Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่5 การใช้สูตรและฟักชั่นในการค - Coggle Diagram
บทที่5 การใช้สูตรและฟักชั่นในการค
เครื่องหมายในคารคำนวณ
เครื่องหมายเทนการบวก
-เครื่องหมายเทนการลบ
*เครื่องหมายแทนการคุณ
/ เครื่องหมายเทนการหาร
% เครื่องหมายเทนเปอร์เซ็นค์
ูุุุุุุ^ เครื่องหมายเทนเปอร์เซ็นค์
= เครื่องหมายเท่ากับ
เครื่องหมายมากกว่า
1 more item...
ข้อผิดพลากที่อาจเกิดขึ้นในการกำหนดฟังก์ชั่นและสุตร
NUM!
สาเหตุ
เกิดจากการใช้อาร์กิวเมนต์ผิดประเภท คือ ข้อมูลที่ใช้จะต้องเป็นตัวเลขแต่เราใช้ข้อมูลประเภทอื่น
– ผลลัพธ์ของสูตรที่เราคำนวณได้ค่าตัวเลขที่มากหรือน้อยเกินไป
NULL!
สาเหตุ
เกิดจากใช้เซลล์อ้างอิงผิดทำให้ Excel ไม่สามารถกำหนดเซลล์ที่ต้องการได้
REF!
สาเหตุ
เซลล์ที่เราอ้างถึงในสูตรถูกลบหรือเซลล์นั้นถูกข้อมูลอื่นย้ายมาทับ
– มีการอ้างถึงข้อมูลของโปรแกรมอื่นที่ไม่ได้กำลังทำงานอยู่
สาเหตุ
สาเหตุ
ข้อมูลตัวเลขที่เราใส่ลงไปในเซลล์ยาวกว่าความกว้างของเซลล์
– ผลลัพธ์ของสูตรคำนวณยาวเกินไป
– นำค่าข้อมูลมาลบกันแล้วมีค่าติดลบ
NAME!
สาเหตุ
มาจาก
ชื่อเซลล์ที่ใช้ในสูตรสะกดผิดหรือไม่มีชื่อเซลล์นนั้น
– ชื่อฟังก์ชันที่ใช้ในสูตรสะกดผิด
– การใส่ข้อความในสูตรโดยที่ไม่ใส่ “ ” คร่อมข้อความนั้นซึ่ง Excel จะตีความว่าข้อความนั้นเป็นชื่อเซลล์
– ไม่ใส่เครื่องหมาย : (Colon) เมื่อมีการอ้างถึงเซลล์ที่เป็นช่วง (A1:A10)
VALUE!
สาเหตุ
ป็นการใช้ operand ผิดประเภท เช่นการใช้ข้อมูลตัวเลขคำนวณกับข้อมูลข้อความ
– ใช้อาร์กิวเมนต์ผิดประเภท
N/A
1 more item...
DIV/0
สาเหตุ
1 more item...
ประเภทของฟังก็ชันและฟังก็ชันที่ใช้งาน
ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์
ฟังก์ชันทางตรรกศาสตร์
ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับวันที่
ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับเวลา
ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการเงิน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับตัวอักษร
ฟังก์ชันในการค้นหาข้อมูล
ฟังก์ชันทางสถิติ
9ฟังก์ชันทางด้านวิศวกรรม
ฟังก์ชันในการจัดการฐานข้อมูล
6 ฟังก์ชั่นกี่เกี่ยวกับตัวอักษร
ฟักง์ชั่นที่ใช้งาน
SUM
SUM (การหาผลรวมของข้อมูล)
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาผลรวมซึ่งสามารถใส่ได้มากกว่า 1 กลุ่ม
โดยใช้เครื่องหมาย, คั่นกลางระหว่างแต่ละกลุ่มข้อมูล เช่น ให้หา
ผลรวมตั้งแต่เซลล์ A1 ถึงเซลล์ A10
ตัวอย่าง =SUM(A1:A10)
sUM(Number1,Number2,...)
max
MAX (การหาค่าสูงสุดของจำนวน)
รูปแบบ
=MAX(Number1,Number2,...)
