Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Dx. sepsis subtotal occlusion Rt. subclavian vein stenosis,…
Dx. sepsis subtotal occlusion Rt. subclavian vein stenosis
ข้อมูลทั่วไป
Chief complaint
: นัดทำ PAG ± PTA Rt. Subclavian vein ร่วมกับมีเต้านมบวม 1 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล
Present illness
: case subtotal occlusion Rt. SCV นัดมาทำ PAG ± PTA Rt. SCV
7/ก.ย/66 Admit มภร.13
8/ก.ย/66 ย้ายมภร.18/1
11/ก.ย/66 ความดันโลหิต drop on Levophed (4:250) 13 ml/hr. R/C sepsis มีซีดและปวดท้อง แพทย์สงสัยว่ามี bleeding ในท้อง เนื่องจากเป็น acute abdomen severe มี film X-ray intraabdominal hematoma c Lt. femoral injury
GA
20/ก.ย/66 : ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 84 ปี รู้สึกตัวดี ตอบสนองรู้เรื่อง พูดคุยได้ BT 36.0-36.7 C , RR 20-30 bpm. , HR 98-105 bpm. , BP 115-66 mmHg , O2sat 98%
on cardiac monitor
EKG regular normal sinus tachycardia
on HFNC flow
40 LPM FiO2 0.4 O2sat 100%เมื่อวันที่ 19/09/66 เช้าวันที่20/09/66 ปรับเป็น50 LPM FiO2 0.4 O2sat 100% ยังมีหายใจเหนื่อย แพทย์สั่ง on ETT ลึก 22 cm. setting PCMV mode IP 16 PEEP 5 RR 14 FiO2 0.4 keep spO2 > 94%
on NG tube
for feed BD(2:1) 250ml
4 feed
รอบจมูกไม่มีแผลจากการกดทับของสาย ไม่มีอาการบวมแดง
on perm Cath
อกข้างซ้าย ปิดด้วย gauze for hemodialysis
On AVF
ที่แขนข้างขวา แขนข้างซ้าย
on PICC line
ปิดด้วย gauze
แขนทั้ง2ข้างบวมกดบุ๋ม pitting edema grade +2
ก้อนบริเวณขาหนีบข้างซ้ายมีขนาดเล็กลง บวมน้อยลง มีจ้ำเลือดตั้งแต่เอว ถึง ต้นขาซ้าย ข้างขวา
on triple lumen
ใส่แพมเพิสอุจาระ 1 ครั้ง ปัสสาวะ 1 ครั้งตอนเวรเช้า บริเวณ perineum มีอาการบวมแดง
*ขาขวา/ซ้าย
ขาและหลังเท้าทั้ง 2 ข้าง มีบวมกดบุ๋ม pitting edema grade +2 ปลายเท้าข้างซ้ายมีสีเขียวคล้ำ และนิ้วก้อยเท้าข้างซ้ายมีเนื้อตาย (gangrene)
Past illness
: U/D
HT
CKD
ESRD
PAD โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (PAD; Peripheral Arterial Disease)
S/P
ทำ balloon ทั้งหมด 4 ทำการผ่าตัด
Angioplasty Lt. SFA, ATA
ทำ POBA ISR at Right brachial cephalic vein
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อผู้ป่วย
ผู้สูงอายุหญิงไทย อายุ 85 ปี
ตึก มรภ.16 MICU ห้อง 2
HN.
590027461
AN.
660011420
สถานภาพสมรส
N/A
เชื้อชาติ
ไทย
สัญชาติ
ไทย
ศาสนา
พุทธ
อาชีพ
ไม่ได้ทำงาน
รายได้
N/A บาท/เดือน
ระดับการศึกษา
N/A
ที่อยู่ปัจจุบัน
จังหวัด กำแพงเพชร
วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล
7 กันยายน 2566
น้ำหนัก 49 กก. ส่วนสูง 160 ซม.
