Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Neurological Symptoms, Musculoskeletal Symptoms, บทที่ 5…
Neurological Symptoms
Assessment
Physical Examination
Motor Function
ตรวจปฏิกิริยารูม่านตา (pupillary response)
การ หดตัว การขยายตัว ขนาด รูปร่างของรูม่านตา (pupil)
Normal: 2 – 6 mm. รูปร่างกลมเท่ากันทั้ง 2 ข้าง ถ้าประสาทพาราซิมพาธิติคถูกกระตุ้น รูม่านตาจะหดตัว (pupil constric) และเมื่อซิมพาราธิติคถูกกระตุ้น รูม่านตาจะ ขยาย (pupil dilate)
การตรวจร่างกายทางระบบประสาท
level of consciousness: LOC
neurologic function
การตรวจสัญญาณชีพ (vital signs)
บันทึกและสังเกต
BP
RR
PR
BT
การประเมินสภาพ วินิจฉัยแยกโรค และรักษาพยาบาลเบื้องต้น
การชัก
โรคลมชัก/ลมบ้าหมู (Epilepsy)
อุบัติการณ์
พบได้ 1 ใน 200 คน ตั้งแต่เด็ก 2-14 ปี ไม่พบสาเหตุแน่ชัด
หากชักครั้งแรกในเด็กอายุ 2 ปี หรือ คนอายุมากกว่า 25 ปี อาจมีสาเหตุจากโรคทางสมอง
บางรายชัก 1-2 ครั้ง หายขาด บางรายเป็น ๆ หาย ๆ อยู่ประจำเป็นแรมปี ต้องอาศัยยาควบคุมอาการ
โรคที่พบบ่อยสุดในคนที่ชัดโดยไม่มีไข้
อาการ
อาการชักอาจเกิดในเวลากลางวัน หรือหลังเข้า นอนในตอนกลางคืนก็ได้
อยู่ดี ๆ ก็หมดสติ
เป็นลมล้มพับกับพื้นทันที
มีอาการกล้ามเนื้อ เกร็งทั้งตัว หายใจ ลําบาก หน้าเขียว
มีอาการ
ชักกระตุกของกล้ามเนื้อ
ทุกส่วนของร่างกายเป็นระยะๆ
มีอาการ
ตาค้าง ตาเหลือก
ในระยะแรกมักจะถี่แล้ว ค่อยๆ ลดลงตามลําดับ
1 more item...
เมื่อฟื้นสติ
ตื่นขึ้นด้วย ความรู้สึกมึนงง อ่อนเพลีย
บางรายอาจม่อยหลับไปนานเป็นชั่วโมงๆ
มักจะจําไม่ได้ว่าตัวเองล้มลง
หลังจากตื่นหลังม่อยหลับมักจะปวดศีรษะ มึนงง สับสน หาวนอน ลืม ตัว และ อาจทําอะไรที่ตัวเองจําไม่ได้ในภายหลัง
ระยะเวลาชัก
ทั่วไปอาการชักจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่นาทีก็หาย
บางรายอาจซักซ้ำ ๆ ติดกันนาน เป็นชั่วโมง และอาจมีไข้สูงเรียกว่า
สเตตัสเอพิเล็ปติคัส (status epilepticus) ซึ่งอาจเป็น
อันตรายถึงตายได้
อาการบอกเหตุ (prodomal symptoms)
อาจมีลางบอกล่วงหน้า เป็ฯชั่วโมงหรือนาน 2-3 วัน
อาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย (หงุดหงิด รู้สึก เครียด ซึมเศร้า) หรือ เวียนศีรษะ กล้ามเนื้อกระตุก เป็นต้น
ก่อนหมดสติไม่กี่วินาที
