Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เทคนิคการวัด, นางสาวกานต์มณี หน่อนะ รหัส 654101015 สาขาวิชาภาษาไทย -…

- - - - แฟ้มบรรจุตัวอย่างของงาน
      - แฟ้มกระบวนการทำงาน
      - แฟ้มแบบผสม
    - - แฟ้มนิทรรศการหรือแฟ้มแสดงผลงาน
      - แฟ้มสำหรับการประเมินผู้เรียนเป็นรายวิชา
      - แฟ้มที่สะสมผลงานรวมของผู้เรียนทั้งหมด
      - แฟ้มผลงานของครู
  - - - เป็นแนวทางการให้คะแนน
  - - - การสร้างแบบบันทึกผลการประเมิน ต้องใช้เป้าหมายของการจัดทำแฟ้มสะสมผลงานเป็นแนวทางกำหนดข้อความหรือประเด็นการประเมิน แบบบันทึกผลการประเมินควรมีคู่มือการใช้ เพื่อให้ผู้ประเมินสามารถประเมินไปในทางเดียวกัน
    - - เลือกมาตรวัด อาจจัดทำเป็นมาตรวัดประมาณค่าเชิงจำนวน เช่น 1 2 3 หรือเชิงคุณภาพ เช่น ดี พอใช้ ปรับปรุง
      - กำหนดมาตรฐานของคุณภาพงาน เป็นการกำหนดรายละเอียดของประเด็นการประเมินในแต่ละตำแหน่งคุณภาพของมาตรวัด
      - 1 .กำหนดการประเมิน โดยพิจารณาจากเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน
      - จัดทำเป็นแบบบันทึกที่ประกอบด้วยประเด็นการประเมินและมาตรฐานของคุณภาพงาน
  - - - แสดงพัฒนาการของนักเรียนอย่างต่อเนื่องและนักเรียนได้ปรับปรุงผลงาน ของตนตลอดเวลา
      - การประเมินโดยใช้แฟ้มผลงานเป็นการประเมินตามสภาพจริงสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการวัดและประเมินผลระหว่างเรียนและปลายภาคเรียนหรือปลายปี
      - เป็นการรวบรวมผลงานซึ่งแสดงศักยภาพของผู้เรียนที่สะท้อนถึงความพยายาม พัฒนาการ และความจำเป็นในการเรียนรู้ของผู้เรียน
      - เพิ่มแรงจูงใจในการเรียนของนักเรียนและวัดความสามารถของนักเรียนได้หลายด้าน
      - ผู้เรียนสามารถแสดงความสามารถในการทำงานโดยที่การสอบทำไม่ได้
    - - มีปัญหาเรื่องสถานที่เก็บรวบรวมผลงานโดยเฉพาะครูที่สอนหลายวิชาในแต่ละปีจะมีแฟ้มสะสมงานของผู้เรียนแต่ละวิชาแต่ละชั้นจำนวนมาก
      - การใช้แฟ้มสะสมงานประเมินผลผู้เรียนยังมีปัญหาในเรื่องความเชื่อมั่นหรือความเห็นที่สอดคล้องกันในการประเมิน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการกำหนดเกณฑ์ในการประเมินยังไม่ค่อยชัดเจน หรือไม่ตรงกันผลการประเมินจึงไม่สอดคล้องกัน
      - ใช้เวลามากเนื่องจากผู้เรียนต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวมผลงานรวมทั้งครูและผู้เรียนยังต้องใช้เวลาในการพิจารณาตรวจทานซึ่งโดยทั่วไปครูจะตรวจทานคนเดียวกับผู้เรียนทั้งชั้นทำให้ต้องใช้เวลามาก
- - - - การสังเกตที่ผู้วิจัยเฝ้าสังเกตอยู่วงนอก ไม่เข้าไปร่วมในกิจกรรมที่ทำอยู่
    - - ผู้สังเกตเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับกลุ่มคนที่ถูกศึกษา
        มีการทำกิจกรรมร่วมกัน
  - - - สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม แล้วนำเป็นข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียน
      - ข้อมูลที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนความรู้สึก
      - บันทึกพฤติกรรมได้โดยตรง สังเกตเวลาไหนก็ได้และ สังเกตได้หลายอย่าง
      - เหมาะกับกลุ่มที่อ่านหนังสือไม่ได้ เด็กเล็ก และผู้พิการทางสมอง
    - - ต้องใช้เครื่องมืออื่นประกอบ
      - ความลำเอียงของผู้สังเกต
      - พฤติกรรมบางพฤติกรรมยังไม่แสดงออกในช่วงเวลาที่สังเกตทำให้ไม่เห็นพฤติกรรมนั้น
      - ไม่สามารถบันทึกพฤติกรรมได้ทุก
        พฤติกรรมที่แสดงออก
      - ใช้เวลามาก เสียค่าใช้จ่ายมาก
- - - - ช่วยให้นักเรียนสามารถควบคุมตัวเองในการปฏิบัติงานเพื่อไปสู่ความสำเร็จ
      - เป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมปฏิบัติงานต่างๆ ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี
      - ช่วยให้นักเรียนสามารถระบุคุณลักษณะจากงานที่เป็นตัวอย่างได้ โดยใช้ Rubric ตรวจสอบ
