Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดและทฤษฎีทางการพยาบาล, การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม , 📚แนวคิดหรือหลักการส…
แนวคิดและทฤษฎีทางการพยาบาล
แนวคิดการพยาบาลแบบองค์รวม (Holistic Care)
📚ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
ทฤษฎีการพยาบาลไนติงเกล
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ฟลอเรนซ์ไนติงเกล เริ่มชีวิตการเป็นพยาบาลในสงครามโครเมียร์ ที่เมืองไคช์เวิร์ธ ประเทศเยอรมัน เมื่อสงครามยุติจึงกลับประเทศอังกฤษทำงานโรงพยาบาลเซนต์โทมัส ที่กรุงลอนดอนและเปิดเป็นโรงเรียนพยาบาลไนติงเกล มิสฟลอเรนซ์
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
เน้นส่ิงแวดล้อมที่เป็นสถานการณ์และแรงผลักภายนอก ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตและพัฒนาการของบุคคล และการจัดหาส่ิงแวดล้อมเชิงคุณภาพให้บุคคลเดื้อตอบสนองความต้องการพื้นฐานและส่งเสริมให้เกิดการฟื้นหาย
มโนมติหลักทางการพยาบาล
สุขภาพ : ความสามารถดำรงภาวะสุขภาพดีด้วยพลังอำนาจของบุคคล
บุคคล : สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับบุคคล ทำให้มีศักยภาพในการซ่อมแซมสุขภาพ และสามารถฟื้นคืนสภาพได้
การพยาบาล : การจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดเอื้ออำนวยต่อกระบวนการหายจากความเจ็บป่วย
สิ่งแวดล้อม : สถานการณ์และแรงผลักภายนอกที่มีผลโดยตรงต่อชีวิตและพัฒนาการของบุคคล
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
-จัดหาอาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
-ย้ายผู้ป่วยไปห้องอื่น เพื่อความแปลกใหม่ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพยาบาล
จุดเน้นของทฤษฎี
สิ่งแวดล้อมทั้งที่เป็นสถานการณ์ภายนอกและแรงผลักดัน ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตและพัฒนาการของบุคคล
แนวคิดการพยาบาลแบบเอื้ออาทร
ทฤษฎีการพยาบาลเพนเดอร์
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ (Pender’s Health Promotion Model) มีฐานความคิดมาจากทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Albert Bandura ซึ่งสนใจในกระบวนการเรียนรู้ในการเปลี่ยนพฤติกรรม และ จากทฤษฎี Fishbein’s theory ซึ่งเป็นทฤษฎีการกระทำอย่างมีเหตุผลและบรรทัดฐานสังคม จากที่ท่านมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ การทดลองด้านจิตวิทยา จึงทำให้มีการนำจิตวิทยาสังคม และทฤษฎีการเรียนรู้มาเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎี
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
การประเมิน สำรวจพฤติกรรมสุขภาพของบุคคลเช่น การจัดระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ เช่น กำหนดให้ทุกที่สามารถออกกำลังกายได้ การจัดค่ายอาหารสำหรับป้องกันโรคอ้วนในเด็ก
หลักการสำคัญของทฤษฎี
การป้องกันและคงไว้ ซึ่งสุขภาพของสาธารณชน หรือความเป็นอยู่ที่ดีนั้น บุคคลต้องได้รับการส่งเสริมให้มีพฤติกรรมต่อสุขภาพ
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
ลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ของบุคคลที่มีผลต่อการปฏิบัติพฤติกรรม
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยส่วนบุคคล
ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม
การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม
การรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรม
การรับรู้ความสามารถของตนเอง
ความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรม
อิทธิพลระหว่างบุคคล
อิทธิพลจากสถานการณ์
ผลลัพธ์ด้านพฤติกรรม
ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพฤติกรรม
ความจำเป็นและทางเลือกอื่นที่เกิดขึ้น
ข้อตกลงเบื้องต้นของทฤษฎี
บุคคลจะสร้างเงื่อนไขของการดำรงอยู่
บุคคลมีความสามารถสะท้อนการตระหนักรู้
บุคคลมองเห็นคุณค่าของการเติบโต
บุคคลหาวิธีการที่จะทำให้พฤติกรรมดำเนินไปอย่างดี
บุคคลมีความซับซ้อนในลักษณะร่างกาย อารมณ์ สังคม
บุคลากรทางสุขภาพ
การปรับเปลี่ยนมุมมองต่อตนเองระหว่างบุคคลกับสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีการพยาบาล TTM (Transtheoretical model) :
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