มีอาการเตือนหรือออรา (aura) โดยมีความรู้สึกแปลกๆ เช่น ได้กลิ่นหรือรสแปลกๆ หูแว่วเสียงคนพูด เห็นภาพหลอน เวียนศีรษะ มีอาการชาตาม ร่างกาย ตากระตุก แขนกระตุก รู้สึกแน่น ยอดอก หรือไม่สบายท้อง เป็นต้น
อาการแทรกซ้อน
ระหว่างชัก
ผู้ป่วยอาจกัดลิ้นตัวเอง
บาดเจ็บ กระดูกหัก
อาจได้รับอุบัติเหตุ
ตกน้ำ รถชน ตกจากที่สูง อาจถึงตายได้ในรายที่ชักบ่อย
อาจมีความผิดปกติของอารมณ์ และบุคลิกลักษณะ บางรายอาจมีสติปัญญาต่ำกว่าปกติ
case status epilepticus อาจถึงตายได้
สาเหตุ
อาจมาจากเซลล์ของสมองบางส่วนมีการปลดปล่อยพลังไฟฟ้าผิดปกติ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เซลล์ของสมองบางส่วนมีการปลดปล่อยพลังไฟฟ้าผิดปกติ ซึ่งส่วน ใหญ่ไม่ทราบ สาเหตุที่ แน่ชัด
ผู้มีประวัติชักจากไข้สูงตอนเด็ก โดยเฉพาะคนชักก่อนตอนอายุ 2 ปี
ผู้มีความผิดปกติของสมองมาแต่กําเนิด หรือสมองได้รับบาดเจ็บ ระหว่างคลอด, ของสมองมาแต่กําเนิด หรือสมอง ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างคลอด
คนที่ชักตอนอายุ > 25 ปี อาจมาจาก ความผิดปกติในสมอง เช่น มีเนื้องอก ก้อนเลือด ฝีหรือพยาธิในสมอง หรือมี ประวัติได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะมาก่อน
สาเหตุที่กระตุ้น
เช่น อดนอน หิวข้าว กินอาหารมากเกินไป ทํางานเหนื่อยเกินไป คิดมาก ดื่มเหล้า กินยากระตุ้นประสาท ท้องผูก มีประจําเดือน มีไข้สูง อยู่ในที่ๆ มีเสียงอึกทึก หรือมีแสงจ้า หรือแสงวอบแวบ การหายใจเข้าออกเร็วๆ เป็นต้น
การรักษา
ระะหว่างชัก
ย้ายผู้ป่วยให้อยู่ในที่ปลอดภัย
ปลดเสื้อผ้าออก
ตะแคงศีรษะไปด้านในด้านหนึ่งลงพื้น (ป้องกันสำลัก)
Clear airway
1 more item...
💉
ยา
หาก 1-3 นาที ไม่หยุดชัก
ยังชักติดต่อกันนาน ๆ
Diazepam 5-1 หลอด IV
หากไม่ได้ผลให้ Refer ด่วน
การชักครั้งแรก
หากไม่เคยได้รับวินิจฉัยมากก่อน ให้ไปตรวจที่รพ. 🏥
อาจต้องตรวจ electroencephalogram: EEG, MRI
โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี และผู้ใหญ่อายุมากกว่า 25 ปี
หากเป็นลมชักไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ให้ยากันชัก
💊ฟีโนบาร์บิทาล หรือเฟนิโทอิ
กินทุกวัน (ตัวใดตัวหนึ่ง ห้ามกินด้วยกัน)
กินจนไม่ชักตลอด 2 ปี จึงค่อยลดแล้วหยุดยา
หากกลับมาชักอีกก็อาจต้องกินยาคุมอาการตลอดไป
ผู้เป็นโรคลมชัก
หาสาเหตุของการชัก ขาดยาหรือไม่? กินยาไม่ครบ?