Number
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาค่าสูงสุด เช่น ให้หาค่าสูงสุดขอ
B2 ถึงเซลล์ F2
ตัวอย่าง =MAX(B2:F2)
5.
รูปแบบ
=AVERAGE(Number1,Number2,..)
Number
ป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาค่าเฉลี่ย เช่น ให้หาค่าเฉลี่ยของเซลล์
F1 ถึงเซลล์ F8
ตัวอย่าง =AVERAGE(F1:F8)
AVERAGE (การหาค่าเฉลี่ยของข้อมูล)
6.
COUNT (การนับจำนวนข้อมูลที่เป็นเฉพาะตัวเลข)
รูปแบบ
=COUNT(Value1,Value2,...)
Value
ช่วงของกลุ่มเซลล์ที่นำมาใช้ในการนับจำนวน เช่น ให้นับจำนวนรหัสนักเรียน
ว่ามีกี่คน โดยอ้างที่เซลล์ C2 ถึงเซลล์ C10
ตัวอย่าง =COUNT(C2:C10)
7.
COUNTA (การนับจำนวนข้อมูลที่เป็นทั้งข้อความและตัวเลขปนกัน)
รูปแบบ
=COUNTA(Value1,Value2,...)
Value
ช่วงของกลุ่มเชลล์ที่นำมาใช้ในการนับจำนวน เช่น ให้นับรหัสของสินค้าว่า
มีจำนวนเท่าใด โดยอ้างที่เซลล์ A3 ถึงเซลล์ A20
ตัวอย่าง =COUNTA(A3:A20)
8.
รูปแบบ
COUNTIF (การนับจำนวนข้อมูลแบบมีเงื่อนไข)
COUNTIF(Range,Criteria)
Range
Criteria
ช่วงของเซลล์ที่ต้องการนับตามเงื่อนไข
เงื่อนไขที่ใช้ตรวจสอบและนับจำนวนของเซลล์ เช่น ให้นับเฉพาะนักเรียน
ที่ผ่านกิจกรรมชมรม โดยอ้างอิงที่เซลล์ 62 ถึงเซลล์ G40
ตัวอย่าง =COUNTIF(G2:G40, "ผ่าน")
9.
VAR (การหาค่าความแปรปรวน)
=VAR(Number1,Number2...)
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาค่าความแปรปรวน เช่น ให้หาค่าความ
แปรปรวนที่เซลล์ C1 ถึงเซลล์ C16
รูปแบบ
Number
ตัวอย่าง =VAR(C1:C16)
10.
STDEV (การหาค่าเยี่ยงเบนมาตรฐาน)
รูปแบบ
=STDEV(Number1,Number2,...)
Number
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เช่น ให้หาค่าเบี่ยงเบน
มาตรฐานที่เซลล์ B1 ถึงเซลล์ B8
ตัวอย่าง =STDEV(B1:B8)
11.
MEDIAN (การหาค่ากลาง)
รูปแบบ
=MEDIAN(Number1,Number2,..)
Number
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการหาค่ากลาง เช่น ให้หาค่กลางที่เซลล์ G4
ถึงเซลล์ G9
ตัวอย่าง =MEDIAN(G4:G9)
12.
ROUND (การปัดจุดทศนิยมขึ้นหรือลง)
รูปแบบ
=ROUND(Number,Num_digits)
Number
digits จำนวนหลักของทศนิยม เช่น ให้กำหนดทศนิยมเป็น 0 ที่เซลล์
เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการกำหนดปัดจุดทศนิยม
ตัวอย่าง =ROUND(C3:C6,0)
13.
IF (การหาค่าจริงหรือเท็จจากเงื่อนไขที่ระบุ)
รูปแบบ
=IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false)
เงื่อนไขที่ใช้ในการเปรียบเทียบหรือตรวจสอบข้อมูล
Value_ if true
ค่าของเงื่อนไขที่ถูกต้อง (จริง)
ค่าของเงื่อนไขที่ไม่ถูกต้อง (เท็จ) เช่น ถ้าที่เซลล์ B2 มากกว่าหรื
Value if false
60 ให้แสดงผ่าน ถ้าที่เซลล์ B2 น้อยกว่า 60 ให้แสดงไม่ผ่าน
ตัวอย่าง =IF(B2> =60,"ผ่าน", "ไม่ผ่าน")
14.