โมเดลการปรับเปลี่ยนถูกพัฒนาในช่วง ต้นปี ค.ศ. 1980 เป็นโมเดลที่อธิบายความตั้งใจหรือความพร้อมของบุคคลที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง โดยเน้นที่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการตัดสินใจ (decisional making) ของบุคคลผู้นั้น ในช่วงแรกถูกพัฒนาขึ้น เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในผู้ติดเหล้าและบุหรี่ ต่อมาได้ใช้อธิบายพฤติกรรมการป้องกันโรคและการประยุกต์ใช้ในด้านบริการทางการแพทย์
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
การสร้างแรงจูงใจให้บุคคลมีความตั้งใจจะปฏิบัติ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และส่งเสริมการคงอยู่ของพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของบุคคลไว้ได้
จุดเน้นของทฤษฎี
เน้นการสร้างแรงจูงใจให้บุคคลมีความตั้งใจจะปฏิบัติเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และส่งเสริมการคงอยู่ของพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของบุคคล
หลักการสำคัญของทฤษฎี
ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคล ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องไม่ใช่เพียงเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น
แนวคิดการพยาบาลแบบต่อเนื่อง
หลักการสำคัญของทฤษฎี
เป็นกระบวนการที่ช่วย ผู้ป่วยและคนให้ได้รับการเตรียมตัวในการออกจากการดูแลของแพทย์และทีมสุขภาพไปสู่การดูแลตนเองที่บ้าน
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
การส่งต่อ (Referral)
การวางแผนจำหน่าย (Discharge plan)
การบริการสุขภาพที่บ้าน (Home Health Care)
จุดเน้นของทฤษฎี
ใช้หลัก D METHOD
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
การส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลชุมชนไปรพ.สตเพื่อการดูแลต่อเนื่อง เมื่อผู้ป่วยอยู่บ้าน
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม (Transcultural Nursing)
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
การบริการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการใช้ยาและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
พื้นฐานมาจากความรู้ด้านวัฒนธรรมทางการพยาบาล ซึ่งเปรียบเทียบและวิเคราะห์วัฒนธรรมที่ต้องนำมาใช้ในการปฎิบัติการพยาบาล โดยมีความเชื่อ และคุณค่าแก่วัฒนธรรมว่ามีอิทธิพลต่อภาวะสุขภาพและการเจ็บป่วย
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
คน : บุคคลซึ่งดูแลตนเองได้
สิ่งแวดล้อม : มุมมองและโครงสร้างสังคม
ภาวะสุขภาพ : ภาวการณ์อยู่ดีมีสุข
การพยาบาล : เป็นศาสตร์และศิลปะของมนุษย์
หลักการสำคัญของทฤษฎี
เรียนรู้วัฒนธรรมของพยาบาลและวัฒนธรรมอื่นที่พยาบาลควรรู้
หลีกเลี่ยงความลำเอียงและไม่ยุติธรรม หรืออุปทานเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ประเมินมุมมองสภาวะที่ผู้รับบริการประสบอยู่
ทฤษฎีการพยาบาลโอเรม
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีการดูแลตนเอง (Theory of self-care) เป็นแนวคิดที่ค้นพบจากความเป็นจริงเกี่ยวกับการพยาบาล มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบาย กำหนดวิธีการพยาบาล เป็นทฤษฎีทางการพยาบาลที่รู้จักแพร่หลายในวิชาชีพพยาบาล และมีการนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติการพยาบาล เป็นพื้นฐานของการสร้างหลักสูตรในโรงพยาบาล และเป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยทางการพยาบาล
หลักการสำคัญของทฤษฎี
บุคคลจะเรียนรู้การกระทำทั้งต่อตนเอง และสิ่งแวดล้อม หรือสนองตอบความต้องการโดยการควบคุมปัจจัยที่ส่งเสริม หรือขัดขวางพัฒนาการของตนเองเพื่อสุขภาพ และการมีชีวิตอยู่ต่อไป
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล : มีความสามารถในการเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองและสามารถวางแผนระบบระเบียบ ในการปฏิบัติกิจกรรม เพื่อการดูแลตนเองได้
สิ่งแวดล้อม : สิ่งที่ไม่สามารถแยกจากบุคคลได้ เป็นสิ่งที่มีปฏิสัมพันธกับบุคคลตลอดเวลา
สิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ
เคมี
ชีวภาพ
สังคม
สุขภาพ : เป็นภาวะความสมบูรณ์ของโครงสร้างการทำหน้าที่ของกายและจิต