หากใช่ ให้กินยาตามขนาดยาเดิม
แต่ถ้าไม่ใช่ กินยาครบแต่ยังชัก ควรเพิ่มขนาดยา หรือเปลี่ยนยา💊(แพทย์ order)
Sodium valproate
Carbamazepine
คำแนะนำ
เมื่อได้รับการรักษา ผู้ป่วยสามารถทํางาน เรียนหนังสือ เล่นกีฬาหรือออกสังคมได้ตามปกติ รวมทั้งสามารถ
แต่งงานได้
แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ กินอิ่ม นอนหลับ จัดการอารมณ์ให้ดี ไม่ไปที่เสี่ยงอันตราย เลี่ยงแสงจ้า เสียงดัง ที่จำทำให้ร่างกายเครียด
ผู้เป็นลมชักไม่ทราบสาเหตุ
รักษาหายขาดด้วยการกินยาจนอาการไม่กำเริบ หรือการกินยาคุมไปตลอดชีวิต
ควรเปิดเผยเรื่องที่ป่วยให้ญาติ ที่ทำงาน คนรอบตัวได้ทราบ เพื่อจะได้ช่วยสอดส่อง ดูแลขณะมีอาการกำเริบได้ และครอบครัว/คนรอบข้างควรให้กำลังใจ ไม่รังเกียจเดียจฉันท์
โรคลมชักมีหลายชนิด จากเนื้อหาทั้งหมดคือ ชนิด แกรนด์มาล (grand mal) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อย และมีความรุนแรงกว่าชนิดอื่น ๆ
เพทิตมาล (petit mal)
แน่นิ่งเหมือนกับเหม่อลอยชั่วไม่กี่วินาที หรืออยู่ดี ๆ ก็ล้มลงหน้า
กระแทกพื้น ชั่วเดี๋ยวเดียวก็กลับรู้สึกตัวใหม่ และกลับทํางานได้ต่อไป
รักษาด้วย ethosuximide (Zarcontin) 500-1500 mg/day or 2-6 tabs, Sodium Valproate 1500-2000 mg/day
ชักกระตุกเฉพาะส่วน (Jacksonian epilepsy/focal motor seizures)
มักมีพยาธิสภาพที่สมอง เช่น เป็นแผลเป็น เนื้องอก หรือหลอดเลือดที่ผิดปกติ
กระตุกบางส่วน เช่น มุมปาก นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ หรือนิ้วหัวแม่เท้า บางครั้งอาจชักกระตุกทั้งแขนขาข้างหนึ่งหรือครึ่งซีก
ยารักษาตามสาเหตุ/ ยาแบบเดียวกับแกรนด์มาล
ไซโคมอเตอร์ (psychomotor epilepsy / temporal lobe epilepsy)
แสดงพฤติกรรม แปลกๆ โดยไม่รู้ตัว เช่น หวาดกลัว วิตกกังวล บ่นพึมพำ วิ่งโดยไม่มีเหตุผล เดินไปมา เคี้ยวปาก เป็นต้น ประมาณ 5 นาที
ยารักษาแบบแกรนด์มาล / ตรวจเพิ่มที่รพ.
ชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)
สาเหตุ
อาจไข้จากการติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่ง
พบมากในเด็ก 6 m.- 5 y. เนื่องจากสมองเด็กกำลังเติบโต ไวต่อการกระตุ้นจากไข้
มักชักเมื่อมีไข้ มากกว่า 39 °C
ร้อยละ 70 ของเด็กที่ชัก มักมีการรักษาสาเหตุ จาก ไข้หวัด, ทอนซิลอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ รองลงมาคือ บิดชิเกลลา ท้องเดิน หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ส่าไข้ เป็นต้น
อาการ
สิ่งตรวจพบ
ขณะที่มาเด็กมักจะหายชักแล้ว แต่บางรายอาจมีอาการชักซ้ำให้เห็น ส่วนมากมักจะมีไข้ สูงและอาการ ของโรคที่พบร่วม
มีไข้สูงประมาณ 39.5-40.5 °C ร่วมกับอาการของโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เป็นหวัด เจ็บ คอ ไอ ท้องเดิน เป็น บิด เป็นต้น
รายที่รุนแรง ชักนานเกิน 15 นาที
หรือชักเกิน 1 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง
หรือมี อาการชัก เพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย
มีอาการชักแบบกระตุกทั้งตัว ตาค้าง กัดฟัน กัดลิ้น นานครั้งละ 2- 3 นาที ชักเพียง 1-2 ครั้ง ขณะที่ตัวร้อนจัด