DATE (การระบุข้อมูลที่เป็นวันที่)
รูปแบบ
=DATE(Year, Month, Day)
Year
ใส่ค่า ค.ศ.
Month
ใส่ค่าเดือน
Day
ใส่ค่าวันที่
ตัวอย่าง =DATE(2010,06,11) ผลลัพธ์ 11 มิถุนายน 2010
15.
DATEDIF (การระบุเงื่อนไขในการหาข้อมูลที่เป็นวันที่)
รูปแบบ
=DATEDIF(ระบุเงื่อนไข)
ตัวอย่าง =DATEDIF(F2,TODAY(),"Y")&" ปี
"&DATEDIF(F2,TODAY,"YM")&" เดือน
หากผู้ใช้พิมพ์ข้อมูลที่ช่อง F2 คือ 5/12/1985
ผลลัพธ์ คือ อายุ 24 ปี 4 เดือน
Logical
16.
NOW (การหาวันที่และเวลาปัจจุบัน
วอย่าง =NOW() ผลลัพธ์ 7/11/2015 14:
รูปแบบ
=NOW()
17.
HOUR (การหาชั่วโมง)
รูปแบบ
=HOUR(Serial_number)
SeriaLl_number ค่ของตัวเลขหรือข้อความที่อยู่ในรูปแบบของเวลา เช่น ที่เซลล์ A5 คือ
8:32 น. ให้หาชั่วโมง
ตัวอย่าง =HOUR(A5) ผลลัพธ์ 8
VLOOKUP (การค้นหาและแสดงข้อมูล)
=VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,olndx_num,Range_lookup)
Lookup_value ค่าที่ใช้ในการค้นหา
Table array
ตารางข้อมูลที่ใช้สำหรับแสดงผลและค้นหาข้อมูล
Col index num คอลัมน์ที่ต้องการข้อมูล โดยคอลัมน์แรกมีค่าเป็น 1 และคอลัมน์ต่อไป
จะเป็น 2,3...ตามลำดับ
Range_lookup
ค่าทางตรรกะที่กำหนดในการค้นหามี 2 รูปแบบ
False
ใช้ค้นหาค่าที่ตรงกับค่าที่ใช้ในการค้นหา
ใช้ค้นหาค่าที่ใกล้เคียงที่สุดที่น้อยกว่าค่าในการค้นหา
รูปแบบ
การอ้างอิงแบบสัมพัทธ์
การอ้างอิงเซลล์เป็นการอ้างอิงแบบสัมพัทธ์ ซึ่งหมายความว่าการอ้างอิงจะสัมพันธ์กับสถานที่ตั้งของเซลล์ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอ้างอิงไปยังเซลล์ A2 จากเซลล์ C2 หมายถึงคุณหมายถึงเซลล์ทางด้านซ้ายสองคอลัมน์ (C ลบ A) ในแถวเดียวกัน (2) เมื่อคุณคัดลอกสูตรที่มีการอ้างอิงเซลล์แบบสัมพัทธ์ การอ้างอิงนั้นในสูตรจะเปลี่ยนไป
การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์
มื่ออ้างอิงเซลล์ในสูตรใน Excel ประเภทการอ้างอิงเริ่มต้นคือการอ้างอิงแบบสัมพัทธ์ การอ้างอิงเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเมื่อสูตรถูกคัดลอกไปยังเซลล์อื่นตามคอลัมน์และแถวที่สัมพันธ์กัน ถ้าคุณต้องการให้การอ้างอิงคงที่ โดยไม่คำนึงว่าสูตรจะถูกคัดลอกไปที่ใด คุณต้องใช้การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์
การคำนวณข้ามแผ่นงาน
Work sheet คือ sheet1, sheert2, sheet3 อยู่ต่าง Work sheet กัน ซึ่งจะใช้สูตรคำนวณต่าง Work sheet คือ
=ชื่อsheet! ชื่อเซลล์
ตัวอย่างเช่น
=Sheet1!D10 ——–>> คือ sheet1 เซลล์ D10