การพยาบาล : เป็นการกระทำที่มีเป้าหมายและจงใจช่วยเหลือบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตนเอง หรือผู้ที่อยู่ใต้ความรับผิดชอบอันเนื่องมากสุขภาพ
จุดเน้นของทฤษฎี
ความสามารถในการดูแลตนเอง มุ่งช่วยเหลือบุคคลที่มีความพร่องในการดูแลตนเอง ให้สามารถสนองความต้องการการดูแลตนเองได้เพียงพอ
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
แม้ผู้รับบริการสามารถทำกิจกรรมด้วยตัวเองได้ แต่พยาบาลต้องสนับสนุนการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ เช่น การใช้ยา การหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
ทฤษฎีการพยาบาลคิง
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีการบรรลุเป้าหมายของคิง (King’s theory of goal attainment) เป็นทฤษฎีที่มีฐานความคิดเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์ มาจากทัศนะการพยาบาลในรูปแบบการสนับสนุนและส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการ/ผู้รับบริการ
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
การดูแลผู้ป่วย โดยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลตนเอง พยาบาลมีบทบาทในการแนะนำ ส่งเสริม ให้ความรู้ คำปรึกษาและสร้างสัมพันธภาพ
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล (Person) : มีลักษณะเป็นองค์รวมที่มีความต้องการด้านชีวะ จิต และสังคม มนุษย์ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมบวกและลบ คิงเน้นถึงลักษณะเฉพาะบุคคล
สิ่งแวดล้อม (Environment) : บุคคลมีความสามารถในการนำพลังงานมาช่วยในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมภายนอกได้อย่างต่อเนื่อง
สุขภาพ (Health) : สภาวะที่ไม่อยู่นิ่งของชีวิต ตลอดช่วงชีวิต จะมีการปรับตัวต่อภาวะเครียด ต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอก เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด
การพยาบาล (Nursing) : เป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ของ พยาบาลและผู้ใช้บริการ โดยทั้งสองฝ่ายมีการสื่อสาร รับรู้สถานการณ์ มีการตั้งเป้าหมาย และกำหนด จุดมุ่งหมายของความสำเร็จร่วมกัน
หลักการสำคัญของทฤษฎี
ให้คนมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา และเจาะจงที่กระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล คือ พยาบาลกับผู้รับบริการ โดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การรับรู้ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล สังคม และการเจ็บป่วย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
จุดเน้นของทฤษฎี
เน้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสิ่งแวดล้อมและการตั้งเป้าหมายร่วมกันของพยาบาลและผู้ใช้บริการ เพื่อการดำรงไว้ ซึ่งสุขภาพที่ดี
ทฤษฎีการพยาบาลรอย
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
Sister Collista Roy จบการศึกษาปริญญาตรีทางการพยาบาลปี 1963 เริ่มชีวิตพยาบาลหลังจบการศึกษาที่วิทยาลัยเมรนท์ เซนต์แมรี่เมืองลอสแองเจลิสในแผนกเด็ก จบการศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกทางสังคมศาสตร์ในปี 1966 และ 1977 รอยได้พัฒนาแบบจำลองการปรับตัวขณะเรียนปริญญาโท ปี 1964
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
เมื่อบุคคลเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต จะมีการปรับตัวได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิ่งที่มากระทบและความสามารถของบุคคลในการปรับตัว
มโนทัศน์หลัก 4 ประการ
บุคคล : เป็นระบบการปรับตัวแบบองค์รวม เป็นระบบเปิด ประกอบด้วย Input, Output, Control process, Adaptation and Feedback process ซึ่งทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวและระบบบุคคลมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
สุขภาพ : สะท้อนความสำเร็จในการปรับตัว ส่งเสริมให้บุคคลมีความมั่นคงในชีวิต บ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่รอดการเจริญเติบโต การสืบทอดพันธุ์และการเอาชนะอุปสรรคต่างๆของบุคคล
สิ่งแวดล้อม : เหตุการณ์และปัจจัยต่างๆที่อยู่ล้อมรอบบุคคล และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาการดูแลพฤติกรรมของบุคคล
การพยาบาล : การส่งเสริมการปรับตัว 4 ด้านของบุคคล เพื่อให้มีสุขภาพดีสูงสุดคือความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
นำปัญหาการปรับตัวแต่ละด้านและสาเหตุมาวินิจฉัย หลังจากนั้นนำข้อวินิจฉัยทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เพื่อนำไปสู่การวางแผนและการให้พยาบาล
จุดเน้นของทฤษฎี
การประเมินการปรับตัวของบุคคลทั้งสี่ด้าน และวิเคราะห์สิ่งเร้าเพื่อส่งเสริมให้บุคคลสามารถปรับตัวเข้าสู่สมดุลได้ เพื่อตอบสนองในการดูแลสุขภาพและความเจ็บป่วย
ทฤษฎีการพยาบาลของวัตสัน
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีการดูแลมนุษย์ (Human Caring Theory) สร้างโดย ดร.จีน วัทสัน (Jean Watson) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1940 ที่สหรัฐอเมริกา ได้รับปริญญาตรีทางการพยาบาล และโททางการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช และเอกทางจิตวิทยาทางการศึกษา จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด (Colorado) มีประสบการณ์ทั้งในการปฏิบัติการพยาบาล เป็นอาจารย์พยาบาล นักวิจัย และเป็นผู้บริหารของคณะพยาบาลศาสตร์ ตลอดจนเป็นผู้ตั้งศูนย์การดูแลทางด้านการพยาบาล (Human Science Caring center) ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด และในปี ค.ศ. 1988 ทฤษฎีของวัทสันชื่อ “ ศาสตร์เกี่ยวกับมนุษย์และการดูแล ” (Human Science and Human Caring) ได้รับการตีพิมพ์เป็นตำราและใช้กันอย่างกว้าง จากประสบการณ์ทั้งการทำงานและงานเขียน มีอิทธิพลต่อการพัฒนาทฤษฎีการดูแลระหว่างบุคคล
จุดเน้นของทฤษฎี
ปัจจัยที่มีผลในการรักษา ซึ่งมาจากคุณธรรม จิตวิญญาณแห่งความเอื้ออาทรและความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
พยาบาลต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้ป่วย โดยการให้การเกื้อหนุนดูแล เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยอาศัยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
มโนทัศน์หลัก 4 ประการ
มนุษย์ : เป็นองค์รวม ประกอบด้วยร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ จิตวิญญาณเป็นแก่นตัวตน (Self) ของบุคคล เป็นแหล่งที่เกิดความตระหนักในตนเอง
สุขภาพ (Health) : เป็นภาวะที่มีดุลภาพและมีความกลมกลืนระหว่างร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ หรือมีความสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างตัวตนตามที่รับรู้ และตัวตนตามที่ประสบจริง
สิ่งแวดล้อม/สังคม (Environment/Society) : เป็นสิ่งแวดล้อมทั้งทางกายภาพ สังคม วัฒนธรรม และจิตวิญญาณ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอิทธิพลต่อการรับรู้และพัฒนาการของบุคคล
การพยาบาล (Nursing) : เป็นกระบวนการดูแลที่เข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของบุคคล (Transpersonal Caring) ในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การเยียวยาการเจ็บป่วย และการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้บุคคลเพิ่มดุลยภาพในตนเอง
การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
📚จุดเน้นของทฤษฎี
ส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก
ทางเลือกอื่นในการดูแลสุขภาพ
สหวิชาชีพทำงานร่วมกัน
การดูแลคนไม่ใช่โรค
การดูแลอย่างต่อเนื่อง
สนับสนุนการดูแลตนเอง
📚แนวคิดหรือหลักการสําคัญของทฤษฎี
แนวคิดศักยภาพของมนุษย์
การพัฒนาศักยภาพ 6 ด้าน คือ กาย, จิตใจ, อารมณ์, การตัดสินใจ, สัมพันธภาพ และด้านจิตวิญญาณ
แนวคิดสุขภาพแบบองค์รวม
1.ความสมดุลของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สิ่งแวดล้อม และสังคม 2. ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 3.ความกลมกลืน
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี📚
วัตสันต์ เชื่อว่า การพยาบาลต้องเข้าใจถึง ความเป็นตัวตนและความรู้สึกจิตใจของผู้ใช้บริการ รวมถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลด้วยความเอื้ออาทร ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ณ สถานที่หรือสิ่งแวดล้อมหนึ่ง
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้
ช่วยเหลือผู้ป่วยทันที เมื่อเห็นว่าผู้ป่วยมีความต้องการโดยไม่รอให้ผู้ป่วยร้องขอ
สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