ไข้ลงก็จะไม่ชักซ้ำอีก เด็กจะมีอาการทั่วๆ ไปดี ไม่ซึม ไม่มีอาการคอแข็ง หรือกระหม่อมโป่งตึง
อาการแทรกซ้อน
ชักเพียง 1-2 ครั้ง หรือชักเพียง 2-3 นาที มักจะไม่มีโรคแทรกซ้อนแต่อย่างใด
ไม่มี ผลกระทบต่อสมองเชาวน์ปัญญา และพัฒนาการของเด็ก
ชักรุนแรง (ชักนานกว่า 15 นาที, ชักเพียง ซีกใดซีกหนึ่งของ ร่างกาย) หรือมีประวัติโรคลมชักในครอบครัว
มีโอกาสเป็นลมบ้าหมูเมื่อโตขึ้น หรือทําให้สมองเสื่อม หรือปัญญาอ่อน
ความสำคัญ
เป็นสาเหตุหลักของการชักที่พบส่วนใหญ่
พบในเด็ก อายุ 3-5 ปี ได้ 3-5% และกว่า 50-70% จะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว
การชักในเด็ก ร้อยละ 50-70 อาจกลับมาชักซ้ำได้อีก
มักมีประวัติว่าพี่น้องในครอบครัว เคยมีประวัติชักดเวยไข้สูงมาก่อน
การรักษา
ขณะชัก
ให้ถอดเสื้อผ้าเด็กออก
ใช้ผ้าชุบน้ำโปะทั้งตัว เปลี่ยนผ้าชุบน้ำ ใหม่ทุก 2 นาที
💉ถ้าไม่หยุดชักให้ Diazepam IV or Per Rectum
If ไม่ได้ผล/สงสัยโรคทางสมอง ให้ Refer เพื่อเจาะหลังพิสูจน์
หลังหยุดชัก
ค้นหาสาเหตุแล้วให้ยารักษาโรคที่เป็นร่วม พร้อมกับให้ยาลดไข้ และยากันชัก
ข้อแนะนำ
ถ้าเป็นการชักใน 1-2 ครั้งแรก มักจะไม่มีอันตรายแทรกซ้อน ควรอธิบายให้ พ่อแม่เด็กเข้าใจถึงสาเหตุของการชัก เพื่อจะได้ช่วยลดความวิตกกังวล
แยกอาการชักจากไข้สูงให้ออกจากโรคทางสมอง หากชักรุนแรงและไม่แน่ใจ แนะนำให้ไปตรวจที่รพ. โดยเฉพาะเด็ฏชักรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรก
อธิบายให้พ่อแม่เด็กรู้จักวิธีปฐมพยาบาลเด็กขณะที่มีอาการชักจากไข้สูง
การถอดเสื้อผ้าเด็กออก
รีบใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวให้ไข้ลดโดยเร็ว
เมื่อไข้ลด เด็กจะหยุดชัก
ให้พาเด็กไปหาหมอที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด
คือ
อาการที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาท (Nerve cell) ทำให้กล้ามเนื้อชักเกร็งโดยไม่สามารถควบคุมได้
เกิดขึ้นทันทีทันใด มีความรุนแรง การขยับที่ผิดปกติของร่างกาย
สาเหตุจากสภาวะที่ต่างกันไป อาทิ Severe fever, epilepsy, a head injury, brain infection/inflammatory, toxin, medications
ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension headache)
อาการ
ปวดเหมือนถูกรัด ปวดหนัก ๆ ปวดตื้อ ๆ
มักปวดช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ
:red_cross:ไม่ปวดตอนเช้า ไม่มีอาการอื่นร่วม เช่น ไข้ หวัด ตาพร่า
นอนพักแล้วหาย มักมีอาการหลังมีเรื่องเครียด
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่ชัด
สิ่งกระตุ้นคือความเครียด
treatment
หาสาเหตุก่อน แล้วจัดการที่สาเหตุ
ให้พัก นอนหลับ ผ่อนคลายความเครียด
💊ยา
Acetaminophen (paracetamol)
N-SAIDs เช่น Aspirin ibuprofen naproxen กรณีไม่มีข้อห้ามอื่น ๆ
หากยาทั้งสองไม่ดีขึ้น อาจให้ Valium หรือไม่หายอีก ให้ส่งต่อหาสาเหตุเพิ่มเติม
การนวด ต้นคอ ขมับ
แยกโรค
:red_cross:Tumor
เพราะ tumor ระยะแรก ๆ จะปวดไม่มาก คล้ายอันนี้ แต่ต่อไปจะปวดถี่ขึ้น มักปวดดึก ๆ หรือหัวรุ่ง นอนไม่ได้ต้องตื่น
