Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเสริมสร้างความเข้มเเข็งของครอบครัวเเละชุมชน - Coggle Diagram
การเสริมสร้างความเข้มเเข็งของครอบครัวเเละชุมชน
2. การมีส่วนร่วมของชุมชน
การสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนางานอนามัยชุมชน
การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น สามารถดำเนินการได้ใน 4 ลักษณะ คือ
1.การเสริมสร้างการเรียนรู้
เพื่อให้เกิดความรู้ ความสามารถทักษะในการคิด วิเคราะห์ กระบวนการเรียนรู้ต้องเป็นไปตามสภาพความเป็นจริง เป็นกระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผน การจัดกิจกรรมก็เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความหมายตรงกับความต้องการของประชาชนในชุมชน
2. การเสริมสร้างความเป็นผู้นำ
เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ที่เอื้อต่อการพัฒนาสุขภาพของประชาชนในชุมชน พยาบาลชุมชนต้องช่วยเสริมสร้างให้ผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน
ผู้นำการพัฒนามีคุณลักษณะที่สำคัญดังนี้
มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
มีความซื่อตรง รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน
มีความเชื่อมั่นในตนเอง และภูมิปัญญาของชุมชน
มีการยอมรับในวิทยาการ และเทคโนยีใหม่ ๆ
มีการพึ่งตนเองได้
มีทัศนคติและการปฎิบัติที่เป็นประชาธิปไตย
มีความสำนึกรักต่อบ้านเกิด
มีความอดทน ใจเป็นกุศล
3.การเสริมสร้างการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่าย
ต้องมีการเสริมสร้างการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่ายของประชาชน เพื่อช่วยเหลือกัน แลกเปลี่ยนความเห็นและใช้ศักยภาพของกลุ่มให้เกิดประโยชน์กับชุมชน เพราะปัญหาสุขภาพในชุมชนมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย
วิธีการสร้างเสริมการทำงานเป็นกลุ่มและเครือข่าย เช่น การร่วมประชุมกับกลุ่ม ให้โอกาสกลุ่มต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนกับเจ้าหน้าที่ สนับสนุนการสร้างและขยายเครือข่าย
4. การเสริมสร้างพลังอำนาจให้ประชาชน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาชุมชน ให้ชุมชนเข้มแข็งสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องยั่งยืนได้ การเสริมสร้างพลังอำนาจให้ประชาชนไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียว ขี้นกับสภาวการณ์ของชุมชน ต้องใช้หลาย ๆ วิธีไปพร้อม ๆ กัน
เทคนิคการกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม
เทคนิคทางจิตวิทยา
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ โดยการกระตุ้นและให้การศึกษาแบบไม่เป็นทางการ
การสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรวมกลุ่มกันทำงาน
เทคนิคการประชาสัมพันธ์
การใช้สื่อบุคคลในการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง เช่น การประชุม การพบปะ การติดต่อผ่านผู้นำ หรือการใช้สื่อมวลชน
เทคนิคด้านการบริหาร
การศึกษาชุมชนก่อนการพัฒนาชุมชน
การวางแผนดำเนินกิจกรรมของชุมชนต้องอยู่บนพื้นฐานความต้องการของประชาชน
การใช้กระบวนการกลุ่ม
การจัดโครงสร้างองค์กรที่เป็นอิสระจากการครอบงำจากภายนอก
ความหมาย
ลักษณะการมีส่วนร่วมของชุมชนมี 3 ประการ
ช่วยให้ประชาชนได้พัฒนาตนเองจนกระทั่งสามารถช่วยเหลือตนเองได้
ประชาชนเข้ามามีส่วนควบคุมระบบและเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการพัฒนา
ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วมของชุมชน คือกระบวนการของการพัฒนา ซึ่งบุคคลและครอบครัวมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องสุขภาพ อนามัย และสวัสดิการของตนเองครอบครัว และชุมชน
การมีส่วมร่วมของชุมชน แยกเป็น 2 ประการ
การมีส่วนร่วมด้วยการกระทำทางกาย (Community Participation)