      - ช่วยให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ปกครอง ผู้สนับสนุน ผู้นิเทศก์ ได้เกิดความเข้าใจเกณฑ์ ในการตัดสินผลงานนักเรียนที่ครูใช้
      - ช่วยให้ครูเกิดความกระจ่างชัดยิ่งขึ้นว่าต้องการให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้หรือพัฒนาการอะไรบ้าง
      - ช่วยในการให้เหตุผลประกอบการให้เกรดนักเรียนได้
      - ช่วยให้การคาดหวังของครู ที่มีต่อผลงานของนักเรียนบรรลุผลสำเร็จได้ โดยนักเรียนเกิดความเข้าใจ และสามารถใช้ Rubric ต่อการประเมินและพัฒนาชิ้นงานของตน
      - ช่วยเพิ่มคุณภาพของนักเรียน
    - - คะแนนเกิดความลำเอียง
      - อาจเกิดข้อผิดพลาดในการรวบรวมคะแนน
      - บางครั้งการให้คะแนนอาจมาจากความรู้สึกของผู้ให้คะแนน
- - - - ใช้วัดพฤติกรรม ด้านอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสติปัญญา
    - - ใช้วัดพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสมอง หรือสติปัญญา
  - - - แบบจำกัดคำตอบ
      - แบบไม่จำกัดคำตอบ
  - - - ส่งเสริมทักษะการเขียน
      - เดาไม่ได้
      - สร้างง่าย และรวดเร็ว
      - ระหยัดค่าใช้จ่าย
      - เหมาะสมที่จะวัดความคิดขั้นสูง
      - ลดการทุจริตในการสอบ
    - - มีความไม่ยุติธรรมในการตรวจ
      - เสียเวลาในการตรวจ
      - ถามได้ไม่คลุมเนื้อหา สุ่มเนื้อหาที่จะวัดได้จำกัด ถามได้น้อยข้อ
- - - - เป็นชุดคำถามที่มีโครงสร้าง
      - ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ หรือวัดตัวแปรเฉพาะ
    - - เป็นแบบที่ให้เลือกตอบตามน้ำหนักความมสำคัญ
      - มุ่งให้ผู้ตอบประเมินระบุออกมาเป็นระดับ
    - - นิยมใช้ในการเก็บข้อมูล
      - สามารถดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อีเมล หรือแบบฟอร์มกระดาษ
    - - ให้ผู้ตอบเลือกเรียงความสำคัญ จากมากไปหาน้อย หรือจากน้อยไปหามาก
      - คำตอบจะขึ้นอยู่กับความรู้สึก หรือความคิดเห็นของผู้ตอบ
  - - - ผู้ตอบมีเวลาไตรตรอง และสามาารถย้อนกลับมาตอบคำถามช่วงต้น ๆ ที่ไม่เข้าใจหรือยังคิดไม่ออกในตอนแรกได้
      - สามารถจัดส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ได้
      - ผู้ตอบจะมีความเชื่อมั่นว่าคำตอบของตนจะเป็นความลับมากกว่าการสัมมภาษณ์หรือการสังเกต เพราะไม่มีการระบุตัวบุคคลผู้ตอบในแต่ละแบบสอบถามนั้น
    - - มีข้อจำกัดด้านเวลา ถ้าการตอบแบบสอบถามยาวเกินไปมักจะไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากผู้ตอบ
      - ในกรณีที่ผู้ตอบไม่เข้าใจเขาจะไม่สื่อสารกลับมาให้ผู้ทำการวิจัยทราบและจะตอบไปตามที่เข้าใจในขณะนั้น
      - แบบสอบถามเป็นการเก็บข้อมูลที่ไม่ยืดหยุ่น เจาะลึกในรายละเอียดไม่ได้
  - - - เป็นการศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง
      - ใช้คำถามปลายปิด
      - ให้ระบุความชอบเป็นตัวเลข
    - - มักไม่ใช้สถิติในการวิเคราะห์
      - มีการวิเคราะห์หาข้อสรุปและข้อเท็จจริงก่อนนำไปใช้
  - - - แบบสอบถามความสนใจและประสบการณ์
    - - แบบสอบถามความพึงพอใจ
    - - แบบสำรวจนักเรียนที่ออกกลางคัน/มีแนวโน้มจะออกกลางคัน
    - - แบบจัดอันดับการให้บริหารอินเตอร์เน็ต
  - - - การแสวงหาข้อมูลหรือความรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถามคำถาม การทำวิจัย หรือการตรวจสอบหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
    - - เป็นวิธีรวบรวมข้อมูลที่บุคคลให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ความคิด หรือพฤติกรรม ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่รายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัว
  - - - ข้อมูลหลักเกี่ยวกับเรื่องที่จะถาม
      - ข้อเสนอแนะ
      - ข้อมูลเบื้องต้น/ข้อมูลทั่วไป
- - - - เป็นการประเมินความสามารถภาคทฤษฎี
    - - เป็นการประเมินความสามารถภาคปฏิบัติ ทำการประเมิน 3 ด้าน
        
