การเสริมสร้างความเข้มเเข็งของครอบครัวเเละชุมชน

2. การมีส่วนร่วมของชุมชน

การสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนางานอนามัยชุมชน

เทคนิคการกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ความหมาย

3 การเสริมสร้างพลัง

การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น สามารถดำเนินการได้ใน 4 ลักษณะ คือ

1.ความเข้มเเข็งของครอบครัวเเละชุมชน

พัฒนาการของการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

กระบวนการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

ลักษณะการมีส่วนร่วมของชุมชนมี 3 ประการ

การเสริมสร้างพลังอำนาจ

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 9

องค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็ม

2 การกำหนดประเด็นปัญหาของชุมชนและการพัฒนาทางเลือกเพื่อดำเนินกิจกรรม

3.การดำเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน

4 การขยายเครือข่ายความร่วมมือ

ความหมายของการเสริมสร้างพลังอำนาจ

1.เตรียมคน หรือพัฒนาทรัพยากรบุคคล

ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหาร

ชุมชนพึ่งตนเอง ช่วยเหลือกันเอง

มีการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย

ชุมชนต้องมีเครือข่ายและ สร้างเครือข่ายกับชุมชนอื่น ๆ

มีทุนทางสังคมและเศรษฐกิจของตนเอง

ผู้นำดี มีความเสียสละ

คนในชุมชนมีความรักในท้องถิ่นเอื้ออาทรต่อกัน

การมีส่วนร่วมของชุมชน คือกระบวนการของการพัฒนา ซึ่งบุคคลและครอบครัวมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องสุขภาพ อนามัย และสวัสดิการของตนเองครอบครัว และชุมชน

ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชน

ปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน

การมีส่วมร่วมของชุมชน แยกเป็น 2 ประการ

ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นปัญหาด้านนโยบายของรัฐที่เกี่ยวกับการ
ขาดการรับฟังความคิดเห็นและกระบวนการทำงานร่วมกับภาคประชาชน ปัญหาด้านโครงสร้างสังคมไทย ปัญหาด้านเงินทุน

การมีส่วนร่วมด้วยการกระทำทางกาย (Community Participation)

1.การเสริมสร้างการเรียนรู้

การมีส่วนร่วมด้วยใจ (Community Involvement)

ปัญหาด้านนโยบายและองค์กรของรัฐ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความสามารถทักษะในการคิด วิเคราะห์ กระบวนการเรียนรู้ต้องเป็นไปตามสภาพความเป็นจริง เป็นกระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผน การจัดกิจกรรมก็เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความหมายตรงกับความต้องการของประชาชนในชุมชน

กระตุ้นให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้คิดหาปัญหา รวมไปถึงการกระจายผลประโยชน์ไปยังบุคคลอื่น ๆ

ช่วยให้ประชาชนได้พัฒนาตนเองจนกระทั่งสามารถช่วยเหลือตนเองได้

ประชาชนเข้ามามีส่วนควบคุมระบบและเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการพัฒนา

ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม

ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม

ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพ

2. การเสริมสร้างความเป็นผู้นำ

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประชาชน

ระดับนโยบาย โครงสร้างทางการบริหาร โครงสร้างทางสังคม

เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ที่เอื้อต่อการพัฒนาสุขภาพของประชาชนในชุมชน พยาบาลชุมชนต้องช่วยเสริมสร้างให้ผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10

ผู้นำการพัฒนามีคุณลักษณะที่สำคัญดังนี้

  • มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
  • มีความซื่อตรง รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน
  • มีความเชื่อมั่นในตนเอง และภูมิปัญญาของชุมชน
  • มีการยอมรับในวิทยาการ และเทคโนยีใหม่ ๆ
  • มีการพึ่งตนเองได้
  • มีทัศนคติและการปฎิบัติที่เป็นประชาธิปไตย
  • มีความสำนึกรักต่อบ้านเกิด
  • มีความอดทน ใจเป็นกุศล