เป็น > 2 weeks
แนะนำตรวจเพิ่ม
อาการวิงเวียนศีรษะ (Dizziness/Vertigo)
Dizziness
เวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย มึนงง
มักพบใน ภาวะต่างๆ เช่น เป็นไข้, เป็นลม, ซ็อก, โลหิตจาง, ความดันโลหิตสูง, ความดันตกในท่ายืน ไมเกรน ลมบ้าหมู แพ้ท้อง เมารถเมาเรือ, ตาเข, หรือ สายตาผิดปกติ หรืออาจพบหลังดื่ม เหล้า, สูบบุหรี่ จัด หรือฉีดยาหรือกินยาบางชนิด เป็นต้น
Vertigo
อาการวิงเวียน บ้านหมุน เพดาน พื้น หมุน
หากตั้งคอตรงอาการจะดีขึ้น มี N/V
สาเหตุ
หุชั้นใน หูชั้นกลางอักเสบ (ในวัยหนุ่ม)
Brain tumor
สมองขาดเลือด (ในผู้สูงอายุ)
ภาวะความดันตกในท่ายืน
การตรวจร่างกาย
Romberg Test
การรักษา
รักษาตามสาเหตุ
นอนให้พอ ออกกำลังหาย หากกังวล/นอนไม่หลับ ให้รักษาตามโรคกังวล
ตรวจเพิ่ม EEG MRI
คำแนะนำ
ผู้ที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน แต่มีภาวะความดันต่ำ มักจะกังวล ให้ข้อมูลเพื่อคลายกังวล แนะนำออกกำลัง กินให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน
ไมเกรน (Migraine)
Characteristic
โรคปวดหัวข้างเดียว/ ลมตะกัง
มักจะ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นแรมปี
เป็นครั้งแรกตอนย่างวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ใหญ่ พบมากกว่าผู้ชาย มักเป็นเริ่มมีประจำเดือน
มีอาการปวดท้อง เมารถเมาเรือด้วย
ส่วนน้อยที่ผู้หญิงวัย 40 ปี จะเป็นครั้งแรก เมื่อถึงวัยใกล้หมดประจำเดือนจะปวดมากขึ้น และหายไปเองช่วงอายุมากกว่า 50 ปี
เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่สร้างความรําคาญน่าทรมาน และทําให้เสียการเสียงาน
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่ชัด
สาเหตุกระตุ้นต่างกันไป เช่น
สภาพแวดล้อม เสียงดัง แสงจ้า ร้อนเกิน เย็นเกิน
สภาพร่างกาย น้ำตาลต่ำ หิวเกิน อิ่มเกิน
พฤติกรรมผู้ป่วยเอง : กินยานอนหลับ กาแฟ แอลกอฮอล์ เนบ ช็อกโกแลต ของมัน ทอด ผงชูรส กิข้าวไม่ตรงเวลา, อดนอน นอนมากเกิน, ออกกำลังกายหนักเกิน
การเดินทาง นั่งรถ นั่งเรือ นั่งเครื่องบิน
สภาวะร่างกาย ตั้งครรภ์ ไม่สบาย ไข้ มีประจำเดือน
ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
อารมณ์ คิดมาก อารมณ์ขุ่นมัว ตื่นเต้น ตกใจ
อาการ
ปวดที่ขมับหรือเบ้าตาซีกใดซีกหนึ่ง ปวด แบบตุบๆ เข้ากับ
จังหวะการเต้นของหัวใจ
บางครั้งก็อาจปวดแบบดื้อๆ ก็ได้
อาจปวดสลับข้างในแต่ละครั้ง หรือปวดพร้อมกัน ทั้ง 2 ข้าง
ระยะเวลา
ปวดนานเป็นชั่วโมง หรือนานเป็นวัน ๆ แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
อาการอื่น ๆ
บางรายก่อนปวดหรือขณะปวด อาจมีอาการตา พร่า ตาลาย ตาเห็นแสงวอบแวบ หรือตามืดมัวไปครึ่งซีก อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นก่อนปวดศีรษะประมาณ 15-20 นาที
บางครั้งอาจมีอาการเวียนศีรษะ กลัว แสง (ตาไม่สู้แสง) ปวดเสียวหนัง ศีรษะ ท้องเดินร่วมด้วย
ถ้าปวดรุนแรง จะมีอาการคลื่นไส้ เมื่ออาเจียนแล้ว อาการจะค่อยๆ ทุเลาลงได้เอง
การรักษา
หากรุนแรง อาจมีอาการหน้าชา ริมฝีปากชา มือชา วิงเวียน ตาเห็นภาพซ้อน อ่อนเพลีย หรือแขนขาไม่มีแรงร่วมด้วย แต่ พบได้น้อยมาก และ มักเป็นเพียงชั่วขณะแล้วหายได้เอง