        กระบวนการ
        
        ผลผลิต
        
        บุคลิกภาพ
        
        ทักษะการทำงาน
        
        จิตพิสัยและกิจพิสัยการทำงาน
  - - - แบบสัมภาษณ์
      - แบบทดสอบ
    - - แบบมาตราส่วนประมาณค่า
      - แบบตรวจสอบรายการ
  - - - ข้อดี
        
        ระหว่างการสัมภาษณ์สามารถสังเกตความจริงใจในการตอบของผู้ถูกสัมภาษณ์จากกิริยา ท่าทางได้
        
        ระหว่างการสัมภาษณ์ ตรวจสอบคำตอบได้และ สามารถหาข้อมูลได้ลึกขึ้นเมื่อเกิดข้อสงสัยในคำตอบ
        
        สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีปัญหาในการอ่าน หรือการเขียน
        
        ทำให้ได้ข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข้อมูลประเภทบุคคล
      - ข้อจำกัด
        
        มักสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย แรงงาน และเวลามาก
        
        อาจได้ข้อมูลที่ต้องไม่ครบถ้วน เพราะผู้สัมภาษณ์และ/หรือผู้ถูกสัมภาษณ์อาจจะมีความเครียด กระวนกระวายใจ ลืมถามคำถามบางคำถามไป
        
        ถ้าใช้ผู้สัมภาษณ์หลายคน การควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันย่อมทำได้ยาก
    - - ข้อดี
        
