Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่ม 4 พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) - Coggle Diagram
กลุ่ม 4 พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA)
ประโยชน์สำหรับประชาชน
รับทราบวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างแจ้งชัด
ขอให้ลบ ทำลาย หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
สามารถร้องเรียนและขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หากมีการใช้ข้อมูลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้แต่แรก
ลดความเดือดร้อนลำคาญ หรือความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ขอบเขตการบังคับใช้
มาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแก่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักร ไม่ว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยนั้น ได้กระทำในหรือนอกราชอาณาจักรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอยู่นอกราชอาณาจักร พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแก่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรโดยการดำเนินกิจกรรมของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เมื่อเป็นกิจกรรม ดังต่อไปนี้ (1) การเสนอสินค้าหรือบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักร ไม่ว่า จะมีการชำระเงินของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ก็ตาม (2) การเฝ้าติดตามพฤติกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร
บททั่วไป
มาตรา 19 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลไม่ได้หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บทบัญญัติ แห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้กระทำได้ การขอความยินยอมต้องทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีการดังกล่าวได้
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
มาตรา 22 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้เก็บรวบรวมได้เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
มาตรา 23 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียด ดังต่อไปนี้ เว้นแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทราบถึงรายละเอียดนั้นอยู่แล้ว
ตัวอย่างข้อมูลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ-นามสกุล หรือชื่อเล่น
เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประทันสังคม เลขใบขับขี่
ที่อยู่ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์
ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, Cookie ID
ข้อมูลระบุทรัพย์สินบุคคล เช่น ทะเบียนรถ โฉนดที่ดิน
ข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล เช่น log file
ตัวอย่างข้อมูลที่มีความอ่อนไหว
เชื้อชาติ, เผ่าพันธ์
ความคิดเห็นทางการเมือง
ศาสนา
ประวัติอาชญากรรม
ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ
ข้อมูลชีวภาพ
การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มาตรา 26 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ควบคุมข้อมูลต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพียงในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตและตามที่เจ้าของข้อมูลได้แจ้งหรือตกลงไว้
มาตรา 27 กำหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือฝ่ายที่ได้รับอนุญาตในกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ให้คำร้องขอเปิดเผย หรือในกรณีอื่นที่กฎหมายกำหนดโดยชัดแจ้ง
บทกำหนดโทษทางแพ่ง
มาตรา 77 ผู้ใดร่วมกระทำความผิดที่มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้บทลงโทษตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ หากเป็นที่ปราศจากความผิดความผิดแห่งความปลอดภัยและความปลอดภัยซึ่งทำให้ความเสียหายของเจ้าของข้อมูลนั้นกันเสียหายรวมถึงความผิดหรือไม่ก็ตาม
การพิพากษาโทษทางแพ่งในมาตรา 77 ขึ้นอยู่กับลักษณะของความผิดที่เกิดขึ้น รวมถึงแรงจูงใจและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล ค่าเงินที่ถูกกำหนดในการปรับโทษเป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความรุนแรงของการละเมิดและผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาโทษทางแพ่งตามมาตรา 77 ต้องอยู่ในเขตของความสมเหตุและถูกต้องตามคำพิพากษาของศาล
บทกำหนดโทษทางอาญา
มาตรา 79 ใครฝ่าฝืนข้อกำหนดของมาตรา 20 หรือมาตรา 21 โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือลายมือชื่อดิจิทัลตามมาตรา 26 หรือไม่ได้กระทำการเพื่อทำให้ความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตกเป็นสาธารณะ หรือการกระทำการอื่นใดตามมาตรา 22 ให้เสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้โทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
บทกำหนดโทษทางปกครอง
การพิพากษาโทษทางปกครองในมาตรา 84 นั้นเชื่อว่าอยู่ในกรอบของความรุนแรงของความผิดที่เกิดขึ้น และส่วนหนึ่งของค่าเงินที่ถูกกำหนดในการปรับโทษสามารถเป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความรุนแรงของการละเมิดและผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาโทษทางปกครองตามมาตรา 84 จะต้องอยู่ในเขตของความสมเหตุและถูกต้องตามคำพิพากษาของศาล