Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
G6 P0050 GA 33+4 Wks. Preterm with habitual abortion, มารดาได้รับยา…
G6 P0050 GA 33+4 Wks.
Preterm with habitual abortion
Preterm
ความหมาย
เป็นภาวะการคลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์
มารดาอายุครรภ์ 33+4 wks
การวินิจฉัย
มีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมอ
(อย่างน้อย 4 ครั้งใน 20 นาที หรือ 8 ครั้งใน 60 นาที)
หญิงตั้งครรภ์มี I=2 D=30 Intensity = Mild
เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดเนื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูก
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Fetal distrees เนื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูก
ปากมดลูกเปิดอย่างน้อย 2 ซม
แรกรับหญิงตั้งครรภ์ NO PV
ปากมดลูกบางตัวตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป
แรกรับหญิงตั้งครรภ์ NO PV
ปัจจัย
อายุมารดาตอนตั้งครรภ์ เช่น อายุน้อยกว่า 18 หรือมากกว่า 35 ปี
มารดาอายุ 26 ปี ไม่สัมพันธ์กับทฤษฎี
ระยะห่างระหว่างการตั้งครรภ์ครั้งก่อนน้อยกว่า 6 เดือนหรือมากกว่า 59 เดือน
มารดาตั้งครรภ์ครั้งล่าสุด 10 เดือน แท้ง ไม่สัมพันธ์กับทฤษฎี
เคยมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดมาก่อน
มารดาไม่เคยมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ตั้งครรภ์ลูกแฝด
มารดาแท้ง G1-G5
ภาวะปากมดลูกสั้น < 25 มม
หญิงตั้งครรภ์มีประวัติการแท้งบุตร 5 ครั้ง
ประวัติมารดามีปากมดลูกสั้น 2.67
ภาวะน้ำคร่ำมาก
HF =27 cms
มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือภาวะซึมเศร้า
มารดาปฏิเสธการมีโรคประจำตัว
การสูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติด
มารดาปฏิเสการใช้สารเสพติด
การดูแลระยะ ANC
การให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก(Tocolytic drug )
( GA 24-34 wks. )หญิงตั้งครรภ์ GA 33 +4 Wks
Terbutaline
ยากลุ่ม Beta – adrenergic Receptor Agonists
ลดระดับ ionized calcium ในเซลล์ + ป้องกันไม่ให้เกิดการกระตุ้นโปรตีนที่ทำหน้าที่ หดรัดตัวในเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก
Terbutaline, Salbutamol, Ritodrine ในประเทศไทย
นิยมใช้ Terbutaline
ยืดระยะเวลาการคลอด ออกไปได้นานอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ส่งผลดีต่อการ กระตุ้นปอดทารกด้วย corticosteroids
ภาวะแทรกซ้อน
pulmonary edema
น้าเกินจากการคั่งของโซเดียม+ น้ำหากได้รับยาต่อเนื่องกัน เช่น มากว่า 24 ถึง 48 ชม. ขึ้นไป
ได้รับยากลุ่ม Corticosteroids ปริมาณมาก
วิธีการให้ยา
Loading dose
Bricanyl 0.25 mg (1/2 amp) IV stat
หากไม่มี contraction แล้วให้ maintenance dose rate เดิมต่ออีก 2 ชั่วโมง
maintenance dose
Bricanyl 2.5 mg (5 amp) ผสมใน 5% D/W 500 ml. (1 ml = 5 ug)
ข้อห้าม
-สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคหัวใจ
-Hyperthyroidism
-เบาหวานที่ควบคุมได้ไม่ดี
-ครรภ์แฝดหรือครรภ์แฝดน้ำ
อาการข้างเคียง
มารดา
มือสั่น ใจสั่น ปวดศีรษะ น้ำท่วมปอด ชีพจนเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ
ทารก
หัวใจเต้นเร็ว น้ำตาลในเลือดสูงในครรภ์ ต่ำในหลังคลอด
การเฝ้าระวัง
-Heart rate มากกว่า 140 ครั้งต่อนาที
-Hypotension systolic ลดลงมากว่าเดิม 20 mmHg, diastolic ลดลง มากกว่าาเดิม 10 mmHg)
-Pulmonary edema
-Fetal distress
-Progressive cervical change
Nifedipine
กลุ่ม calcium-channel blockers
ยับยั้งแคลเซียมไม่ให้ผ่านเข้าสู่ cell membrane
ส่งผลให้ระดับความเข้มข้นของแคลเซียมใน cytoplasm ลดลง
ช่วยยับยั้งการหดรัดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก
ข้อควรระวัง