ปวดศีรษะ-หายได้เอง
กินยาตั้งแต่เริ่มปวดแล้วนอนพัก จะดีขึ้น
ไม่ปล่อยให้ปวดมากแล้วค่อยกินยา จะไม่ได้ผล
พัก ในห้องมืดและเงียบๆ
กินยา
Paracetamol 1-2 tabs
Cafergot (ไม่ให้พยาบาลจ่าย)
คำแนะนำ
อาการปวดตุบ ๆ อาจมีสาเหตุจากความดันโลหิตสูง ให้ วัด BP เพื่อแยกให้ออก โดยเฉพาะในคนอายุมากกว่า 30 ปี
โรคนี้เป็น ๆ หาย ๆ ไม่มีโรคแทรกซ้อน ดูแลตัวเองให้ดี คลายกังวลให้ผู้ป่วย
ควรแนะนําให้ผู้ป่วยสังเกตว่ามีสาเหตุอะไรที่กระตุ้นให้ปวดศีรษะบ้าง ถ้าทราบ และสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็จะ
ช่วยให้ปวดห่างขึ้น
หากปวดไมเกรนอยู่บ่อย ๆ ให้พกยาแก้ปวดพาราเซตามอลไว้ติดตัว หยิบกินทันทีที่มีอาการ
ออกกำลังกายแต่พอเหมาะ ไม่หักโหม ดูแลตนเองให้ดี กินพอ นอนพอ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นของตนเอง
Musculoskeletal Symptoms
Assessment
การตรวจร่างกาย
การตรวจพิเศษ
การซักประวัติ
Chief compliant
มีความรู้สึกผิดปกติมักจะเป็นอาการปวด (Pain) หรืออาการ ชา (Numbness)
ดูผิดปกติเช่น สังเกตว่ามีกระดูกสันหลังคดหรือโก่งค่อม หลังแอ่น ขาโก่งหรือปูดออก เดินแล้วมีปลายเท้าปัดเข้า หรือปัดออก ก้อนตามแขน ขา กล้ามเนื้อลีบ บวม แดง ร้อนและปวด
การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและสังเกตพบได้ ได้แก่ การเดินกะเผลก (Limping) การเคลื่อนไหวอ่อนแรง (Weaken) ไม่มั่นคง (Instability) มีอาการสั่น (Tremors) ข้อติดแข็ง (Stiffness) ขยับแขน ขา ไม่ได้ (Paralysis)
การประเมินสภาพ วินิจฉัยแยกโรค และรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ข้อเคล็ด/ข้อแพลง (sprain)
Strains = ข้อแพลง (Tendon/Muscle)
Sprains = ข้อพลิก (Ligament)
สาเหตุ
การเคลื่อนไหวผิดท่าของข้อ
เปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว
สวมรองเท้าไม่เหมาะสมกับเท้า
อาการ
ปวดข้อเท้า
บวม ฝืด ติด
มีบวม ผิดรูปได้ ผิวหนังบาดเจ็บ
ร้อน ไม่สามารถจับได้
เคลื่อนไหวไม่ได้
การดูแล
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ประคบเย็น ความเย็นจะทำให้หลอดเลือดรอบๆ ข้อเท้าหดตัว ทำให้อาการบวมที่เกิดขึ้นนั้นลดลง
พันผ้ายืด Elastic Bandage หรือใช้ Ankle Support รอบข้อเท้า อุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิดจะทำให้อาการบวมของเนื้อเยื่อรอบๆข้อเท้าลดลง อาการอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจะน้อยลงได้
ยกปลายเท้าสูง ถ้าเป็นไปได้ควรยกขาสูงเหนือกว่าระดับหัวใจเวลานอน เหนือกว่าระดับสะโพกเวลานั่ง การบวมก็จะลดลงเช่นเดียวกัน
ประเมินอาการตนเอง หลัก ๆ คือดู “การเดินลงน้ำหนักปกติ”
หลังจาก 48 ชั่วโมง ประคบร้อน
ยาลดปวด💊
Paracetamol
Ibuprofen
พักข้อ
ปวดกล้ามเนื้อหลัง
คือ
อาการ ตึง เหมือนถูกยึด จากการทำงาน หรือพฤติกรรม การยกของ การลุก/ขยับไม่ถูกท่า
อาการที่เป็นซ้ำได้ หรือเป็นเรื้อรัง
มักเกิดบริเวณ Lumbar Region (L2-L5)
สาเหตุ
ท่าทางในการทำงาน
การอักเสบติดเชื้อในข้อ
จากมะเร็ง
