Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

อาการในช่องท้อง Abdominal Symptoms, 6310410015 นางสาวกุลิสรา ดีไร่ -…

- - - - ฮอร์โมน ความเครียด หรือการรับประทานอาหาร เช่น รับประทานอาหารรสเผ็ด หรือดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอลล์
    - - ปวดแสบบริเวณใต้ลิ้นปี่(Heartburn)
      - ขมคอหลังตื่นนอน
      - เรอบ่อย(Burp)
      - เสียงแหบ
    - - มีลมในท้อง หรือเรอ
        
        ให้ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือยาต้านกรดที่มีไซเมทิโคนผสม แอร์เอกซ์ (Air-X) ครั้งละ 1 เม็ด หรือ Mixt. Carminative ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
      - คลื่นไส้อาเจียน
        
        ให้เมโทโคลพราไมด์(metoclopramide) หรือดอมเพอริโดน (Domperidone) 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
      - แสบท้องเวลาหิว เรอเปรี้ยว จุกเสียดหลังกินอาหาร
        
        ยาต้านกรด (ยาลดกรด - antacids)
        
        ให้ Alum Milk 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 4 ครั้งหลังอาหาร
        
        ยาลดการหลั่งกรด (antisecretory drugs)
        
        Proton pump inhibitor
        
        Omeprazole (20 มิลลิกรัม) รับประทานวันละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหาร
        
        H2blocker - H-2-receptor antagonists
        
        ให้Ranitidine (150 มิลลิกรัม) รับประทานวันละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง
        
        ให้Cimetidine (400 มิลลิกรัม)
        รับประทานวันละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง
        
        ยาเพิ่มการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร (gastrointestinal prokinetic agents)
        
        ให้ Metoclopramide
        
        ให้ Domperidone
      - แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
        
        กินอาหารให้ตรงเวลา ไม่กินอาหารรสจัด งดสูบบุหรี่ งดดื่มชา กาแฟ
        
        ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ
        
        ไม่เข้านอนหลังกินอาหารเสร็จใหม่ รออย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
  - - - ปวดจุกแน่นใต้ลิ้นปี่และค่อนมาทางซ้าย มักปวดหลังกินอาหาร
      - กลืนลำบาก ปวดเมื่อกลืน
      - เรอบ่อยรสเปรี้ยว
      - ขย้อนหลังกินอาหาร 30-60 นาที
      - เจ็บคอ แสบลิ้น ไอเรื้อรัง
    - - มีอาการระยะแรก
        
        ให้ยาลดกรด Alum Milk 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 4 ครั้งหลังอาหาร ร่วมกับยาลดการหลัjงกรด Ranitidine วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์
        
        ให้ยากลุ่มออกฤทธิ์เพิ่มการเคลื่อนไหวของกระเพาะ
        อาหารและลำไส้ เมโทโคลพราไมด์ (metoclopramide) หรือดอมเพอริโดน (Domperidone) 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
        
        ให้ยากลุ่ม Proton pump inhibitors (PPIs) เช่น Omeprazole
      - มีอาการเป็นๆหายๆเรื้อรัง เสียงแหบ เจ็บคอ และอาการผิดปกติอื่นๆ
        
        ส่งต่อโรงพยาบาล
      - แนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรรมการกินและลดน้ำหนัก
    - - การหย่อนสมรรถภาพของ lower esophageal sphincter น้ำย่อยไหลย้อนไปหลอดอาหารและลำคอ
      - กินอิ่มเกินไป
      - นอนราบ/นั่งงอตัว
      - ภาวะอ้วน ตั้งครรภ์ ใส่กางเกงคับ
      - ดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่ กินอาหารรสจัด
  - - - ปวดแสบท้อง
      - ปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่
      - ปวดสัมพันธ์กับมื้ออาหาร
      - อาการปวดดีขึ้นเมื่อกินอาหาร
    - - จุกเสียดแน่นท้อง
        
