Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เตียง 2
แพทย์วินิจฉัยเป็น Hypertensive emergency with biventricular heart…
เตียง 2
แพทย์วินิจฉัยเป็น Hypertensive emergency with biventricular heart failure with Respiratory failure
รับไว้ในโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566
ข้อมูลส่วนตัว
-
-
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน (present illness: PI)
9 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยมีไอ หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้ ต้องยกหัวสูง + Paroxysmal nocturnal dyspnea มีตัวบวมขาบวม ไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีใจสั่น อาการหอบเป็นมากขึ้น ไปรพ.พิบูล at รพช. BP 210/110 -233/128 ได้ Lasix 80 mg v stat + Nitroglycerine (1:5) rate 5 ml/hr. On ETT No.7.5 with Ventilator Refer สปส.
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (past history: PH)
Diabetes Mellitus Type 2 , Hypertension, Chronic kidney disease stage3
พยาธีสรีรวิทยา
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)
คือ ภาวะที่หัวใจ
ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่าง เพียงพอจนส่งผลให้อวัยวะต่างเกิดการขาดออกซิเจน นอกจากนั้น หัวใจซึ่งทำหน้าที่เหมือนปั๊มน้ำ เพื่อส่งเลือดออกจากห้องหัวใจ เมื่อหัวใจมีความบกพร่องในการสูบฉีดเลือด จะส่งผลให้เกิดมีภาวะคั่งของเลือดหรือน้ำในห้องหัวใจ ตามมาได้ และเกิดการล้นกลับไปที่ ปอด หรือเกิดภาวะที่เรียกว่าน้ำท่วมปอด
หัวใจห้องล่างขวาวาย (Right-
sided heart failure)
เกิดจากกล้ามเนื้ออหัวใจห้องล่างขวาไม่สามารถสูบฉีด
ไม่สามารถสูบฉีด
เลือดไปฟอกที่ปอดต้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งมักเกิดจาก
แรงตันในหลอดเลือดฝอยที่ปอดขึ้นและกล้ามเรื้อหัวใจห้อง ล่างขวาวายเมื่อหัวใจห้องล่างขวาบีบตัวลตลงทำให้
ปริมาตรเลือดค้างในหัวใจห้องล่างขวา มากขึ้นส่งผลให้
ความตันในหัวใจห้องล่างขวาเพิ่มขึ้นจึงทำให้หัวใจห้อง บนขวาบีบเลือดส่งมายังหัวใจห้องล่างขวาไต้น้อยลง ทำให้
เลือดเหลือค้างที่หัว ใจห้องบนขวา
ในเคส พบว่า
แพทย์วินิจฉัย biventricular heart failure พบว่ามีอาการของข้างใดข้างหนึ่งเป็นมากกว่าอีกข้างหนึ่ง ตัวอย่างเช่นมีอาการของ left sided heart failure มากกว่าอาการของ right sided heart failure
หัวใจท้องล่างซ้ายวาย (Left-sided heart failure)
เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวลดลงทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
เมื่อ
หัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวลดลงจะทำให้ปริมาตรเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง ส่งผลให้เลือดเหลือค้างในหัวใจห้องล่าง
ข้ายมากขึ้น ความตันเลือดในหัวใจห้องล่างซ้ายจึงสูงขึ้น
-
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติทางโครงสร้างหรือการทำงานในการเติมเลือด (filling) หรือการสูบเลือด(ejection) ออกจากหัวใจห้องล่าง อาการแสดงสำคัญของภาวะล้มเหลว ได้แก่ หายใจขัด(dyspnea) และอ่อนช้า(fatigue) ซึ่งทำให้
ผู้ป่วยไม่สามารถออกกำลังกายหรือออกแรงหนักๆได้และมี การคั่งของน้ำตามที่ต่างๆ ซึ่งไปสู่การเกิดภาวะน้ำคั่งในปอด (pulmonary congestion) น้ำคั่งในช่อง ท้อง(splanchnic congestion) และอาการบวม
น้ำ(peripheral edema) ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเหนื่อย
