Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia
พยบ.1132 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
น.ส.…
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia
พยบ.1132 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
น.ส. ธนัญธรณ์ นวลประสิทธิ์
รหัสนิสิต 65019602
-
อาการและอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
-ประกอบด้วยอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติ
ที่เกิดจากมีการหลั่ง Epinephrine เพิ่ม และจากการที่สมองขาดกลูโคส และลดการใช้ออกซิเจน
อาการที่เกิดจากการกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติมักจะเริ่มเกิดเมื่อระดับกลูโคสต่ำกว่า 55 mg/dL ส่วนอาการที่เกิดจากการที่มีน้ำตาลในระบบประสาทต่ำจะเริ่มเกิด
เมื่อระดับกลูโคสต่ำกว่า 72 mg/dL
-
สาเหตุหลักๆของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่ Hyperinsulinism การขาด Counter-regulatory hormone ความผิดปกติของกระบวนการ Glycogenolysis, Gluconeogenesis หรือ Lipolysis, Amino acid และ Organic acid disorder รวมถึง Systemic disorder
-
-
-
ในเด็กโต
-
-
-
-
ความรุนแรงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แบ่งได้เป็น 3 ระดับ ตามอาการและอาการแสดงที่เกิดขึ้น และความสามารถของผู้ป่วยในการช่วยเหลือตนเอง ได้แก่
1 ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระดับไม่รุนแรง
(Mild Hypoglycemia)
—> ผู้ป่วยมีระดับพลาสมากลูโคสต่ำ แต่ไม่มีอาการหรือมีอาการ Autonomic บ้าง ได้แก่ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว รู้สึกหิว รู้สึกร้อน เหงื่อออก มือสั่น ผู้ป่วยสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
-
—> ผู้ป่วยมีระดับพลาสมากลูโคสต่ำ และมีอาการ Autonomic ร่วมกับอาการสมองขาดกลูโคสเกิดขึ้น อาการ Autonomic ได้แก่ ใจสั่น รู้สึกหิว รู้สึกร้อน เหงื่อออก มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิต Systolic สูง รู้สึกกังวล คลื่นไส้และชา อาการสมองขาดกลูโคส ได้แก่ อ่อนเพลีย มึนงง ปวดศีรษะ ซึ่งผู้ป่วยสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
3 ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระดับรุนแรง
(Severe Hypoglycemia) —> ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองและต้องอาศัยผู้อื่นช่วยเหลือหรืออาการรุนแรงมากกว่า เช่น ชัก หมดสติ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้อาจได้รับหรือไม่ได้รับการตรวจระดับกลูโคสในเลือด ในขณะเกิดอาการก็ได้สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการตรวจกลูโคสในเลือด แต่มีอาการสมองขาดกลูโคส ซึ่งหายไปหลังจากได้รับการแก้ไขให้ระดับกลูโคสในเลือดเพิ่มสูงขึ้นแล้วก็สามารถให้การวินิจฉัยภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระดับรุนแรงได้
**การรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระดับไม่รุนแรงและระดับปานกลางสามารถทำได้ทั้งที่บ้านโดยผู้ป่วยเองหรือผู้ดูแล
การกินกลูโคส 15 กรัม จะช่วยให้ระดับกลูโคสในเลือดเพิ่มขึ้นประมาณ 38 mg/dL ภายในเวลา 20 นาที และการกินกลูโคส 20 กรัม จะช่วยให้ระดับกูโคตในเลือดเพิ่มขึ้นประมาณ 65 mg/dL ภายในเวลา 45 นาที การกินคาร์โบไฮเดรตแต่ละครั้งในปริมาณมากกว่า 30 กรัม นอกจากจะให้ผลการแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำไม่แตกต่างจากการรับประทานในปริมาณ 15-30 กรัม แล้วยังอาจทำให้เกิดปัญหาภาวะน้ำตาลในเลือดสูงตามมาได้
-
-
-
-
-
มีน้ำหนักตัว 2,190 กรัม เจาะ DTX ได้ 34 mg%
-
-
-
-
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพหน่วยบริการปฐมภูมิ. (2562). คู่มือการให้บริการงานโรคไม่ติดต่อ(NCD). สำหรับหน่วยบริการปฐมภูมิ เครือข่ายโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์.
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-