nifedipine ร่วมกับ magnesium sulfate
nifedipine จะเสริมฤทธิ์ neuromuscular blocking effects ของ magnesium ทำให้รบกวนการทำงานของ ระบบหายใจและไหลเวียนเลือดมากขึ้น
วิธีการให้ยา
Nifedipine 10 mg oral ทุก 15 นาที 4 ครั้ง
(ให้ยาได้ไม่เกิน 40 mg ใน 1 ชั่วโมงแรก)
maintenance ด้วยา Nifedipine 30 – 60 mg oral วันละครั้ง
loading dose ด้วย Nifedipine 10 mg oral ทุก 15 นาที 4 ครั้ง
แล้วไม่มี contraction (ไม่ควรให้ยานานเกินกว่า 7 – 10 วัน)
ข้อห้าม
ความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 mmHg
โรคหัวใจ
การทำงานของตับบกพร่อง
ได้รับยาลดความดันโลหิตตัวอื่นร่วมด้วย
ระมัดระังในกรณีได้รับยา MgSO4
อาการข้างเคียง
มารดา
ร้อนวู ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ความดันโลหิตต่ำ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
ทารก
หัวใจเต้นเร็ว
การเฝ้าระวัง
วัดความดันโลหิตทุก 15 นาที หลังได้รับยาในช่วงแรก (loading dose)
หากความดันโลหิตลดลงต่ำกว่า 90/60 mmHg ให้หยุดยา
และให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อปรับความดันโลหิตให้อยู่ ในช่วงไม่ต่ำกว่า 90/60 mmHg
ถ้าผู้ป่วยได้รับ MgSO4 ร่วมด้วย ให้สังเกตการหายใจอย่างใกล้ชิด
ระมัดระวังการกด การหายใจจาก Respiratory muscle paralysis
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา ADALAT
Mgso4
calcium antagonist
ยาในระดับความเข้มข้นมากพอจะ สามารถเปลี่ยนแปลงการหดรัดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกได้
threatened preterm delivery (การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกานดแบบ คุกคาม) GA.24-28 wks
ผลในการป้องกันภาวะ cerebral palsy ได้ร้อยละ 32
ยาในขนาด 6 gm. loading dose และตามด้วย 2 gm/hour infusion นานอย่างน้อย 12 ชม.
วิธีการให้ยา
10% MgSO4 40 ml (4 กรัม) IV slowly ในเวลา 15-30 นาที
ตามด้วย 50% MgSO4 IV drip ในอัตรา 2 gm/hr
อาการข้างเคียง
มารดา
ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ความดันต่ำ
ทารก
ซึมและอ่อนแรง อาจกดการหายใจของทารก Apgar score ต่ำก่อนคลอด
การเฝ้าระวัง
magnesium toxicity
ตรวจ deep tendon reflex (ต้องไม่ absent)
Respiratory rate (> 14 ครั้ง/นาที)
Blood pressure (> 90/60 mmHg)
Urine output (> 30 cc/hr)
Magnesium level อยู่ในช่วง 4 – 7 mEq/L
10% calcium gluconate 1 g (แก้พิษยา Mgso4)
Prostaglandin
ออกฤทธิ์ต้าน prostaglandins ยับยั้งการออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมาย ส่งผลต่อการหดรัดตัวของมดลูกซึ่งมี
prostaglandins เป็นส่วนร่วมในการเจ็บครรภ์คลอด ยับยั้งการเปลี่ยน arachidonic acid ไปเป็น prostaglandins
ยา acetylsalicylate และ indomethacin
ข้อระวัง
ทารก
ยิ่งทารกที่มีอายุครรภ์มากกว่า 32 wks.ขึ้นไป indomethacin จะทกให้เกิดภาวะ ductus arteriosus constriction ร้อยละ50 และพบทุกรายหากทารกมีอายุครรภ์ มากกว่า 34 wks
indomethacin ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนคลอดนั้น
พบ NEC IVH PDA
มารดา
ปวดท้อง จุกเสียดลิ้นปี่ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ
indomethacin ยังทำให้ลด ปริมาณ urine output ของทารก ส่งผลให้น้ำคร่ำน้อยตามมา
วิธีการใช้
Indomethacin 50 – 100 mg oral
ตามด้วย Indomethacin 25 – 50 mg oral ทุก 4 - 6 ชั่วโมง
ไม่ควรให้ยานานเกิน 24 – 48 ชั่วโมง
ข้อห้าม
Asthama GI bleeding ภาวะน้ำคร่ำน้อย อายุครรภ์มากกว่า 32wks
Bed rest นอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
มารดานอนตะแคงซ้าย สุขสบาย
ให้ยา Steroid
dexamethasone 6 mg IM q 12 hr จำนวน 4 ครั้ง
เร่งการเจริญของปอดทารก
หญิงตั้งครรภ์ได้รับยา Dexamethasone ครบเมื่อวันที่ 5/10/66
GA 24-34 wks.