การมีส่วนร่วมด้วยใจ (Community Involvement)
ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชน
การมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาชุมชนจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ
ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน
เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นตัวการสำคัญที่
ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารในระบบราชการ
มุ่งที่จะให้เกิดผลระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นการทำงานจึงเป็นลักษณะสั่งการมากกว่าการให้ชุมชนมีส่วนร่วมโดยตรง
ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา สังคม และวัฒนธรรมของชุมชน
ปัจจัยด้านนี้มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นอันมาก ชุมชนแต่ละชุมชนมีปัจจัยที่จะเอื้ออำนวยแตกต่างกันไป
ปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน
ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นปัญหาด้านนโยบายของรัฐที่เกี่ยวกับการ
ขาดการรับฟังความคิดเห็นและกระบวนการทำงานร่วมกับภาคประชาชน ปัญหาด้านโครงสร้างสังคมไทย ปัญหาด้านเงินทุน
ปัญหาด้านนโยบายและองค์กรของรัฐ
ระดับนโยบาย โครงสร้างทางการบริหาร โครงสร้างทางสังคม
ระดับปฎิบัติ
เจ้าหน้าที่ไม่มีความเข้าใจ
เจ้าหน้าที่ไม่มีจิตวิทยา ในการปฎิบัติงานและไม่มีความเสียสละ
ขาดการประชาสัมพันธ์และขาดการให้ข้อมูลข่าวสาร
ความล่าช้าในการปฎิบัติงานของข้าราชการ
ขาดการประสานงานและระบบติดตามประเมินผล
นโยบายของรัฐไม่เอื้อต่อการพัฒนา
อำนาจในการตัดสินใจรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง ไม่ได้กระจายอำนาจให้แก่ประชาชน
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประชาชน
กลุ่มผู้นำ
ผู้นำไม่มีความเข้มแข็งจึงทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือและศรัทธา
ผู้นำครอบงำความคิดเห็นของประชาชน
การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนของผู้นำ
กลุ่มประชาชนทั่วไป
ประชาชนมีภาระด้านการประกอบอาชีพ
ประชาชนขาดทุนทรัพย์และวัสดุอุปกรณ์ในการปฎิบัติงาน
ประชาชนเกิดความขัดแย้งกันในด้านความคิดและผลประโยชน์
ประชาชนมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
ประชาชนขาดการศึกษา
ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
ประชาชนขาดความสนใจและไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วม
3 การเสริมสร้างพลัง
การเสริมสร้างพลังอำนาจ
ความหมายของการเสริมสร้างพลังอำนาจ
เป็นกลวิธีที่สำคัญในการพัฒนาสุขภาพของครอบครัว ด้วยการเสริมศักยภาพ สมรรถนะ ความสามารถ การเพิ่มอำนาจการตัดสินใจ อำนาจต่อรอง การเข้าถึงและการจัดการทรัพยากรเพื่อให้ครอบครัวสามารถดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตนมาใช้
การเสริมสร้างพลังชุมชน
การเสริมสร้างพลังชุมชนเป็นการเสริมสร้างสมรรถนะของบุคคลในชุมชนกำหนดขอบเขตของการสร้างเสริมพลังชุมชนมีเก้าด้านขอบเขตเหล่านี้ทำให้บุคคลและชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและการเมือง
บทบาทพยาบาลในการพัฒนาการเสริมสร้างพลังของปัจเจกบุคคล
1.เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านสุขภาพ ชี้นำเรื่องสุขภาพประชาชน นำความคิดมาเเลกเปลี่ยน จนได้ความรู้ใหม่ๆ
2.เป็นผู้กระตุ้น สนันสนุนให้บุคคลเชื่อมั่นในควาใสามารถตนเอง
3.จัดสิ่งเเวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาการเสริมสร้างพลังในการดูเเลตนเอง
4.สนับสนุนให้เกิดนโยบายสาธารณสุขที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
5.ชี้เเนะให้คนในสังคมเห็นความสำคัญในการดูเเลตนเอง
ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างพลัง
1.การอภิปรายกลุ่ม