การวินิจฉัยโรคครั้งแรก
: PAD with ESRD
การวินิจฉัยโรคครั้งสุดท้าย
: Sepsis with subtotal occlusion Rt. Subclavian vein stenosis
การวางแผนการพยาบาล
4.มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกาย เนื่องจากไตสูญเสียการทำหน้าที่
ข้อมูลสนับสนุน
Bun 59.7 mg/dL(18/09/66), 35.8 mg/dL(19/09/66),48.7mg/dL(20/09/66)
Creatinine 4.52 mg/dL, Potassium K 4.56 mmol/L (19/ก.ย/66)
eGFR(ค่าอัตรการกรองของไต) 4.98(18/09/66), 8.37(19/09/66), 6.75 (20/09/66) mL/min/1.73m2
แขนและขามีอาการบวม pitting edema grade +2 กดบุ๋ม 2 mm.
ผิวหนังเป็นสีเหลือง-น้ำตาล
Creatinine 5.40 mg/dL, Potassium K 4.83 mmol/L (20/ก.ย/66)
การพยาบาล
ดูแล on perm Cath
Lt. SCV(Superior vena cava) ให้สะอาด ป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
ดูแล Set Hemodialysis
UF 2.5-3 L
Obs.สัญญาณชีพระหว่าง HD
ประเมินระดับความรู้สึกตัว ดูแลไม่ให้ความดันโลหิตต่ำ เช่น งดน้ำงดอาหารขณะฟอกเลือด
observe อาการภาวะของ uremia
เช่น ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย สะอึก กระหายน้ำ ผิวหนังแห้งคัน ความรู้สึกตัวลดลง
บันทึก I/O
ทุก 8 ชั่วโมง
ดูแลควบคุมปริมาณน้ำ เข้า-ออก
ตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำเกิน
ประเมินอาการผิดปกติในภาวะน้ำเกิน
เช่น บวมที่หลังมือ หลังเท้าและขา อาการน้ำท่วมปอด เช่น นอนราบไม่ได้ ไอ ฟังเสียงปอดได้ยินเสียง crepitation
วัตถุประสงค์
ของเสียคั่งค้างในร่างกายลดลง
เกณฑ์การประเมินผล
ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ไม่มีจุดสีน้ำตาล
แขนและขาไม่มีอาการบวม หรือบวมน้อยลง
รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการสับสน
eGFR(ค่าอัตรการกรองของไต) ค่าปกติ >90 mL/min/1.73m2
Bun ค่าปกติ 10 - 20 mg/dL
Creatinine ค่าปกติ 0.6-1.2 mg/dL, Potassium 3.8-5.0 mmol/L
การประเมินผล
หลังได้รับการแก้ไขผู้ป่วยยังมีอาการเหนื่อย ผิวหนังแห้งลอก มีภาวะน้ำเกิน ได้แก่ มีอาการบวมที่แขนและขา หลังมือ หลังเท้า กดบุ๋ม
2.เสี่ยงมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
WBC 9640 /UL (18/09/66), 6640/uL (19/09/66), 7800/uL (20/09/66)
อุณหภูมิร่างกาย20/09/66 36.0-36.7 C , BP 118/51 mmHg, O2sat 98% RR 20-24 bpm. PR 98-105 bpm.
Neutrophil 85% (18/09/66), 83.2% (19/09/66), 88.1 (20/09/66)
Plt 109,000/uL (19/09/66), 113000/uL (20/09/66)
18-19/09/66 มีไข้อุณหภูมิร่างกายอยู่ในช่วง 37.8-38.1 C
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงและประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และประเมินสัญญาณชีพทุก15-30 นาทีหากผู้ป่วยมีความผิดปกติ เช่น อุณหภูมิร่างกายสูง
ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย
การพยาบาลโดยยึดหลัก
Aseptic technique
ดูแลให้ได้ยา
MEROPENEM
500 mg+NSS 50 ml iv drip in 3 hr. q 24 hr ตามแผนการรักษา
observe อาการไม่พึงประสงค์ของยา เช่น คลื่นไส้อาเจียน หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ
ดูแลให้ได้รัยา
VANCOMYCIN
1 g + NSS 200 ml iv drip in 3 hr. after HD ตามแผนการรักษา
อาการไม่พึงประสงค์
ไข้/หนาวสั่น
ผื่นคัน
คลื่นไส้/อาเจียน
ปวดศีรษะ/มึนงง
ปัสสาวะออกน้อย
หูอื้อ วิงเวียน
อาการ Red man syndrome (ผื่นแดงบริเวณหน้า คอ ลำตัว จะเกิดหลังให้ยา 15-45 นาที และ จะดีขึ้นหลังหยุดยา 10-60 นาที
ดูแลเช็ดตัวลดไข้ เพื่อป้องกันภาวะชักจากอุณหภูมิร่งกายสูง
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา paracetamol
500 mg 1 Tab เพื่อลดอาการไข้
ดูแลความสะอาดของผู้ป่วย
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เช่น ดูแลทำความสะอาดผิวหนังอย่างนุ่มนวล ดูแลความสะอาดของช่องปากและฟัน ตัดเล็บให้สั้นแต่ต้องระวังไม่ให้ตัดโดนเนื้อของผู้ป่วย
วัตถุประสงค์
ไม่มีภาวะติดเชื้อในร่างกาย
เกณฑ์การประเมินผล
สัญญาณชีพอยู่ในค่าปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.5-37.4 C, การหายใจ 18-20 ครั้งต่อนาที, HR 60-100 ครั้งต่อนาที, BP 90-120/60-80 mmHg.