Non-mechanical disease processes such as Kidney stone
injury /trauma
ความเสื่อมของข้อ
อาการ
ปวดตื้อ ๆ ปวดเหมือนถูกแทง
Acute pain อาจมาจากเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมมาหยก ๆ แล้วปวด
Chronic pain เป็นการปวดเรื้อรัง นานกว่า 3 เดือน
ประเภท
Muscle Strain
การปวดจากกล้ามเนื้อ -จากการยกของหนัก หรืออกกำลังกาย
Sciatica
ปวดที่ Sciatic nerve ทำให้ปวด ชา ร้าวลงขา หรือก้นด้านใดด้านหนึ่ง
Herniated Disk
เมื่อ jelly หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกจากกระดูกสันหลัง ไหลมาดันเส้นประสาท หรือไหลออกไปทางอื่นก็ตาม ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ ปวดมาก
ปวดมากขึ้นเมื่อ ไอ จาม เนื่องจาก pressure
การตรวจวินิจฉัย
CERVICAL COMPRESSION TEST
➕ Pain toward arm = CAVICAL REDICULAR PAIN
DISTRACTION TEST
-➕ Pain increase = MUSCLE STRAIN, DISC HERNIATED
Pain decrease = NURVE COMPRESSION
SPURLING TEST
➕ Pain toward arm: CAVICAL REDICULOPATHY
Straight leg test
ให้นอนยกขาสูง 90 องศา
หากทำได้ ไม่ปวด คือ ปวดหลังธรรมดา
ปวด ยกไม่ได้ คือ ปวดหลังสาเหตุจาก Neurogenic
Treatment
รักษาตามสาเหตุ
ยาลดปวด
Paracetamol
ยาคลายกล้ามเนื้อ
Metrocabamol
แนะนำการออกกำลังกาย
Knee-to-Chest Exercise
Bird dog Exercise
ข้อแนะนำ
อาการมักพบบ่อยในเกษตรกร แล้วมักซื้อยาชุดมารับประทานเอง แนะนำให้เข้าใจสาเหตุอาการปวด และใช้ยาเท่าที่จำเป็น
ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง อย่าลืมถามอาการปวดร้าวลงมาที่ขา ถ้ามีอาจเป็นอาการปวดตามประสาท ไซแอติก
เนื่องจากรากประสาทถูกกด (Disc herniated)
ในผู้ที่มีอายุ 10-30 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย หากมีอาการปวดหลังเรื้อรังทุกวัน นานเกิน 3 เดือน ควรคิดถึงโรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรังมากกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อหลัง
การป้องกัน
ป้องกันได้โดยระวังรักษาอิริยาบถ (ท่านอน ท่านั่ง ท่ายืน ท่ายกของ) ให้ถูกต้อง หมั่นออก กําลังกล้ามเนื้อหลังเป็นประจำ บริหารร่างกายก่อนและหลังเล่นกีฬา นอนบนที่นอนแข็ง และควบคุมน้ำหนัก
ข้อเสื่อม/ปวดข้อในผู้สูงอายุ ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
สาเหตุ
อายุ เละเพศ พบในผู้สูงอายุ Female > male
กรรมพันธุ์
การได้รับบาดเจ็บ (เช่น การวิ่ง การเล่นกีฬา) ที่มีการกระแทกต่อข้อเข่า
การใช้ข้อมากหรือซ้ำ ๆ อยู่นาน ๆ เช่น การก้ม การนั่งงอเข่า การเดินขึ้นลงบันได การยืนนาน ๆ การยกของหนัก จะทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อต่อ เป็นเหตุให้ข้อเสื่อมได้
กล้ามเนื้ออ่อนแอ เช่น กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps) อ่อนแอ อาจทำให้ข้อเข่า เสื่อมเร็ว
เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เกาต์
Infection
อาการ
อาการปวดข้อ ข้อติด (ข้อแข็ง) หรือขยับได้ไม่สุด มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเรื้อรังเป็นแรม เดือนแรมป
ไม่พบข้อบวม แดงร้อน (อักเสบ) อย่างชัดเจน
ไม่มีไข้
ปวดเวลามีการใช้ข้อและทุเลาเมื่อพัก,
ข้อแข็งหรือข้อติด
ขยับลําบาก มักเกิดขึ้นเวลา
ตื่นนอนตอนเช้า
หรือเมื่อหยุดพัก ไม่ได้ใช้ข้ออยู่ระยะหนึ่ง
สิ่งที่ตรวจพบ
ช่วงแรกจะไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน
เป้ฯเรื้อรังจะพบข้อขขยับไม่สุด ข้อติด จับข้อเมื่อขยับได้ยินเสียงกรอบแกรบ อาจพยปุ่มกระดูก (ปุ่มเฮเบอร์เดน) ที่ข้อมือหลายนิ้ว, ปุ่มงอกที่เข่า ขาโก่งสองข้าง ข้อบวม หากมีน้ำในข้อ จะพบข้ออักเสบ บวมแดงร้อน หากข้อสะโพกเสื่อม จะพบขา 2 ข้างยาวไม่เท่ากัน
ตำแหน่งปวด และอาการ
ข้อนิ้วมือเสื่อม
แรก ๆ จะปวด ชา ตามข้อ หายได้เองภายใน 1 ปี หลังจากทุเลา จะกลับมากำเริบเมื่อมีการใช้ข้อมากเกิน
มักเกิดปุ่มกระดูกที่ข้อต่อ เรียกว่า ปุ่มเฮเบอร์เดน (Heberden node) ซึ่งไม่มีอาการเจ็บปวด แต่อาจทำให้จํากัดการเคลื่อนไหวของข้อ และทำให้ดูไม่สวยงาม
ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม
มีอาการปวดที่ต้นคอหรือปวดหลังตรงกระเบนเหน็บ และอาจมีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือขา
ข้อสะโพกเสื่อม
มีอาการปวดสะโพก อาจปวดร้าวไปที่ขาหนีบ ก้น หรือเข่า เวลายืนหรือเดินนาน ๆ ขึ้นลงบันได และทุเลาเมื่อพัก ข้อสะโพกมีอาการติดขัด ขยับได้ไม่เต็มที่
ข้อเข่าเสื่อม
มีอาการข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง ปวดมากเมื่อเคลื่อนไหว ทุเลาเมื่อพัก
ภาวะแทรกซ้อน
ในรายที่ข้อกระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เกิดโพรงกระดูกสันหลังแคบ หรือ กระดูกคองอก กดรากประสาท ในรายที่ข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เดินไม่ถนัด หรือเข่าอ่อน เข่าทรุด หกล้มได้
Treatment
การประคบ ร้อน-เย็น
ยา
ยาแก้ปวด 💊
Paracetamol
Ibuprofen
Naproxen
ยาต้านการอักเสบ
ยาทา Cream base
การออกกำลังกาย ที่ support ข้อ
เป็นมากไม่ดีขึ้น รักษาต่อ🏥
Pathology
เมื่ออายุมากขึ้น
การสึกกร่อนของกระดูกอ่อน
ทำให้ผิวกระดูกขรุขระ เกิดการกดเบียด
ทำให้บริเวณข้อ อักเสบเรื้อรัง
ร่างกายเกิดการซ่อมแซม
ทำให้กินปูนมาเกาะรอบ ๆ ข้อ
หินปูนหลุดเข้าไปในช่องข้อ
1 more item...
Rhumatoid arthitis
คือ
การอักเสบของข้อ มากกว่า 1 ข้อนิ้ว
เจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ทำให้เกิดอาการปวดไปหลายระบบในร่างกาย
สาเหตุ
เป็นโรคระบบภูมิคุ้มกัน ในระยะเวลาหนึ่ง มีการทำลายข้อ กระดูกอ่อน ข้าง ๆ กระดูก
ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ปัจจัยเสี่ยง
เพศหญิง > เพศชาย
ประวัติการป่วยในครอบครัว
การสูบบุหรี่
อาการ
อ่อนเพลีย, ปวด กล้ามเนื้อ ข้อ
ปวดข้อ ข้อบวม ติดแข็ง
มีอาการอื่นร่วมด้วยและมีการอักเสบบริเวณอื่นของร่างกาย
การรักษา
เป้าหมายคือ เพื่อยับยั้งการอักเสบ และไม่ให้อาการกำเริบ
รักษาตามอาการ
จัดการกับอาการในระบบอื่น ๆ ป้องกันการเสียหาย / ลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น โดยจัดการเน้นที่โรค autoimmune
บทที่ 5 อาการทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
โดย นางสาวจันทกานติ์ 6310410023 ตอน 01