Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
นโยบาย และ กฎหมายด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม - Coggle Diagram
นโยบาย
และ
กฎหมายด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม
นโยบายทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมของไทย
ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี(2560 – 2579)
เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่สร้างมลภาวะ
ส่งเสริมการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน
ยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สร้างความเข้มแข็งจากภายในสู่สากลตามนโยบายประเทศไทยเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
แห่งอนาคตและการพัฒนาอุตสาหกรรม
การเตรียมการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
ตระหนักรู้และเพิ่มศักยภาพการเฝ้าระวังผลกระทบ
จากการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและมลพิษ
ป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพกับประชาชน
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เกิดสมดุลของการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมระยะ 5 ปี (2566 - 2570)
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 อภิบาลระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม
เป้าประสงค์ คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหุ้นส่วนในการขับเคลื่อนและรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัย
และอนามัยสิ่งแวดล้อมสู่เมืองสุขภาพดี
ประชาชนต้องมีสุขภาพดีและเป็นชุมชนเอื้อต่อสุขภาพดี
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ
ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 ยกระดับองค์กรสู่ความเป็นเลิศ และมีธรรมาภิบาล
องค์กรมีสมรรถนะสูง น่าอยู่ มีธรรมาภิบาล
แนวทางทางการบริหารจัดการงานอนามัยสิ่งแวดล้อม
การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน
การจัดการควรแก้ที่แหล่งกำเนิด(source)ก่อนถ้าสามารถจัดการได้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดการกับแหล่งกำเนิดได้ควรแก้ที่ผู้รับคือคน(receptor)
อนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ
การดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
อนุสัญญาสตอกโฮลม์ว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน
คุ้มครองสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากสารมลพิษตกค้างยาวนาน และลด เลิกการผลิต การใช้และปล่อย
สารมลพิษที่ย่อยสลายยาก
อนุสัญญารอตเตอร์ดัม
ส่งเสริมความร่วมมือและรับผิดชอบระหว่างประเทศด้านการค้า
สารเคมีอันตรายและใช้สารเคมีอย่างไม่เป็นอันตราย และแลกเปลี่ยนข้อมูลลักษณะสารเคมีแก่ผู้มีอำนาจตัดสินใจได้ทราบถึงการนำเข้าและส่งออกสารเคมีอันตรายต้องห้าม
อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้าย
ข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด
ควบคุมการนำเข้า-ส่งออก การข้ามแดนของ
ของเสียอันตรายให้ปลอดภัย ไม่ส่งผลต่อสุขภาพ
และสิ่งแวดล้อม
อนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและวางมาตราการ
ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม
การสิ่งเสริมบทบาทองกรณ์ปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม
ประสบปัญหาบุคคลากรรับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมไม่พอ บุคคลาการขาดประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ
งบประมาณดําเนินงานไม่เพียงพอ ยังต้องการการสนับสนุนด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี
การพัฒนาท้องถิ่นต้นแบบด้านการจัดการอนามัย
สิ่งแวดล้อม
การพัฒนาเทศบาลไทยมุ่งสู่เมืองคาร์บอนตํ่าฯ
การพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพัฒนา
เป็นเมืองสวยใส ไร้มลพิษ
การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม
องค์กรและกฎหมายที่สําคัญด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒๕๖๐
การดําเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใด
ดําเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย
ให้บุคคลมีหน้าที่ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์
และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประชาชนต้องได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง
เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการ
ส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
พระราชบัญญัติกําหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย
อํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒๕๔๒
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอํานาจและหน้าที่ในการจัดระบบการกําจัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล การบําบัดนํ้าเสีย
การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่าง ๆ
พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒๕๕๐
ให้มีคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
แห่งชาติเพื่อการจัดทําแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติทั้งอัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์นํ้า การระบาดของศัตรูพืช ตลอดจนภัยอื่นๆ อันมีผลกระทบ
ต่อสาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ทําให้เกิดขึ้น อุบัติเหตุ รวมถึงภัยทางอากาศ และการก่อวินาศกรรม
พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด
และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ๒๕๓๕
ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดิน มีหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาด ไม่ให้ทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยในที่สาธารณะ
พระราชบัญญัติโรงงาน ๒๕๓๕
กําหนดเกณฑ์และมาตรฐานในการควบคุมการประกอบกิจการโรงงาน เรื่อง การกําจัดของเสีย มีระบบบําบัดของเสีย เพื่อบังคับให้โรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ๒๕๓๕
เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกําเนิดมลพิษ ทั้ง 10 แหล่ง ต้องจัดเก็บสถิติระบบบำบัดน้ำเสีย และรายงานระบบบำบัดน้ำเสีย
พระราชบัญญัติการสาธารณสุข ๒๕๓๕
กระจายอํานาจไปสู่ราชการส่วนท้องถิ่นในการควบคุมดูแล เช่น มลพิษ สิ่งแวดล้อมของการอยู่อาศัย
สถานที่จำหน่ายอาหารและกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
มาตรา ๑๘ การเก็บ ขน หรือกําจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย เป็นอํานาจของราชการ ส่วนท้องถิ่นนั้น กรณีที่มีเหตุ
อันสมควรราชการส่วนท้องถิ่นอาจมอบให้บุคคลใด
ดําเนินการแทน
มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกาจัดส่ิงปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือ
ได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ
เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
มาตรา ๒๐ ห้ามการถ่าย เท ทิ้ง สิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย นอกจากในที่ที่ราชการส่วนท้องถิ่นจัดไว้ให้
ให้มีที่รองรับสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามที่หรือทางสาธารณะ และกําหนดวิธีการเก็บ ขน และกําจัดสิ่งปฏิกูล โดยให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ด้วยสุขลักษณะ
มาตรา ๒๕ ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้เป็นเหตุรำคาญ เช่น แหล่งนํ้า ทางระบายนํ้า ที่อาบนํ้า ส้วม หรือที่ใส่มูลหรือเถ้า การเลี้ยงสัตว์ รวมถึงไม่มีการควบคุมให้ปราศจากกลิ่นเหม็นหรือละอองสารเป็นพิษ
ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