ระดับปฎิบัติ

เจ้าหน้าที่ไม่มีความเข้าใจ

การพัฒนาสุขภาพไทยไปสู่ระบบสุขภาพพอเพียงสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

เจ้าหน้าที่ไม่มีจิตวิทยา ในการปฎิบัติงานและไม่มีความเสียสละ

ขาดการประชาสัมพันธ์และขาดการให้ข้อมูลข่าวสาร

ความล่าช้าในการปฎิบัติงานของข้าราชการ

ขาดการประสานงานและระบบติดตามประเมินผล

มุ่งสู่ระบบสุขภาพพอเพียงเพื่อสร้างให้สุขภาพดี บริการดี สังคมดี ชีวิตมีความสุขอย่างพอเพียง

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 11

กลุ่มผู้นำ

ผู้นำไม่มีความเข้มแข็งจึงทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือและศรัทธา

ผู้นำครอบงำความคิดเห็นของประชาชน

ให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม มุ่งเน้นการสร้างหลักประกันและการจัดบริการที่ครอบคลุม เป็นธรรม

การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนของผู้นำ

ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี ร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียง เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ

กลุ่มประชาชนทั่วไป

ประชาชนมีภาระด้านการประกอบอาชีพ

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12

ประชาชนขาดทุนทรัพย์และวัสดุอุปกรณ์ในการปฎิบัติงาน

ประชาชนเกิดความขัดแย้งกันในด้านความคิดและผลประโยชน์

ประชาชนมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน

ประชาชนขาดการศึกษา

ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

การสนับสนุนและประสานให้เกิดการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน

ระบบสุขภาพไทย เข้มแข็ง เป็นเอกภาพ เพื่อคนไทยสุขภาพดี สร้างประเทศให้ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ประชาชนขาดความสนใจและไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วม

3.การเสริมสร้างการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่าย

4. การเสริมสร้างพลังอำนาจให้ประชาชน

ต้องมีการเสริมสร้างการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่ายของประชาชน เพื่อช่วยเหลือกัน แลกเปลี่ยนความเห็นและใช้ศักยภาพของกลุ่มให้เกิดประโยชน์กับชุมชน เพราะปัญหาสุขภาพในชุมชนมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย

เทคนิคทางจิตวิทยา

เทคนิคการประชาสัมพันธ์

วิธีการสร้างเสริมการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่าย เช่น การร่วมประชุมกับกลุ่ม ให้โอกาสกลุ่มต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนกับเจ้าหน้าที่ สนับสนุนการสร้างและขยายเครือข่าย

เทคนิคด้านการบริหาร

เป็นกลวิธีที่สำคัญในการพัฒนาสุขภาพของครอบครัว ด้วยการเสริมศักยภาพ สมรรถนะ ความสามารถ การเพิ่มอำนาจการตัดสินใจ อำนาจต่อรอง การเข้าถึงและการจัดการทรัพยากรเพื่อให้ครอบครัวสามารถดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตนมาใช้

ชุมชนจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับทั้งสังคม ชุมชนต้องเปิดตนเองเข้าสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมภายนอกเพื่อให้มีความรู้และประสบการณ์ที่เท่ากัน

การมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาชุมชนจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 13

เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา องค์กรหรือชุมชนจะเข้มแข็งได้ ผู้นำและประชาชนต้องมีจิตสำนึก มีคุณธรรม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาชุมชน ให้ชุมชนเข้มแข็งสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องยั่งยืนได้ การเสริมสร้างพลังอำนาจให้ประชาชนไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียว ขี้นกับสภาวการณ์ของชุมชน ต้องใช้หลาย ๆ วิธีไปพร้อม ๆ กัน

การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ โดยการกระตุ้นและให้การศึกษาแบบไม่เป็นทางการ

พลิกโฉมประเทศไทยสู่ สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่า อย่างยั่งยืน