        วัดความคิดริเริ่มและความคิดเห็นได้ดี
        
        สร้างได้ง่าย รวดเร็ว ประหยัด
        
        เดายาก
        
        วัดพฤติกรรมด้านความคิดด้านสังเคราะห์และการประเมินค่าได้ดี
        
        ส่งเสริมพัฒนาทักษะการเขียนและนิสัยการเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ
      - ข้อจำกัด
        
        ตรวจให้คะแนนยาก เสียเวลามาก
        
        คะแนนไม่แน่นอน มีความเที่ยงน้อย
        
        วัดเนื้อหาได้ไม่ครอบคลุมเพราะข้อสอบถามได้น้อยข้อ
        
        ทักษะด้านภาษามีอิทธิพลต่อการตรวจ
        
        วินิจฉัยข้อบกพร่องของผู้เรียนไม่ได้
    - - ข้อดี
        
        ใช้ทดสอบได้กับทุกวิชา
        
        สร้างง่าย ตรวจง่ายและมีความเป็นปรนัยในการตรวจสูง
        
        ผู้ตอบใช้เวลาทำน้อย
        
        เหมาะกับการวัดพฤติกรรมความรู้-ความจำ
      - ข้อจำกัด
        
        โอกาสที่เดาถูกมีมาก
        
        วัดพฤติกรรมระดับสูงไม่ได้
        
        ไม่สามารถวินิจฉัยสภาพการเรียนได้
        
        มีค่าอำนาจจำแนกต่ำ
- - - - แบบสัมภาษณ์ชนิดไร้โครงสร้าง
        
        จัดทำไว้เป็นแนวข้อคำถามอย่างคร่าว ๆ ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน
        
        ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจได้รับคำถามที่แตกต่างกัน แต่ยังคงอยู่ในประเด็นเดียวกัน
        
        ใช้กับการสัมภาษณ์ที่ไม่มีการสร้างข้อคำถาม
      - แบบสัมภาษณ์ชนิดกึ่งโครงสร้าง
        
        ผสมผสานระหว่างแบบสัมภาษณ์มีโครงสร้างกับแบบไร้โครงสร้าง
        
        มีรูปแบบไม่แน่นอน
        
        นิยมใช้กับการวิจัยเชิงคุณภาพ
      - แบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้าง
        
        มักจัดพิมพ์ไว้เป็นแบบสัมภาษณ์
        
        ผู้ถูกสัมภาษณ์จะได้ใช้แบบสัมภาษณ์ชุดเดียวกัน
        
        ใช้กับการสัมภาษณ์ที่กำหนดโครงสร้างของคำถาม
  - - - เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสัมภาษณ์
      - การวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลทำได้ยากกว่ากาารใช้แบบสอบถาม
      - ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล
      - ข้อมูลที่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผู้สัมภาษณ์
    - - เหมาะสำหรับผู้ตอบที่อ่านหนังสือไม่ออก
      - ผู้สัมภาษณ์สามารถอธิบายคำถามได้อย่างชัดเจน
      - ผู้ถูกสัมภาษณ์ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามมากกว่าวิธีการส่งแบบสอบถามให้ตอบ
      - ทราบปฏิกิริยาของผู้ตอบทันที
  - - - ไม่ใช้คำถามที่ทำให้ผู้ตอบรู้สึกต่อต้าน หรือทำให้เกิดอคติในการตอบข้อมูล
      - ไม่ใช้คำถามที่เป็นความขัดแย้งค่านิยมของสังคม
      - ไม่ใช้คำถามที่เป็นการชี้นำให้เกิดคำตอบที่ต้องการ
  - - - คำถามอาจเป็นได้ทั้งคำถามปลายเปิดและปลายปิด
    - - การสัมภาษณ์แบบมีจุดสนใจเฉพาะ
      - การสัมภาษณ์แบบหยั่งลึก
      - การสัมภาษณ์แบบไม่จำกัดคำตอบ