White blood cell อยู่ในค่าปกติ 4000-10000/uL
Neutrophil อยู่ในค่าปกติ 54-75%
Plt อยู่ในค่าปกติ 140000-400000/uL
ประเมินผล
หลังเช็ดตัวลดไข้ และได้รับยา paracetamol 500 mg 1 Tab อุณหภูมิกายลดลง BT 36.5-37.4 ผู้ป่วยสุขสบายขึ้น
7.มีเนื้อตาย(Gangrene) เนื่องจากเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
ข้อมูลสนับสนุน
สีผิวบริเวณนิ้วก้อยเท้ามีสีดำคล้ำ
หายใจ 20-24 ตรั้งต่อนาที O2sat > 95%
เท้าด้านซ้ายเริ่มเขียวคล้ำ
การพยาบาล
รักษาความสะอาดของแผล ไม่ให้ลุกลามไปส่วนอื่น
สังเกตอาการของภาวะพร่องออกซิเจน เพื่อป้องกันการเกิดเนื้อตายในบริเวณอื่นเพิ่ม
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา
การพยาบาลโดยยึดหลัก
Aseptic technique
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการและอาการแสดงภาวะ cyanosis
O2sat > 94 %
ไม่มีเนื้อตายเพิ่มขึ้น
การประเมินผล
ผู้ป่วยมีอาการแสดงของภาวะ cyanosis ที่เท้าซ้าย มีสีม่วงคล้ำ
วัตถุประสงค์
ป้องกันไม่ให้มีเนื้อตายเพิ่มขึ้น
5.เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเนื่องจากภาวะ Anemia
ข้อมูลสนับสนุน
ผล CT scan Abdomen พบ hematoma ขนาด 14*20 cm
17/ก.ย/66 Hct.25.1%, 18/ก.ย/66 Hct 24.9%, 19/ก.ย/66 Hct. 23.7%
17/ก.ย/6 Plt 104,000/uL, 18/ก.ย/66 Plt 93000/uL, 19/ก.ย/66 Plt 109,000/uL
ปลายมือปลายเท้าเย็น ซีด เหลือง
ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
พยาธิสภาพของโรคไตวายเรื้อรัง ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดได้น้อยลง
ภาวะซีดจาก พยาธิสภาพ PAD ของผู้ป่วย
HR 102 bpm
BP 132/62 mmHg.
O2sat 100%
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงและประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และประเมินสัญญาณชีพทุก15-30 นาทีหากผู้ป่วยมีความผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง ชีพจรเร็ว
ให้เลือด
ตามแผนการรักษา LPPC 1 pool IV drip in 1 hr.