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน

การสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรวมกลุ่มกันทำงาน

ต้องมีความสนใจและการมีเป้าหมายร่วมกันของคนในชุมชน ทำให้มีการรวมพลัง

การใช้สื่อบุคคลในการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง เช่น การประชุม การพบปะ การติดต่อผ่านผู้นำ หรือการใช้สื่อมวลชน

การศึกษาชุมชนก่อนการพัฒนาชุมชน

การวางแผนดำเนินกิจกรรมของชุมชนต้องอยู่บนพื้นฐานความต้องการของประชาชน

เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นตัวการสำคัญที่
ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารในระบบราชการ

ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา สังคม และวัฒนธรรมของชุมชน

การใช้กระบวนการกลุ่ม

การจัดโครงสร้างองค์กรที่เป็นอิสระจากการครอบงำจากภายนอก

มีการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมปฎิบัติ และระดมทรัพยากร มีการแบ่งหน้าที่ และร่วมตรวจสอบประเมินผล

ปัจจัยด้านนี้มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นอันมาก ชุมชนแต่ละชุมชนมีปัจจัยที่จะเอื้ออำนวยแตกต่างกันไป

มุ่งที่จะให้เกิดผลระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นการทำงานจึงเป็นลักษณะสั่งการมากกว่าการให้ชุมชนมีส่วนร่วมโดยตรง

การเสริมสร้างพลังชุมชน

การเสริมสร้างพลังชุมชนเป็นการเสริมสร้างสมรรถนะของบุคคลในชุมชนกำหนดขอบเขตของการสร้างเสริมพลังชุมชนมีเก้าด้านขอบเขตเหล่านี้ทำให้บุคคลและชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและการเมือง

บทบาทพยาบาลในการพัฒนาการเสริมสร้างพลังของปัจเจกบุคคล

ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างพลัง

1.เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านสุขภาพ ชี้นำเรื่องสุขภาพประชาชน นำความคิดมาเเลกเปลี่ยน จนได้ความรู้ใหม่ๆ

กระบวนการของการเสริมสร้างพลังชุมชน

2.เป็นผู้กระตุ้น สนันสนุนให้บุคคลเชื่อมั่นในควาใสามารถตนเอง

3.จัดสิ่งเเวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาการเสริมสร้างพลังในการดูเเลตนเอง

4.สนับสนุนให้เกิดนโยบายสาธารณสุขที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ

มีรูปแบบความต่อเนื่อง5จุดหรือ5องค์ประกอบคือ

5.ชี้เเนะให้คนในสังคมเห็นความสำคัญในการดูเเลตนเอง

1.การอภิปรายกลุ่ม

2.การอภิปรายกลุ่มเล็ก

3.การระดมสมอง

1.ปฏิบัติการของบุคคล

2.พัฒนาการของกลุ่มช่วยเหลือกันเองขนาดเล็ก

4.การสาธิตเเละนำการปฏิบัติ

3.เสริมสร้างพลังกลุ่มและองค์กรชุมชน

5.การเเสดงบทบาทสมมติ

4.ความเป็นพันธมิตรหรือหุ้นส่วน

6.การใช้เกมหรือสถานการณ์จำลอง

5.ปฏิบัติการทางสังคมและการเมือง

7.การเล่าเรื่องกรณีศึกษา

8.การโต้วาที

9.การทำเเผนที่การตัดสินใจหรือเเผนภูมิเเขนงกิ่งไม้ของปัญหา

ขอบเขตการสร้างเสริมพลังชุมชน**

1 การมีส่วนร่วม
เป็นพื้นฐานของการสร้างเสริมพลังชุมชน

2 ภาวะผู้นำเพราะผู้นำต้องการการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง

5 การระดมทรัพยากร
ความสามารถของชุมชนในการระดมทรัพยากรจากภายในและการต่อรองด้านทรัพยากรเป็นตัวชี้วัดถึงทักษะของชุมชนและองค์กรชุมชน

6 การตั้งคำถาม “ ทำไม ” การถามว่า ทำไม เป็น ความสามารถที่สะท้อนถึงสมมุติฐานทางความคิด
และการกระทำพร้อมหาทางเลือกใหม่ของชีวิต