-ให้การดูแลรักษาตามสาเหตุ
-Bedrest
-ให้ยา TOcolytic drugs
-ให้ยา Steroids
สำเร็จ
Continuous Tocolytic drug for 24 hr.
Discharge continues tocolytic drug until GA.34 wks
ไม่สำเร็จ
-NPO IV fuid
-เฝ้าระวังสุขภาพของทารกในครรภ์
-ตรวจวัดการหดรัดตัวของมดลูก
-ให้ยาปฏิชีวนะขณะคลอดเพื่อป้องกัน GBS
-ดำเนินการคลอดทารกอย่างนิ่มนวล
-ตามทีมช่วยเหลือทารก
GA > 34 weeks
-Expectant management (ให้การดำเนินคลอดต่อไป)
-ไม่ให้ Steriod
-Ultrasound
-หาสาเหตุให้การรักษาตามสาเหตุ
สำเร็จ Discharge
ภาวะแทรกซ้อน
มารดา
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
ทารก
การคลอดเมื่ออายุครรภ์ 28-34 wks ทารกจะมีภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินหายใจ
habitual abortion
ความหมาย
ภาวะแท้งซ้ำ
การแท้งบุตรขณะที่อายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 สัปดาห์หรือทารกน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่า 500 กรัม อย่างน้อยสามครั้งติดต่อกัน โดยไม่รวมถึงการตั้งครรภ์นอกมดลูก ครรภ์ไข่ปลาอุก
G1 ปี 2558 GA 24 wks ชาย
G2 ปี 2559 GA 24 wks ชาย
G3 ปี 2560 GA 24 wks หญิง
G4 ปี 2561 GA 24 wks หญิง
G5 ปี 2564 GA 24 wks ชาย
การวินิจฉัย
ซักประวัติ
ประวัติการแท้งในครั้งก่อน อายุครรภ์ขณะแท้ง น้ำหนักทารกที่แท้ง
G1 ปี 2558 GA 24 wks ชาย
G2 ปี 2559 GA 24 wks ชาย
G3 ปี 2560 GA 24 wks หญิง
G4 ปี 2561 GA 24 wks หญิง
G5 ปี 2564 GA 24 wks ชาย
ประวัติโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
มารดาปฏิเสธการมีโรคประจำตัว
ประวัติการใช้สารเสพติด
มารดาปฎิเสธการดื่มสุรา สูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด
ประวัติการทำหัตถการที่อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดพังผืดในโพรงมดลูก
การขูดมดลูกหลังแท้งก่อให้เกิดพังผืดในมดลูกได้ อาจก่อเกิดการตกเลือดและนำไปสู่ภาวะมีบุตรยาก
ประวัติประจำเดือน รอบประจำเดือน ความสม่ำเสมอ
มารดาบอกว่าประจำเดือนมาทุกเดือนใกล้เคียงกันทุกเดือน มา 5-7 วัน สีแดงสด
ประวัติการมีบุตรยาก
มารดาปฏิเสธภาวะมีบุตรยาก
ตรวจร่างกาย
ภาวะอ้วน น้ำหนักมากกว่า 70 kg BMI มากกว่า 30 kg/m2
หญิงตั้งครรภ์ 58 kg. ส่วนสูง 160 cm. BMI = 22.66 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ภาวะผอมผิดปกติ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม BMI น้อยกว่า 18 kg/m2
หญิงตั้งครรภ์ 58 kg. ส่วนสูง 160 cm. BMI = 22.66 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ภาวะขนดก
จากการสังเกตหญิงต้งครรภ์ไม่มีภาวะขนดก
ความผิดปกติของปากมดลูก การบาดเจ็บที่ปากมดลูก
หญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธการบาดเจ็บที่ปากมดลูก
การติดเชื้อ
ผลทางห้องปฏิยัติการค่า WBC 6800 ปกติไม่แสดงถึงการติดเชื้อ
การส่งตรวจ
โครโมโซม
คู่สามีภรรยา mosaicism ถึงแม้จะเป็นสาเหตุของภาวะแท้งซ้ำ โดยเฉพาะในรายที่ภรรยามีอายุเกิน 35 ปี
ข้อมูลไม่เพียงพอ
มดลูกและปากมดลูก
การแท้งซ้ำซากในไตรมาสแรกหรือแท้งตั้งแต่ 1 ครั้ง เป็นต้นไปในไตรมาสที่ 2 แนะนำให้อัลตราซาวด์ทุกราย
Sonohysterography: การฉีดน้ำเข้าในโพรงมดลูกและอัลตราซาวด์ทำให้เห็นถึงโครงร่างภายในของโพรงมดลูก สามารถประเมินการอุดตันของท่อนำไข่และทำให้เห็นความแตกต่างของมดลูกที่มีรูปร่างผิดปกติ หรือ มีแผ่นกั้นมดลูก
