 1890 – 1910
ลักษณะสำคัญของเพลงยุคนี้ คือ การใช้บันไดเสียงแบบเสียงเต็ม
บทเพลงมีลักษณะลึกลับ คลุมเครือไม่กระจ่าง
ชัด
การประสานเสียงไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์
นักดนตรีที่ควรรู้จัก คือ เดอบูสซี ราเวล และเดลิอุส
ดนตรีนั้นการพัฒนาและเปลี่ยแปลงไปตลอด และนั้นก็ให้เกิดเป็นลักษณะของดนตรีในแต่ละยุค
7.ยุคศตวรรษที่20(Contemporary Period)
อยู่ในยุคศตวรรษที่20
เป็นการเอาหลักการเก่าๆ มากพัฒนาเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้เข้ากับแนวความคิดในยุคปัจจุบัน
วงดนตรีเป็นวงเล็กแบบเชมเบอร์มิวสิก
ไม่นิยมวงออร์เคสตรา
โครงสร้างของเพลงในศตวรรษที่20 มีหลากหลายมาก
นักดนตรีที่ควรรู้จกัในยุคนี้ คือ สตราวนิ สกี โชนเบิร์ก บาร์ตอก เบอร์ก