สังเกตภาวะแทรกซ้อนขณะให้เลือด และหลังให้เลือด
ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ เช่นค่า Hct
ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ
Anemia
เช่น มีเลือดออกง่ายหยุดยาก เวียนศีรษะ หน้ามืด เจ็บแน่นหน้าอก ผิวหนัง เล็บ ซีด Capillary refill อาการตัวเย็นผิวหนังคล้ำ มีจุดเลือดออก
ประเมินความรู้สึกตัว
เพื่อดูว่าผู้ป่วยมีอาการซึมลง อ่อนเพลีย หากมีอาการให้รายงานแพทย์
ประเมิน/สังเกตอาการและอาการแสดงของ
ภาวะเลือดออกในร่างกาย
ให้
Folic acid 5 MG.TAB
ตามแผนการรักษาของแพทย์
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยไม่เกิดอันตรายจากภาวะ Anemia
การประเมินผล
ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบ HR อยู่ในช่วง 98-110 ค่า Hct 28.7 ผิวหนังเหลืองซีด ตัวเย็น
เกณฑ์การประเมินผล
Hct 36.8 - 46.6 %
ขนาดของ Hematoma ลดลง
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ BT 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
HR 60-100 bpm
RR 12-20 bpm
BP
ไม่มีอาการและอาการแสดงของภาวะซีด มีเลือดออกง่ายหยุดยาก เวียนศีรษะ หน้ามืด เจ็บแน่นหน้าอก ผิวหนัง เล็บ ซีด Capillary refill อาการตัวเย็นผิวหนังคล้ำ มีจุดเลือดออก
O2 sat > 94 %
8.
ผู้ป่วย
และญาติมีภาวะวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วย
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยบ่นว่าปล่อยไปเลยไม่ต้องช่วย ทนไม่ไหวแล้ว
ผู้ป่วยร้องด้วยความเจ็บปวด
ผู้ป่วยเรียกตลอดเวลา
ผู้ป่วยร้องขอให้ญาติเข้ามาเฝ้าไข้
การพยาบาล
อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจ ได้รับรู้ถึงพยาธิสภาพ และเหตุผลในการรักษา
คอยให้กำลังใจ และรับฟังปัญหา ความรู้สึกของผู้ป่วย
ให้ผู้ป่วยฝึกผ่อนคลายด้วยการฝึกการหายใจ
ส่งเสริมให้ญาติมีส่วนรวมในการให้กำลังใจ/ดูแลผู้ป่วย
เกณฑ์การประเมิน
สีหน้าผู้ป่วยและญาติไม่เคร่งเครียดหรือกังวล
ผู้ป่วยและญาติมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคของผู้ป่วย
ญาติมีส่วนร่วมในการให้กำลังใจ/ดูแลผู้ป่วย
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยไม่มีความวิตกกังวลหรือมีความวิตกกังวลน้อยลง
ประเมินผล
ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลน้อยลง ยอมรบการช่วยเหลือจากทีมแพทย์ พยาบาล
1.มีภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของปอดลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
หายใจหอบเหนื่อย
มีอาการปลายมือ ปลายเท้าเย็น มีภาวะcyanosis
หายใจ 20-30 ครั้งต่อนาที
chest X-ray พบ pleural effusion
ขณะไอได้ยินเสียงเสมหะ
เสมหะเหนียวข้น ดูดออกไม่ได้
ฟังปอดได้ยินเสียง Crepitation
ABG : pH 7.46 สูง, pO2 38 mmHg.ต่ำ
การพยาบาล
Keep O2sat > 94%
obs. อาการของภาวะน้ำท่วมปอด
เช่น ไอมีเสมหะเป็นฟองสีชมพู หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ชีพจรเบา เร็ว ตัวเย็น เขียว
จัดท่านอนหัวสูง 15-30 องศา
เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้ผู้ป่วยหายใจได้สบายขึ้น
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน
ตวามแผนการรักษา ได้แก่ on HFNC flow 50 LPM FIO2 0.4 %
ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน
เช่น หายใจเหนื่อย แรง ลึก หายใจหอบ ปลายมือ ปลายเท้าเย็น เขียวคล้ำ เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงลักษณะการหายใจและรายงานแพทย์พิจารณาให้ได้รับออกซิเจน
ประเมินสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย โดยเฉพาะการหายใจ ค่าปกติ 18-20 ครั้งต่อนาที
ดูแลให้ผู้ป่วยพ่นยา
ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อละลายเสมหะช่วยให้ดูดเสมหะได้ง่ายขึ้น
สอนการไออย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากการไออย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ลดการคั่งค้างของเสมหะและทำให้ปอดขยายตัวได้เพิ่มขึ้น
ดูดเสมหะ
เพื่อไม่ให้ทางเดินหายใจอุดตัน
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยหายใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เกณฑ์การประเมินผล
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
โดยเฉพาะ RR 18-20 bpm., O2sat > 94%, HR 60-100 bpm., BP 80-120/60-80 mmHg., BT 36.5-37.4 C
ลักษณะการหายใจไม่มีหายใจเหนื่อย แรง ลึก
ฟังเสียงปอดไม่มีเสียง Crepitation, wheezing, stridor, Rhonchi
ไม่มีภาวะ cyanosis
Hemoglobin อยู่ในเกณฑ์ปกติ 14-17.4 g/dl
ABG : pH ค่าปกติอยู่ที่ 7.35-7.45, pO2 ค่าปกติ 80-100 mmHg.
