Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พรบ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. 2547-2 - Coggle Diagram
พรบ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. 2547-2
หมวด 4 การบรรจุแต่งตั้ง
ม.53 ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแตงตั้ง มีดังนี้
3.รอง ผอ.และ ผอ.สถานศึกษา ศน. บุคลากรทางการศึกษา ตาม ม.38 ค.(2) ใน สนง.เขต ที่ตำกว่า เชี่ยวชาญพิเศษ ให้ ผอ.สนง.เขตพื้นที่ มีอำนาจ
4.ครูผู้ช่วย ครู บุคลากรทางการศึกษา ม.38 ค.(2) ในสถานศึกษา ให้ ผอ.สถานศึกษามีอำนาจ โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขต
2.รอง ผอ.และ ผอ.สนง.เขตพื้นที่ ตำกว่า เชี่ยวชาญพิเศษ ให้ เลขาธิการ กพฐ.มีอำนาจ
1.ตำแหน่งวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ เมื่อได้รับอนุมัติจาก ก.ค.ศ. แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมีอำนาจ และให้ รมต.ทูลเพื่อโปรดเกล้า
หมวด 6 วินัยและการรักษาวินัย
ม.84 การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.85 การปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติ ครม. หรือนโยบายของรัฐบาล ประมาทเลินเล่อ หรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวัง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.86 การขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งในหน้าที่ โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบราชการ อันให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.87 การละทิ้งหน้าที่หรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันควร เป็นเหตุเกิดความเสียหายแก่ราชการร้ายแรง หรือละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อคราวเดียวกันเกินกว่า 15 วัน เป็นความผิดอย่างร้ายแรง
ม.88 การลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยี่ยดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้เรียน หรือประชาชนผู้มาติดต่ออย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.89 การกลั่นแกล้ง กล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นจริง จนได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.90 การกระทำหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำหาประโยชน์อาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ของตน โดยมุ่งหมายจะให้เป็นการซื้อขายหรือได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตแหน่งหรือวิทยฐานะใดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ การให้หรือได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือสิทธิประโยชน์อื่น เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.91 คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือรับจัดทำผลงานทางวิชาการไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ เพื่อให้ผู้อื่นนำไปใช้ประโยชน์ เป็นความผิดอย่างร้ายแรง
ม.92 ครูและฯ ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือ ผู้จัดการ หรือตำแหน่งใด ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
ม.93 ไม่เข้าไปเกี่ยวกับการทุจริต ซื้อสิทธิ ขายเสียง ในทุกระดับ หากฝ่าฝืน เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ม.94
วรรค 2 การกระทำความผิดอาญาจนรับโทษจำคุก หรือมากกว่า เว้นแต่ความผิดกระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
วรรค 3 เสพยาเสพติดหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นเสพยาเสพติด เล่นการพนันเป็นอาจิณ หรือล่วงละเมิดทางเพต่อผู้เรียนหรือนักศึกษา เป็นความผิดอย่างร้ายแรง
ม.95 เมื่อปรากฎมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการครูและฯ กระทำผิดวินัย โดยมีพยานหลักฐาน ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยทันที
ผู้บังคับบัญชาใดละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรานี้ และตามหมวด 7 หรือมีพฤติกรรมปกป้อง ช่วยเหลือ หรือไม่สุจริต ให้ถือว่าผู้นั้น กระทำผิดวินัย
ม.96 โทษทางวินัย มี 5 สถาน คือ
3.ลดเงินเดือน
4.ปลดออก
2.ตัดเงินเดือน
5.ไล่ออก
1.ภาคทัณฑ์
ม.97 การลงโทษให้ทำเป็นคำสั่ง
หมวด 7 การดำเนินการทางวินัย
ม.98 วรรค 1 ข้าราชการครูและฯ ซึ่งมีมูลควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนให้ได้ความจริงและความยุติธรรมโดยมิชักช้า โดยจะต้อง
แจ้งข้อกล่าวหา
สรุปพยานหลักฐาน
ให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและมีโอกาสชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหา
ม.98 วรรค 2 ให้ผู้มีอำนาจตาม ม.53 เป็นผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในกรณีที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงเท่านั้น
ม.100 หากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง สมควรลงโทษปลดออก หรือ ไล่ออก ให้ดำเนินการดังนี้
1.สำหรับตำแหน่งอธิการบดี ผอ.สนง.เขต เชี่ยวชาญพิเศษ ศาสตราจารย์ ให้เสนอ ก.ค.ศ.พิจารณา
2.ข้าราชการครูและฯ นอกเหนือจาก ข้อ 1 ให้เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตของผู้ถูกกล่าวหาพิจารณา
ม.103 ผู้มีอำนาจตาม ม..98 วรรค2 หรือวรรค 5 มีอำนาจสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาได้ แต่หากผลไม่ผิด ก็สั่งให้กลับรับราชการได้ดังเดิม
ม.99 เมื่อดำเนินการสอบสวนตาม ม.98 แล้ว ถ้า
ถ้ากระทำผิดวินัยให้ดำเนินการตาม ม.100
ถ้ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงต้องลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ถ้าจะลดหย่อนผ่อนโทษ ห้ามมิให้ลดโทษต่ำกว่าปลดออก
มิได้กระทผิดวินย ให้สั่งยุติเรื่อง
ม.100 หากมีการกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ
ตัดเงินเดือน
ลดเงินเดือน
ภาคทัณฑ์
หากเป็นความผิดเล็กน้อย จะงดโทษและให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือหรือว่ากล่าวตักเตือนก็ได้
ม.101 ให้กรรมการสอบสวนเป็น จพ.ตาม ป.อาญาและให้มีอำนาจเช่นเดียวกันกับพนักงานสอบสวนตาม ป.อาญา และให้มีอำนาจต่อไปนี้ด้วย
1.เรียกให้กระทรวง ทบวง กรม หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือห้างหุ้นส่วนบริษัท ชี้แจงข้อเท็จจริง ส่งเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่งผู้แทนหรือบุคคลมาชี้แจง หรือให้ถ้อยคำ
2.เรียกผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลใด ๆ มาชี้แจง หรือให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งเอกสารและหลักฐาน
หมวด 8 การออกจากราชการ
ม.107 ออกจากราชการ เมื่อ
5.ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
6.ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
4.ถูกสั่งให้ออก
3.ลาออก
2.พ้นจากราชการตามกฎหมาย บำเหน็จบำนาญ
1.ตาย
หมวด 9 การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
ม.121 หากโดนสั่งลงโทษภาคทันฑ์ ตัดเงินเดือนหรือลดเงินเดือน ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ.เขต ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้ง
ม.122 หากโดนสั่งลงโทษปลดออก ไล่ออก หรือสั่งให้ออก มีสิืทธิอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแต่รับแจ้ง
ม.123 หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมีความคับข้องใจจากผู้บังคับบัญชาหรือคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย มีสิทธิร้องทุกข์ต่อ อ.ก.ค.ศ.เขต หรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี
ม.125 หาก เห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จากคำวินิยฉัยของ อ.ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. ตามที่ได้อุทธรณ์แล้ว ก็สามารถ ฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และถือเป็นที่สุด