        ให้ยาต้านกรด (ยาลดกรด - antacids) เช่น ให้ Alum Milk 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร ร่วมกับ Omeprazole (20 มิลลิกรัม) วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าและเย็น 6-8 สัปดาห์
      - เครียด ให้ยากล่อมประสาท
      - แนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพการกิน
    - - รับประทานยา อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
      - ดื่มแอลกอฮอล์
      - ความเครียด
      - ติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ
        Helicobacter pylori หรือ H. pylori
  - - - การกินยาNSAIDs
      - ดื่มแอลกอฮอล์และความเครียด
      - ติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ Helicobacter pylori หรือ H. pylori
    - - ปวดแสบท้อง ปวดตื้อจุกเสียด เรื้อรังหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ปวดบริเวณกลางยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่
      - ปวดสัมพันธ์กับมื้ออาหาร
      - อาจมีประวัติเลือดออกจากทางเดินอาหาร
    - - รักษาเช่นเดียวกับแผลที่กระเพาะอาหาร
  - - - ไข้
      - ปวดท้องบริเวณบนขวา
      - คลื่นไส้อาเจียน
      - อุจจาระสีซีด ฉี่สีเข้ม
      - Positive Murphy sign
    - - รักษาตามอาการ ให้NPOและrefer
  - - - มากกว่า 50%ไม่มีอาการ
      - ท้องอืด ท้องเฟ้อหลังกินอาหารมัน
      - ปวดบิดเป็นพักๆ
    - - รักษาตามอาการ แนะนำให้ไปตรวจพิเศษที่โรงพยาบาล
  - - - รักษาตามอาการ และReferภายใน24ชม.
    - - ไข้
      - ปวดท้องรุนแรงเป็นพักๆ
      - ปวด/กดเจ็บบริเวณชายโครงขวา
      - Murphy sign Positive
      - อาจมีตับโต
  - - - อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
      - เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด
      - เท้าบวม
      - เจ็บชายโครงขวา
      - มีดีซ่าน
    - - referเมื่อมีอาการบวม ท้องมาน อาเจียนเป็นเลือด ซึม ไม่รู้สึกตัว
      - ระยะเริ่มแรกรักษาตามอาการ แนะนำเปลี่ยนพฤติกรรม งดสุราเด็ดขาด หลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อตับ หรือซื้อยากินเอง
  - - - ปวดท้องล่างขวา
      - เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ต่ำๆ
    - - รักษาตามอาการ ให้NPOและreferทันที
  - - - ปวดท้องรุนแรง ปวดติดกันหลายชั่วโมง
      - ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน ไข้สูง
      - มีGuardingและกดเจ็บมาก
      - เคาะท้องมีเสียงก้องโปร่ง
    - - รักษาตามอาการ ให้NPOและrefer
  - - - ไข้
      - หน้าท้องกดเจ็บ
      - ท้องอืด
      - ช็อค
      - มีดีซ่าน
    - - NPOและreferทันที
  - - - มีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน มักนาน 2-6 วัน
      - รักษาตามอาการ
    - - ถ่ายอุจจาระบ่อยประจำทุกวันหรือเป็นๆหายๆเรื้อรัง
      - มักถ่ายเป็นก้อนปกติหลังตื่นนอนตอนเช้า แล้วหลังอาหารเช้าจะปวดบิดในท้องและต้องถ่ายอีก
      - มักถ่ายเหลวเป็นน้ำและอาจจะถ่ายเหลวอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังอาหารแต่ละมื้อ
      - รักษาตามอาการ แนะนำออกกำลังกาย ทำสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด เลี่ยงอาหารรสจัด
    - - ไข้ หนาวสั่น
      - ปวดบิดในท้อง
      - ถ่ายเป็นน้ำ
      - คลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย อาจมีมูกเลือดปน และภาวะขาดน้ำ
      - อาการจะค่อยๆหาย ภายใน 2 ถึง 5 วันบางรายอาจเรื้อรังนานถึง 10-14 วัน
      - รักษาตามอาการ ถ้าอาการรุนแรง/ขาดน้ำรุนแรงrefer
- - - - ปวดสีข้างฉับพลัน(ปวดมากข้างใดข้างหนึ่ง)ปวดร้าวลงมาที่ขาหนีบ
      - ไข้สูงหนาวสั่น
      - คลื่นไส้อาเจียน
      - ปัสสาวะเป็นเลือด มีกลิ่นเหม็น
      - ปวดขณะปัสสาวะ
      - ใช้กำปั้นทุบเบาๆตรงสีข้างที่ปวดผู้ป่วยจะเจ็บจนสะดุ้ง (Kidney punch)
  - - - ไข้ อาจจมีหอบเหนื่อยหรือชัก
      - อ่อนเพลีย เบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน
      - หน้าบวม หนังตาบวม เท้าบวมกดปุ่ม
      - ท้องบวม
      - ปัสสาวะขุ่นแดง ปัสสาวะออกน้อย
      - ความดันโลหิตสูง
      - เป็นตะคริว
  - - - บวมทั่วตัว เท้าบวมกดบุ๋ม
      - ปัสสาวะใสแต่ออกน้อยกว่าปกติ เป็นฟอง
      - อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
      - ความดันโลหิตสูง
      - น้ำหนักขึ้น
      - Hypoalbuminemia
      - Hyperlipidemia
  - - - ปัสสาวะออกน้อย/สะดุด/ไม่ออก
      - ปวดบิดเป็นพักๆ บริเวณท้องน้อยร้าวไปหลังและต้นขาด้านใน
  - - - ปวดท้องน้อย
      - ปวดเบ่งเวลาปัสสาวะ
      - น้ำปัสสาวะขุ่นขาว หรือปัสสาวะเป็นเลือด/สีน้ำล้างเนื้อ
      - ปัสสาวะออกน้อย/สะดุด/ไม่ออก
  - - - ปัสสาวะออกน้อย/สะดุด/กระปริบกระปรอย/ไม่ออก มีกลิ่นเหม็น
      - ปวดท้องน้อย
      - ปวดขัด/แสบร้อนเวลาปัสสาวะ
    - - กลั้นปัสสาวะ
  - - - ปัสสาวะออกน้อย/สะดุด/ไม่ออก
      - ปวดเอวแบบเสียดหรือบิดเป็นพักๆ
      - ปัสสาวะขุ่นแดงหรือมีเม็ดทราย