ประเมินผล
ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นแพทย์สั่งให้ on ETT NO.7.5 ลึก 22 cm. setting PCMV mode IP 16 PEEP 5 RR 14 FiO2 0.4 keep spO2 > 94%
6.เสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ
การพยาบาล
obs.อาการและอาการแสดงของการมีเลือดออกภายในร่างกาย
เช่น ปวดท้อง กระสับกระส่าย ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ปัสสาวะมีเลือดปน อาเจียนเป็นเลือด
ประเมินสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงและประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และประเมินสัญญาณชีพทุก15-30 นาทีหากผู้ป่วยมีความผิดปกติ
จัดสิ่งแวดล้อม ป้องกันอุบัติเหตุ
หรือการกระทบกระแทกที่อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ง่าย
ดูแลให้ LPPC 1 pool ตามแผนการรักาษาของแพทย์
observe อาการแพ้
เช่น มีผื่นขึ้น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน
ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ
ดูแลช่องปากและฟัน
เพื่อประเมินภาวะเลือดออกตามไรฟัน และดูแลความสะอาด
ข้อมูลสนับสนุน
17/ก.ย/6 Plt 104,000/uL, 18/ก.ย/66 Plt 93000/uL, 19/ก.ย/66 Plt 109,000/uL
มีจ้ำเลือดบริเวณข้างซ้ายและขาขวา
เกณฑ์การประเมินผล
Plt อยู่ในค่าปกติ 140000-400000/uL
ไม่มีภาวะเลือดออกง่าย หยุดยาก เช่น จุดจ้ำเลือด รอยช้ำ
ผล X-ray Abdomen ไม่พบ bleeding ภายในร่างกาย
วัตถุประสงค์
ไม่เกืดภาวะเลือดออก
การประเมินผล
ผู้ป่วยไม่มีภาวะเลือดออกง่าย V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ (HR 98 bpm, BP 118/52 mmHg.) ค่า Hct ขึ้นจาก 23.7 เป็น 28.7 %
3.มีภาวะช็อกจาก
การติดเชื้อในกระแสเลือด
เกณฑ์การประเมินผล
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ BT 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
HR 60-100 bpm
RR 12-20 bpm
BP
WBC อยู่ในค่าปกติ 4.24-10.18*1000 /uL
ไม่มีอาการและอาการแสดงของภาวะ septic shock มีไข้ หนาวสั่น ชีพจรเร็ว หายใจเร็ว
สมอง ซึมลง กระวนกระวาย หรือ สับสน
ไต มีปริมาณปัสสาวะออกน้อยลง
ผิวหนัง ผิวลาย มือเท้าเย็น และ capillary refilling time นานกว่า 2 วินาที
เนื้อเยื่อต่างๆทั่วร่างกาย มีภาวะ metabolic acidosis
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยทำ PAG
ESRD
no urine output
Systemic inflammatory response syndrome (SIRS) 4 ข้อ
HR 100 bpm
RR 28 bpm
BT 38.0 องศาเซลเซียส
WBC 12400 uL
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงและประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และประเมินสัญญาณชีพทุก15-30 นาทีหากผู้ป่วยมีความผิดปกติ เช่น อุณหภูมิร่างกายสูง หายใจเร็ว ชีพจรเร็ว
ให้ยา Tazocin
4.5 GM.INJ. ตามแผนการรักษาของแพทย์
obs.อาการแพ้ยา หายใจเร็ว มีผื่น แน่นหน้าอก
เช็ดตัวลดไข้ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลง
ให้ออกซิเจน
ตามแผนการรักษาของแพทย์ on canula 5 LPM เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
เฝ้าระวังภาวะ organ dysfunction
ทุกระบบ โดยการติดตามอาการ/อาการแสดง/ผล Lab ต่าง ๆ
ให้สารน้ำตามแผนการรักษาของแพทย์
load 0.9 NSS 300 ml
การประเมินผล
หลังให้ยาและสารน้ำผู้ป่วยไม่มีภาวะ septic shock V/S อญู่ในเกณฑ์ปกติ BT 37.2 องศาเซลเซียส HR 60 RR 18 BP 127/60 mmHg.
วัตถุประสงค์
ไม่มีภาวะ Septic shock
พยาธิสภาพ
PAD; Peripheral Arterial Disease
ทฤษฎี
ผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้น
(Atherosclerotic Plaque)
หลอดเลือดจะยังขยายออกด้านนอก
หลอดเลือดตีบลง
เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี
(Poor perfusion)
ผนังหลอดเลือดยืดหยุ่นได้ไม่ดี
(Vascular function impair)
เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น
1 more item...
ผู้ป่วย
ผนังหลอดเลือดตีบ
Poor perfusion
Vascular function impair
มีการ bleeding ที่หลอดเลือด และมีการ leak ของเลือด
Bleeding
Rt. subclavian vein stenosis
รักษาโดย Fat embolism
แต่ยัง leak อยู่ทำให้เกิดภาวะ anemia
ESRD (End stage renal disease)
ทฤษฎี
ไตเสื่อมและมีการถูกทำลายของไต
eGFR ลดลง
หน่วยไตที่เหลือจะเจริญมากผิดปกติ เพื่อกรองของเสียที่มากขึ้น
ไตเสียความสามารถในการปรับความเข้มข้นของปัสสาวะ
ปัสสาวะถูกขับออกอย่างต่อเนื่อง
หน่วยไตดูดกลับเกลือแรร่ต่างๆได้น้อยลง
1 more item...
ร่างกายไม่สามารถขวัดน้ำ เกลือ ของเสียต่างๆ ผ่านไตได้
eGFR < 10-20 ml/min
ยูเรียคั่ง
เสียชีวิตในที่สุด
Cr,BUN สูง
ระยะของโรคไต
Stage 3A
eGFR 40-59 ml/min/1.73m2
HT, อาจพบภาวะ Anemia, Ca ในเลือดต่ำ, Phosphorus สูง
Stage 3B
eGFR 30-44 ml/min/1.73m2
Stage 2
eGFR 60-89 ml/min/1.73m2
อาการปกติ BP เริ่มสูง เริ่มพบความผิดปกติในค่า LAB
Stage 4
eGFR 15-29 ml/min/1.73m2
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร บวม ความจำแย่ลง มีภาวะ Metabolic acidosis ไขมันในเลือดผิดปกติ
Stage 1
eGFR > 90 ml/min/1.73m2
ยังไม่พบอาการผิดปกติ แต่บางรายอาจพบโปรตีนในปัสสาวะ
Stage 5
eGFR <15 ml/min/1.73m2
ผิดปกติเกือบทุกระบบ I/O + E'lyte Imbalance, Uremia, น้ำเกิน, HT
สาเหตุ
DM, HT, โรคหลอดเลือดฝอยในไตอักเสบ, ความผิดปกติของไต
ผู้ป่วย
eGFR 6.75 ml/min/1.73m2
แพทย์รักษาโดยการ HD bedside UF 2.5-3.0 L
Bun 48.7 mg/dL
Cr 5.40 mg/dL
สาเหตุ HT
มีอาการและอาการแสดง
ภาวะ Anemia
รักษาโดยการให้เลือด LPRC 1 unit ตามแผนการรักษา
ยังไม่เกิดอาการจาก Plaque
นศพต.เขม พรมมา เลขที่ 7
นศพต.ฉัตรชฏา กลมเกลียว เลขที่ 10