Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุธ - Coggle Diagram
หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุธ
แสดงตนเป็นพุทธมามกะแต่ยังเยาว์
ศาสนิกชนหลายศาสนามีการแสดงออกต่อผู้อื่นหรือต่อสาธารณะชนว่าตนได้เข้าเป็นสมาชิกหรือเข้านับถือศาสนานั้นๆแล้ว
มีที่บูชาประจำบ้าน
เพื่อเป็นที่เคารพกราบไหว้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย
ไหว้พระสวดมนต์ประจำวัน
เป็นการเสริมข้อต้น ๆ ทั้ง 2 คือการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ให้รู้จักความกตัญญูตามหลักธรรม ระลึกถึงคุณของผู้มีพระคุณมีบิดามารดาครูอาจารย์ อย่างน้อยก่อนเข้านอนวันละครั้ง
ตักบาตรตามกำลังของตน
เพื่อเป็นการสืบพระศาสนาด้วยการบำรุงพระภิกษุสงฆ์ให้ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย นำมาเผยแผ่แก่ประชาชนทั่วไปให้ประพฤติปฎิบัติทั้งเป็นการฝึกใจในการบริจาคทาน
ฟังธรรมเป็นนิจ
ในวันพระหรือวันอาทิตย์ได้เข้าวัดฟังธรรมหรือแม้ทางสื่อสารมวลชนที่เผยแพร่อยู่ทั่วไป
ทำบุญและประกอบพิธีตามฤดูกาล
เช่น วันสำคัญทางศาสนาหรือพิธีบำเพ็ญบุญต่าง ๆ ตามฤดูกาลนั้น ๆ
แสดงความเคารพเมื่อผ่านปูชนียวัตถุ
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์ที่ประพฤติตนสมควรแก่การกราบไหว้ในฐานะสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มีเบญศีล เบญจธรรม
ซึ่งเป็นหลักการเบื้องต้นที่จะให้คนละเว้นความชั่วแล้วทำความดีอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พร้อมทั้งทำหน้าที่แนะนำข้อสงสัยให้กับผู้อื่นที่ไม่เข้าใจ:
การแสดงความเคารพพระพุทธ
หากเดินผ่าน หรือนั่งรถผ่านพระพุทธรูป พระสถูปเจดีย์ ควรทำความเคารพด้วยการไหว้ คือ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นประนม น้อมศีรษะลงให้ปลายหัวแม่มือทั้ง 2 จรดระหว่างคิ้ว หากสวมหมวกอยู่ก็ควรถอดหมวกก่อนไหว้แสดงความเคารพ
การแสดงความเคารพพระธรรม
หากผ่านพระสงฆ์ขณะที่กำลังแสดงธรรม ควรแสดงความเคารพด้วยการไหว้ หรือหากเวลาฟังธรรมเทศนา ควรแสดงความเคารพโดยการนั่งสงบ ประนมมือตั้งใจฟัง ไม่พูดหรือคุย หรือแสดงกิริยาอาการไม่เรียบร้อย
การแสดงความเคารพพระสงฆ์
เมื่อไปพบพระสงฆ์ที่วัด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหนก็ตาม ถ้ามีพระพุทธรูปอยู่ในที่นั้นด้วย ให้กราบพระพุทธรูปก่อน แล้วจึงกราบพระสงฆ์เป็นลำดับต่อไป การกราบพระพุทธรูป และการกราบพระสงฆ์ ควรกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้ง
การเจรจากับพระสงฆ์ ควรใช้คำพูดที่แสดงความเคารพ ทั้งนี้เพราะพระสงฆ์เป็นปูชนียบุคคล การรับสิ่งของจากพระสงฆ์ สำหรับผู้หญิงจะรับสิ่งของกับมือพระสงฆ์โดยตรงไม่ได้ เนื่องจากมีข้อวินัยห้ามไว้ ไม่ให้พระสงฆ์สัมผัสหรือถูกต้องตัวสตรี จึงต้องนำไปวางบนผ้าที่พระสงฆ์ยื่นมารับสิ่งของเท่านั้น
ากนกา
การเป็นชาวพุทธที่ดีตามหลักทิศ 6
ในพระพุทธศาสนาได้เปรียบเทียบบุคคลต่างๆ ที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย กับทิศที่อยู่รอบตัวทั้ง 6 ทิศ ดังนี้
ปุรัตถิมทิส/ทิศเบื้องหน้า หมายถึง บิดา มารดา หน้าที่ของบิดามารดาที่มีต่อบุตรคือ การสั่งสอนบุตร ส่วนบุตรก็ต้องตอบแทนพระคุณของบิดามารดา ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
ทักขิณทิส/ทิศเบื้องขวา หมายถึง ครูบาอาจารย์ หน้าที่ที่ครูมีต่อศิษย์ คือสั่งสอนและฝึกฝนให้เป็นคนดี สอนวิชาให้เข้าใจแจ่มแจ้ง ส่วนหน้าที่ของศิษย์ที่มีต่อครูคือ การตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เคารพครู รู้คุณครู
ปัจฉิมทิส/ทิศเบื้องหลัง หมายถึง สามี หรือ ภรรยา หน้าที่ที่สามีและภรรยาพึงมีต่อกัน คือการไว้ใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือจุนเจือในการสร้างครอบครัว
อุตตรทิส/ทิศเบื้องซ้าย หมายถึง เพื่อน มิตร หน้าที่ของเพื่อนที่พึงมีต่อกันคือ การมีน้ำใจต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
เหฎฐิมทิส/ทิศเบื้องล่าง หมายถึง บริวาร ลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา หน้าที่ของนายจ้างที่มีต่อลูกจ้างคือ การดูแลสวัสดิการ การให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ส่วนหน้าที่ของลูกจ้างที่มีต่อนายจ้าง คือ การตั้งใจทำงานอย่างเต็มความสามารถ
อุปริมทิส/ทิศเบื้องบน หมายถึง สมณะ (พระสงฆ์) หน้าที่ที่คฤหัสถ์มีต่อพระสงค์คือ การแสดงความเคารพ ทั้งกายและใจ น้อมนำคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ส่วนหน้าที่ที่พระสงฆ์มีต่อคฤหัสถ์คือ การสั่งสอนแนวทางในการดำเนินชีวิต และเป็นแบบอย่างในการรักษาศีล