หอบขณะ กำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีการ
คั่งของน้ำร่วม
ในเคส พบว่า
ผู้ป่วยมีประวัติหอบเหนื่อย มีการเจ็บป่วยที่ชักนำในเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว คือผู้ป่วยเป็นโรคความดัน โลหิตสูงเป็นไตวายระยะที่3 ซึ่งขณะเป็นมีอาการ เหนื่อย หายใจ ลำบาก
อาการแสดงจากภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
หน้ามืด ไตวาย ซึ่งเป็นผลจากอวัยวะสำคัญขาดออกซิเจนเรื้อรัง และ
สำคัญขาดออกซิเจนเรื้อรัง และ อาการเหนื่อยจากภาวะน้ำท่วมปอด นอนราบไม่ได้ หน้าบวม ขาบวม ซึ่งเกิดจากกลไกที่มีน้ำคั่งอยู่ในร่างกาย
ในเคส พบว่า
-
-
-
-
กระสับกระส่าย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 2 ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ เนื่องจากประสิทธิภาพในการบีบตัวของหัวใจลดลง
-
- เฝ้าระวังอาการและอาการแสดง เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและการกำซาบเลือดของปอดและหัวใจลดลง โดยการสังเกตประเมินอาการเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดปกติหัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็วความตันโลหิตต่ำ ชีพจรแคบอย่างต่อเนื่อง
- ติดตามคลื่นและจังหวะการเต้นของหัวใจจาก Monitor อย่างต่อเนื่อง เมื่อพบผิดปกติให้รายงานแพทย์ทราบทันที และเตรียมอุปกรณ์การช่วยฟื้นคืนชีพไว้ให้พร้อมเพื่อการช่วยเหลือทันที
- ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง พร้อมทั้งคลำและสังเกตลักษณะชีพจรส่วนปลายอาการเหนื่อย หอบ หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้ปลายมือปลายเท้าเย็น ซีดเขียว เพื่อให้การช่วยเหลือทันทีเมื่อพบความผิดปกติ
- ประเมินปริมาณเลือดออกจากหัวใจในขณะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยประเมินความแรงและจังหวะการเต้นของชีพจร อาการหน้ามืด วิงเวียนเป็นลม ผิวเย็นซีด ความดันโลหิตต่ำ
- ติดตามและประเมินจำนวนปัสสาวะต่อชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะช็อคจากกล้ามเนื้อหัวใจทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
- Absolute bed rest และส่งเสริมให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ เพื่อลดปริมาณ การใช้ออกซิเจน
- ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง จัดท่านอนศีรษะสูง45 องศา ตามแผนการรักษา ติดตามผล 02 Sat ทุก 1 ชั่วโมงถ้าต่ำกว่า 95% ให้รายงานแพทย์ทันที
- สังเกตอาการบวมที่ขา ปลายมือปลายเท้า หนังตา พร้อมบันทึกน้ำเข้าออกร่างกาย (I/O) เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจ
พยาธิสรีรวิทยา
-
สาเหตุ
เป็นโรคไตวาย หรือมีความผิดปกติของต่อมหมวกไต หรือมีความผิดปกติ
ของเส้นเลือดแดงบางเส้น ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง
ความอ้วน มีโรคความดันโลหิตสูงในครอบครัว การสูบบุหรี่ การรับ
ประทานอาหารที่มีรสเค็ม และการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินควร
ในเคส พบว่า
-ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรังระยะที่3 โรคเบาหวานชนิดที่2
- สูบบุหรี่ 10 กว่าปี
-ดื่มแอลกอฮอล์ 10 กว่าปี
-รับประทานยาไม่ต่อเนื่อง
ความหมาย
ภาวะความดันโลหิตสูงที่มากกว่า 180/110 มิลลิเมตรปรอท ร่วมกับมี
อาการของภาวะความดัน โลหิตสูง เช่นปวดศีรษะรุนแรง หอบเหนื่อย ฯลฯ แต่ ภาวะความดันโลหิตสูงนั้น
ยังไม่มีอันตรายเฉียบพลันต่ออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
-
-
-
-