Hysterosalpingogram: การฉีดสีและเอกซเรย์ท่อนำไข่และมดลูก สามารถเห็นความผิดปกติได้ใกล้เคียงกับการอัลตราซาวด์ผ่านทางช่องคลอดบ่งบอก การอุดตันของท่อนำไข้ได้ดี
Hysteroscopy: การส่องกล้องโพรงมดลูก เป็นวิธีที่มาตรฐานเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของมดลูก
อัลตราซาวด์: การอัลตราซาวด์ผ่านทางช่องคลอดและการอัลตราซาวด์ผ่านทางหน้าท้องมีประโยชน์ในการวินิจฉัยภาวะมีผนังกั้นมดลูก
หญิงตั้งครรภ์บอกว่าก่อนหน้านี้ได้ U/S
การเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า: จะช่วยแยกระหว่างมดลูกที่มีรูปร่างผิดปกติหรือมีแผ่นกั้นมดลูกได้
ฮอร์โมนและตรวจดูความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
การตัดชิ้นเนื้อบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อวินิจฉัยความบกพร่องของระยะลูเตียล หากตรวจพบความผิดปกติให้ตรวจระดับ prolactin, 17-hydroxyprogesterone และ androgen ในเลือดเพื่อวินิจฉัยภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบด้วยเสมอ
การตรวจทางระบบภูมิคุ้มกัน
เพื่อหาภาวะ antiphospholipid syndrome โดยการตรวจ anticardiolipin และ lupus anticoagulant โดยหญิงที่มีการแท้งซ้ำซากในไตรมาสแรกหรือแท้งตั้งแต่ 1 ครั้งเป็นต้นไปในไตรมาสที่ 2 แนะนำให้ตรวจทุกรายก่อนการตั้งครรภ์ครั้งถัดไป
ปัจจัย
ด้านพันธุกรรม
สัมพันธ์กับความผิดปกติของโครงสร้างและจำนวนโครโมโซม autosomal โครโมโซม unbalanced หรือพบความผิดปกติของการเรียงตัวของโครโมโซมในพอแม่
ข้อมูลไม่เพียงพอ
มดลูกและความผิดปกติทางกายวิภาค
ความผิดปกติของการสร้าง mullerian duct หรือผิดปกติของการเชื่อมหรือมีการเชื่อมไม่สมบูรณ์ทำให้มดลูกและช่องคลอดมีพัฒนาการที่ผิดปกติไป ภาวะแท้งซ้ำซากได้บ่อยที่สุดคือ septate uterus สตรีที่มี septate uterus มีโอกาสแท้งสูงถึงร้อยละ 76
พังผืดในโพรงมดลูกหรือ asherman syndrome สาเหตุเกิดจากการทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นบริเวณกว้าง เช่น การขูดมดลูก มีผลเพิ่มอัตราการแท้งได้จากโพรงมดลูกตีบแคบหรือขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณที่มีพังผืด ตัวอ่อนจะฝังตัวได้ไม่ดีหรือทำให้รกเจริญผิดปกติได้
หญิงตั้งครรภ์แท้งตั้งแต่ G1-G5 ขูดมดลูก
เนื้องอก
บริเวณตำแหน่งเกาะตัวของรก เนื้องอกมดลูกชนิด submucous ถ้ามีขนาดใหญ่จะมีผลลดอัตราการตั้งครรภ์คือทำให้โพรงมดลูกตีบแคบหรือขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณเนื้องอกมดลูก
หญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธการมีเนื้องอก
ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ
หญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธการมีโรคไทรอยด์
โรคเบาหวาน
สตรีที่เป็นเบาหวานชนิดดื้อต่ออินซูลินซึ่งควบคุมระดับน้ำตาลไม่ดีและมีค่า HbA1C สูงในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์จะพบอัตราการแท้งสูง
หญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธการมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะอ้วน มีฮอร์โมนเพศชายและ LH สูงกว่าปกติ มีความผิดปกติในการควบคุมระดับน้ำตาลและภาวะดื้อต่ออินซูลินทำให้เกิดการแท้งซ้ำซาก
หญิงตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ 58 kg. ส่วนสูง 160 cm. BMI = 22.66 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ภูมิคุ้มกัน
การแท้งเกิดจาก antiphospholipid antibodies เป็นภูมิต้านทานที่สร้างขึ้นและจับกับ phospholipid ทำให้เกิด platelet aggregation เพิ่มขึ้น ทำให้เกิด thrombosis และ vasoconstriction ที่เส้นเลือดของรกทำให้เนื้อรกตาย
การติดเชื้อ
การติดเชื้อลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูกและระบบการไหลเวียนเลือดจะเกิดการแท้งตามมา
ค่า WBC หญิงตั้งครรภ์ 6800 ปกติไม่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ
การดูแลระยะ ANC
โปรเจสเตอโรน: ไม่แนะนำการให้ โปรเจสเตอโรนสอดทางช่องคลอด
หญิงตั้งครรภ์ได้รับการทาโปรเจสโตโรนที่ช่องคลอดเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ควรตรวจระดับ B-hCG ตั้งแต่เริ่มขาดประจำเดือนเป็นระยะๆ จนกระทั่งได้ประมาณ 1200-1500 mIU/ml จึงทำการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทุก 2 สัปดาห์ จนถึงช่วงอายุครรภ์ที่เคยแท้ง หากตรวจไม่พบทารกและการเต้นของหัวใจทารกที่ 6-7 สัปดาห์หรือถุงการตั้งครรภ์โตเกิน 15 มิลลิเมตร หรือ crown-rump length เกิน 5 มิลลิเมตรโดยไม่มีหัวใจเต้นถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ล้มเหลวควรยุติการตั้งครรภ์
ข้อมไมเพียงพอ
เมื่ออายุครรภ์ 11-12 สัปดาห์ให้ตรวจ nuchal translucency ร่วมกับ serum screening ในช่วง 11-14 สัปดาห์หรือ 15-18 สัปดาห์ เพื่อคัดกรอง Down syndrome และ trisomy อาจจะเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซมได้ถ้าอายุครรภ์เกินช่วงที่เคยแท้งมาแล้ว
ข้อมูลไม่เพียงพอ
ติดตามการประเมิน FHS ทารก ON EFM
EMF cath 1
ภาวะแทรกซ้อน
มารดา
ตกเลือด
เลือดออกรวมถึงเนื้อเยื่อไหลออกมาปริมาณมาก ปวดท้องรุนแรงกว่าปวดประจำเดือน
แท้งเองมักเกิดขึ้นเมื่อสุขภาพครรภ์ไม่แข็งแรง โดยส่วนใหญ่มักเกิดภาวะแท้งในช่วง 12 สัปดาห์ของอายุครรภ์ (หรือเมื่อตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน) ทั้งนี้ ภาวะแท้งก่อนอายุครรภ์ครบ 14 สัปดาห์ มักเกิดจากทารกมีความผิดปกติ
ติดเชื้อ
หนาวสั่น มีไข้ ฟกช้ำที่ท้องน้อย และร่างกายมีการขับของเสียกลิ่นเหม็นออกทางช่องคลอด
ผลกระทบทางจิตใจ
ความเสียใจจากการสูญเสียลูกในท้องก็เป็นสิ่งที่หลายคนต้องรับมือ จึงอาจส่งผลให้ในช่วงหลังการแท้งมีอาการไม่อยากอาหาร เหนื่อยล้า และนอนหลับยาก นอกจากนี้ยังอาจรู้สึกผิด รู้สึกเศร้า
มารดาบอกว่าเสียใจ เศร้า ไม่กินข้าวและวิตกกังวลว่าลูกจะไม่ปลอดภัยและจะแท้งอีก
วิตกกังวลเกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนดและภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์
ข้อห้ามในการยับยั้งอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
Severver Preeclampsia
fetal distress
ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
การคลอดก้าวหน้าปากมดลูกเปิดมากกว่า 4 cms.หรือเข้าสู่ระยะ Active phase
หญิงตั้งครรภ์ไม่มีข้อห้ามในการยับยั้งอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
มารดาได้รับยา ADALAT 10 mg q 15 นาที x4 dose