7 การเชื่อมโยงกับประชากรและองค์กรอื่น
การเชื่อมโยงกับพันธมิตรและหุ้นส่วนด้านสุขภาพเป็นความสามารถของชุมชนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มหรือองค์กรที่ต่างกัน

3 สร้างองค์กร
ในชุมชนมีกลุ่มขนาดเล็กและองค์กรชุมชนใหญ่องค์กรเหล่านี้จะทำให้ประชาชนเข้ามาทำงานร่วมกันในการหาทางออกหรือแก้ปัญหา

8 บทบาทขององค์กรภายนอก
องค์กรภายนอกเป็นตัวเชื่อมสำคัญในการช่วยชุมชนสามารถระดมและรับทรัพยากร

4 การประเมินปัญหา
การประเมินปัญหาเป็นการสร้างเสริมพลังชีวิตที่สำคัญ

9 การบริหารจัดการชุดโครงการ
การจัดชุดโครงการที่เสริมสร้างพลังชุมชนควรมีการควบคุมโดย มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงในการตัดสินใจ

ความสำคัญของการสร้างเสริมพลังในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ

นโยบายของรัฐไม่เอื้อต่อการพัฒนา

อำนาจในการตัดสินใจรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง ไม่ได้กระจายอำนาจให้แก่ประชาชน

1. ความสำคัญต่อปัจเจกบุคคล
บุคคลที่ได้รับการเสริมสร้างพลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทาง ดังต่อไปนี้

1.1 เพิ่มการนับถือตนเองของบุคคล
บุคคลที่ได้รับการเสริมสร้างพลัง จะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น

1.2 เพิ่มความสามารถของบุคคลในการแก้ปัญหาสุขภาพของตนเอง บุคคลที่ผ่านกระบวนการสร้างเสริมพลังจะได้รับการสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหา

1.3 เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
การเสริมสร้างพลังจะเน้นบุคคลให้ได้เรียนรู้และทำให้บุคคลสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

1.4 เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น

1.5 ลดการพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลและแก้ปัญหาสุขภาพของตนเองและครอบครัวเมื่อบุคคลได้รับการเสริมสร้างพลังจะมองเห็นความสำคัญของคุณค่าของตนเองจะนำไปสู่การลงมือทำและแก้ไขปัญหาสุขภาพของตนเองและครอบครัวโดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่

1.6 มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
บุคคลที่มีความเข้มแข็งในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพจะมีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์สังคม และจิตวิญญาณ

2. ความสำคัญต่อชุมชนสังคมและประเทศชาติ
เมื่อมีการสร้างเสริมพลังของประชาชนในการพึ่งพาตนเองสุขภาพยังส่งผลดีต่อชุมชนสังคมและประเทศชาติ

2.1 ประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการดูแลสุขภาพของตนเอง
การที่ประชาชนได้รับการเสริมสร้างพลังในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพทำให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และมีความรับผิดชอบในการดูแลสุขภาพของตนเอง

2.2 ลดจำนวนผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายในการจัดบริการรักษาพยาบาล
เมื่อบุคคลได้รับการเสริมสร้างพลังให้สามารถพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพได้แล้วจะทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลง

2.3 สถานบริการสาธารณสุขสามารถพัฒนาคุณภาพบริการได้อย่างต่อเนื่องการที่มีจำนวนผู้ป่วยลดลง ทำให้มีงบประมาณและเวลาที่การพัฒนาวิชาการ และคุณภาพบริการ ได้อย่างต่อเนื่อง

2.4 ช่วยสนับสนุนการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทย
เนื่องจากการปฏิรูประบบสุขภาพต้องการให้มีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโดยมีแนวคิดว่า สุขภาพเป็นเรื่องของทุกคน ตามคำขวัญ “ สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง ”

2.5 ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการมีสุขภาพดีของประชาชนในชาติ
การที่ประชาชนในชาติจะมีสุขภาพดีจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมในการดูแลตนเอง