Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พรบ การบัญชี 2543 - Coggle Diagram
พรบ การบัญชี 2543
หมวด 5
มาตรา 27 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของอธิบดีที่ออกตาม เงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท กรณีที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้ปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้องสารวัตรใหญ่บัญชีและสารวัตรบัญชีต้องแสดง บัตรประจาตัวต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง บัตรประจาตัว ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 28 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่จัดให้มีการทำบัญชีให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละหนึ่งพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
มาตรา 29 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเวลาปิดบัญชีครั้งแรก ต้องส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีให้แก่ผู้ทำบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 30 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามการจดทะเบียนในห้างหุ้นส่วน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา 31 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามในการเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ใช้ประกอบการ
ลงบัญชี ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา 32 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามกฎการจัดทำงบการเงินโดยไม่ตรวจสอบ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา 33 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดแจ้งข้อความเป็นเท็จต่อสารวัตรใหญ่หรือเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 34 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามการจัดทำบัญชีที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบัญชีอย่างถูกต้องครบถ้วน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 35 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามการลงรายการบัญชี โดยลงรายการเป็นภาษาไทย เขียนด้วยหมึก ดีดพิมพ์ หรือตีพิมพ์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา 36 ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 37 ผู้ใด้เปิดเผยข้อความและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 38 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 39 ผู้ใดลงรายการเท็จ แก้ไข้ ละเว้นการลงรายการในบัญชีหรืองบการเงิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 40 ผู้ที่กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติบุคคลให้กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้แทนนิติบุคคลหรือบุคคลใด ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นๆ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนรู้เห็นหรือยินยอมในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น
มาตรา 41 ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของอธิบดี ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจเปรียบเทียบได้ และเมื่อผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามที่ได้เปรียบเทียบแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
หมวด 2
มาตรา 8 ให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนบริษทั จํากัดบริษัทมหาชนจํากัด
ซึ่งมีหน้าที่จัดทำบัญชีและต้องจัดให้มีการทำ บัญชีสำหรับการประกอบธุรกิจของตน
-
-
-
มาตรา 11 ผู้จัดทำบัญชีต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานการบัญชีประจำท้องถิ่นที่ภายใน 5 เดือนนับตั้งแต่วันที่ปิดบัญชี
-
มาตรา 14 ผู้จัดทำบัญชีต้องเก็บรักสาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไม่น้อยกว่า 5 ปีตั้งแต่ปิดบัญชี
มาตรา 15 ถ้าบัญชีหรือเอกสารสูญหายหรือเสียหายให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีชี้แจงต่อสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีตามเกณฑ์และวิธีที่อธิบดีกำหนดภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ทราบ
มาตรา 16 ในกรณีตรวจพบว่าบัญชีเอกสารสูญหายหรือถูกทำลายหรือเอกสารไม่ได้เก็บไว้ในที่ปลอดภัยให้สันนิษฐานว่าผู้ที่ที่มีการทำบัญชีมีเจตนาทำให้เสียหาย
มาตรา 17 ผู้จัดทำบัญชีเลิกประกอบธุรกิจด้วยเหตุผลใดใดโดยไม่ได้ชำระบัญชีให้ส่งมอบบัญชีและเอกสารแกสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันเลิกประกอบธุรกิจ
หมวด 3
มาตรา 18 ผู้จัดทำบัญชีต้องจัดให้ผู้ทำบัญชีที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกำหนดเพื่อจัดทำบัญชีตามพระราชบัญญัติและมีหน้าที่ควบคุมดูแลผู้คุมบัญชี
มาตรา 20 ผู้ทำบัญชีต้องจัดทำบัญชีเพื่อแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่อยู่ตามความจริงและตามมาตรฐานการบัญชี
มาตรา 21 การลงรายการในบัญชี ผู้ทำบัญชีต้องปฏิบัติดังนี้ - ลงรายการเป็นภาษาไทยหากเป็นภาษาต่างประเทศให้มีภาษาไทยกำกับ - เขียนด้วยหมึกหรือตีพิมพ์
หมวด 1
มาตรา 6 ให้กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นสำนักงานกลางบัญชี
จัดตั้งสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 7 อธิบดีมีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดในเรื่องดังต่อไปนี้ - ชนิดของบัญชีที่ต้องทำ - ข้อความและรายการที่ต้องมีในบัญชี
- ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชี
- เอกสารที่ต้องลงรายการในบัญชี
- กำหนดข้อยกเว้นให้มีผู้ที่มีหน้าที่ทำบัญชีหรือผู้ที่ทำบัญชีไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีเรื่องใดเรื่องหนึ่ง - คุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามพระราชบัญญัตินี้ผู้จัดทำบัญชีด้วยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้