2.การอภิปรายกลุ่มเล็ก
3.การระดมสมอง
4.การสาธิตเเละนำการปฏิบัติ
5.การเเสดงบทบาทสมมติ
6.การใช้เกมหรือสถานการณ์จำลอง
7.การเล่าเรื่องกรณีศึกษา
8.การโต้วาที
9.การทำเเผนที่การตัดสินใจหรือเเผนภูมิเเขนงกิ่งไม้ของปัญหา
กระบวนการของการเสริมสร้างพลังชุมชน
มีรูปแบบความต่อเนื่อง5จุดหรือ5องค์ประกอบคือ
1.ปฏิบัติการของบุคคล
2.พัฒนาการของกลุ่มช่วยเหลือกันเองขนาดเล็ก
3.เสริมสร้างพลังกลุ่มและองค์กรชุมชน
4.ความเป็นพันธมิตรหรือหุ้นส่วน
5.ปฏิบัติการทางสังคมและการเมือง
ขอบเขตการสร้างเสริมพลังชุมชน**
1 การมีส่วนร่วม
เป็นพื้นฐานของการสร้างเสริมพลังชุมชน
2 ภาวะผู้นำเพราะผู้นำต้องการการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง
5 การระดมทรัพยากร
ความสามารถของชุมชนในการระดมทรัพยากรจากภายในและการต่อรองด้านทรัพยากรเป็นตัวชี้วัดถึงทักษะของชุมชนและองค์กรชุมชน
6 การตั้งคำถาม “ ทำไม ” การถามว่า ทำไม เป็น ความสามารถที่สะท้อนถึงสมมุติฐานทางความคิด
และการกระทำพร้อมหาทางเลือกใหม่ของชีวิต
7 การเชื่อมโยงกับประชากรและองค์กรอื่น
การเชื่อมโยงกับพันธมิตรและหุ้นส่วนด้านสุขภาพเป็นความสามารถของชุมชนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มหรือองค์กรที่ต่างกัน
3 สร้างองค์กร
ในชุมชนมีกลุ่มขนาดเล็กและองค์กรชุมชนใหญ่องค์กรเหล่านี้จะทำให้ประชาชนเข้ามาทำงานร่วมกันในการหาทางออกหรือแก้ปัญหา
8 บทบาทขององค์กรภายนอก
องค์กรภายนอกเป็นตัวเชื่อมสำคัญในการช่วยชุมชนสามารถระดมและรับทรัพยากร
4 การประเมินปัญหา
การประเมินปัญหาเป็นการสร้างเสริมพลังชีวิตที่สำคัญ
9 การบริหารจัดการชุดโครงการ
การจัดชุดโครงการที่เสริมสร้างพลังชุมชนควรมีการควบคุมโดย มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงในการตัดสินใจ
ความสำคัญของการสร้างเสริมพลังในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ
1. ความสำคัญต่อปัจเจกบุคคล
บุคคลที่ได้รับการเสริมสร้างพลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทาง ดังต่อไปนี้
1.1 เพิ่มการนับถือตนเองของบุคคล
บุคคลที่ได้รับการเสริมสร้างพลัง จะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น
1.2 เพิ่มความสามารถของบุคคลในการแก้ปัญหาสุขภาพของตนเอง บุคคลที่ผ่านกระบวนการสร้างเสริมพลังจะได้รับการสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหา
1.3 เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
การเสริมสร้างพลังจะเน้นบุคคลให้ได้เรียนรู้และทำให้บุคคลสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
1.4 เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น
1.5 ลดการพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลและแก้ปัญหาสุขภาพของตนเองและครอบครัวเมื่อบุคคลได้รับการเสริมสร้างพลังจะมองเห็นความสำคัญของคุณค่าของตนเองจะนำไปสู่การลงมือทำและแก้ไขปัญหาสุขภาพของตนเองและครอบครัวโดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่
1.6 มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
บุคคลที่มีความเข้มแข็งในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพจะมีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์สังคม และจิตวิญญาณ
2. ความสำคัญต่อชุมชนสังคมและประเทศชาติ
เมื่อมีการสร้างเสริมพลังของประชาชนในการพึ่งพาตนเองสุขภาพยังส่งผลดีต่อชุมชนสังคมและประเทศชาติ
2.1 ประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการดูแลสุขภาพของตนเอง
การที่ประชาชนได้รับการเสริมสร้างพลังในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพทำให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และมีความรับผิดชอบในการดูแลสุขภาพของตนเอง
2.2 ลดจำนวนผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายในการจัดบริการรักษาพยาบาล
เมื่อบุคคลได้รับการเสริมสร้างพลังให้สามารถพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพได้แล้วจะทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลง
2.3 สถานบริการสาธารณสุขสามารถพัฒนาคุณภาพบริการได้อย่างต่อเนื่องการที่มีจำนวนผู้ป่วยลดลง ทำให้มีงบประมาณและเวลาที่การพัฒนาวิชาการ และคุณภาพบริการ ได้อย่างต่อเนื่อง
2.4 ช่วยสนับสนุนการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทย
เนื่องจากการปฏิรูประบบสุขภาพต้องการให้มีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโดยมีแนวคิดว่า สุขภาพเป็นเรื่องของทุกคน ตามคำขวัญ “ สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง ”
2.5 ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการมีสุขภาพดีของประชาชนในชาติ
การที่ประชาชนในชาติจะมีสุขภาพดีจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมในการดูแลตนเอง
1.ความเข้มเเข็งของครอบครัวเเละชุมชน
พัฒนาการของการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 9
ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม
ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพ
องค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็ม
ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหาร
ชุมชนพึ่งตนเอง ช่วยเหลือกันเอง
มีการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย
ชุมชนต้องมีเครือข่ายและ สร้างเครือข่ายกับชุมชนอื่น ๆ
มีทุนทางสังคมและเศรษฐกิจของตนเอง
ผู้นำดี มีความเสียสละ
คนในชุมชนมีความรักในท้องถิ่นเอื้ออาทรต่อกัน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10
การพัฒนาสุขภาพไทยไปสู่ระบบสุขภาพพอเพียงสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มุ่งสู่ระบบสุขภาพพอเพียงเพื่อสร้างให้สุขภาพดี บริการดี สังคมดี ชีวิตมีความสุขอย่างพอเพียง
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 11
ให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม มุ่งเน้นการสร้างหลักประกันและการจัดบริการที่ครอบคลุม เป็นธรรม
ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี ร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียง เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12
การสนับสนุนและประสานให้เกิดการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน
ระบบสุขภาพไทย เข้มแข็ง เป็นเอกภาพ เพื่อคนไทยสุขภาพดี สร้างประเทศให้ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 13
พลิกโฉมประเทศไทยสู่ สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่า อย่างยั่งยืน
กระบวนการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
2 การกำหนดประเด็นปัญหาของชุมชนและการพัฒนาทางเลือกเพื่อดำเนินกิจกรรม
กระตุ้นให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้คิดหาปัญหา รวมไปถึงการกระจายผลประโยชน์ไปยังบุคคลอื่น ๆ
3.การดำเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน
ต้องมีความสนใจและการมีเป้าหมายร่วมกันของคนในชุมชน ทำให้มีการรวมพลัง
มีการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมปฎิบัติ และระดมทรัพยากร มีการแบ่งหน้าที่ และร่วมตรวจสอบประเมินผล
4 การขยายเครือข่ายความร่วมมือ
ชุมชนจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับทั้งสังคม ชุมชนต้องเปิดตนเองเข้าสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมภายนอกเพื่อให้มีความรู้และประสบการณ์ที่เท่ากัน
1.เตรียมคน หรือพัฒนาทรัพยากรบุคคล
เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา องค์กรหรือชุมชนจะเข้มแข็งได้ ผู้นำและประชาชนต้องมีจิตสำนึก มีคุณธรรม